วิชาไสยศาสตร์เคยรุ่งเรืองในประเทศไทยเมื่อสมัยก่อน โดยย้อนหลังไปประมาณร้อยกว่าปี จะเห็นได้ว่าในยุคนั้นมีพระเกจิคณาจารย์ที่มีวิชาทั้งพุทธาคมและเวทมนตร์อันเข้มขลัง สามารถแสดงฤทธิ์บันดาลสิ่งใดๆให้เกิดขึ้นได้อย่างเหนือเหตุเหนือผล ถึงแม้พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังท่านจะละสังขารไปนานแล้วแต่วัตถุมงคลของท่านที่ปลุกเสกไว้ก็ยังทำให้พุทธศาสนิกชนดิ้นรนไฝ่หามาบูชาติดตัวเพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต
วิชาไสยศาสตร์ ผู้ที่จะเรียนแล้วสำเร็จได้ตามที่ใจปรารถนานั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตเข้มแข็งและเป็นผู้ที่ท่องมนต์คาถาได้อย่างแม่นยำไม่ผิดเพี้ยนจึงจะทำให้เกิดผลตามที่ต้องการ การเรียนวิชาไสยศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ ไสยขาว กับ ไสยดำ
ไสยขาว จะเอาไว้ป้องกันตัวและช่วยเหลือผู้อื่นที่ถูกกระทำมาหรือถูกลมเพลมพัดที่ผู้เรียนทางไสยดำปล่อยของออกมา
ไสยดำ ผู้เรียนมักจะเป็นฆราวาสที่มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต สามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น ส่วนใหญ่แล้วพวกที่เรียนวิชาไสยศาสตร์ประเภทนี้จะเป็นฆราวาสที่มีจิตใจลุ่มหลงทะนงตน อาฆาตพยาบาทและโลภอยากได้อามิสสินจ้างรางวัลเพื่อมาสร้างความสุข ให้ตนเอง ศาสตร์ทางไสยดำมีหลายแขนง ซึ่งแต่ละแขนงเป็นวิชาที่โหดร้าย อาทิเช่น คุณไสยเสกตะปูเข้าท้อง เสกหนังคลายเข้าท้อง บิดไส้ ดีดน้ำมันพรายให้สาวหลง หรือแม้แต่แปลงร่างเป็นสัตว์ร้ายอย่างเสือหรือจระเข้ก็สามารถทำได้
มีเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกบันทึกไว้ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับบุคคลธรรมดา แต่เป็นถึงลูกของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ชื่อ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ครั้งนั้นพระองค์ล่องเรือกลับมาทางจังหวัดชัยนาท และกำลังจะผ่านหน้าวัดปากคลองมะขามเฒ่า ปรากฏว่าเครื่องเรือดับต้องนำเรือเข้าจอดเทียบที่หน้าวัด ที่ท่าน้ำนั้นมีภิกษุสูงอายุนั่งอยู่กับกองหัวปลี ท่านชื่อหลวงปู่ศุข พระภิกษุได้หยิบหัวปลีขึ้นมาเสกแล้ววางหัวปลีลงพื้น ปรากฏว่าหัวปลีได้กลายเป็นกระต่ายวิ่งเล่นอย่างร่าเริง ยังความตื่นตะลึงให้กับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ยิ่งนัก พระองค์เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ศุขจึงฝากตัวเป็นศิษย์ และหลวงปู่ศุขยังแสดงให้พระองค์เห็นการเสกทหารของท่านให้เป็นจระเข้...นี่คือเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ในความเข้มขลังของวิชาไสยศาสตร์
หลากหลายเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดจากฤทธิ์ร้ายแห่งคุณไสยได้ถูกนำมาเปิดเผยรายละเอียดแล้วในเล่มนี้ นี่คือเรื่องจริงที่ถูกบันทึก เร้นลับ สยดสยอง ตายโดยหาสาเหตุไม่เจอ ท่านเชื่อหรือไม่?
|