แจ็ค หม่า เจ้าของบริษัท อาลีบาบา (Alibaba) ที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังของจีน นั้นมีแนวทางความคิดล้ำหน้า สามารถสร้างธุรกิจที่ทำเงินให้กับตัวเองได้เป็นกอบเป็นกำ...เพียง 10 ปีเขารวยนับแสนล้าน ซึ่งวิธีคิดอย่างนี้ไม่มีอยู่ในบุคคลธรรมดา เขาจะต้องมองการณ์ไกลได้อย่างลึกซึ้งและเฉียบขาด นอกจากวิธีคิดที่ลึกล้ำแล้ว แจ็ค หม่ายังจะต้องทำแนวคิดนั้นให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้จริง ๆ และสามารถโกยเม็ดเงินเข้ากระเป๋าได้จริง ๆ อีกด้วย

แน่นอนเหลือเกินว่า การดำเนินธุรกิจอาลีบาบาย่อมต้องมีอุปสรรคขวากหนามมากมาย ไม่ใช่ได้มาเหมือนการปอกกล้วยเข้าปาก...ธุรกิจที่ได้กำไรมากย่อมมีอุปสรรคมากเป็นเงาตามตัว ฉะนั้น แจ็ค หม่า ผู้ดำเนินการจะต้องสามารถแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดีจึงจะนำพาธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปอย่างราบรื่น

แจ็ค หม่า เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 1964 ชื่อเดิมเรียกกันว่า หม่า หยุน เกิดที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ในครอบครัวอุปรากรจีน หรือเรียกว่าการแสดงงิ้ว พอเขาอายุได้สองปี แผ่นดินจีนได้มีการปฏิวัติวัฒนธรรม โดยประธานเหมา เจ๋อตุง ผู้นำลัทธิคอมมิวนิสต์ ห้ามแสดงอุปรากรจีน ประเพณีดั้งเดิมต่าง ๆ ทั้งหมด

ถูกสั่งห้ามและทำลายทิ้งไปสิ้น ครอบครัวของแจ็ค หม่า จึงต้องหันไปเป็นเกษตรกรจำเป็นเพื่อดำรงชีพต่อไป

เมื่อแจ็ค หม่า เติบโตขึ้นท่ามกลางเด็กในวันเดียวกัน เขาได้แสดงความโดดเด่นที่ผิดแผกแปลกไปจากเด็กที่วิ่งเล่นด้วยกัน เขาชอบที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับชาวตะวันตกที่เข้าไปเที่ยวในประเทศจีน วิธีการของเขาก็คือ จะไปหาโอกาสพูดคุยกับฝรั่งที่หน้าโรงแรมและขอเสนอตัวเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นพาลูกค้าโรงแรมไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่คิดค่าจ้าง แต่สิ่งที่แจ็ค หม่าได้คือ เขาสามารถฝึกภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี นี่คือวิธีคิดของแจ็ค หม่าในวัยเพียง 12 ขวบ!

ภาษาอังกฤษของแจ็ค หม่า ดีขึ้นอย่างทันตาเห็น และแล้วโชคก็ช่วยให้เขาได้พบกับเคน มอร์ลีย์ ชาวออสเตรเลีย ที่มาเที่ยวเมืองหางโจว ซึ่งครอบครัวนี้ให้ความเมตตาและความรักกับเด็กชายแจ็ค หม่าเป็นพิเศษ เขาทั้งช่วยสอนภาษาอังกฤษให้แจ็ค หม่า และยังเปิดโอกาสให้แจ็ค หม่าไปเที่ยวบ้านที่ออสเตรเลีย ที่นั่นทำให้

แจ็ค หม่าได้เห็นโลกกว้างขึ้น โดยเฉพาะเขาเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ต ซึ่งในประเทศจีนยังไม่มี

ในตอนนั้นเขาได้แต่คิดและเก็บเอาโลกที่ก้าวหน้าของฝรั่งไว้ในสมอง ในขณะที่ต้องหันมาจัดการกับชีวิตของตัวเอง เขาพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่เขาสอบเข้าไม่ได้ วิชาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาคือวิชาคณิตศาสตร์ 

คะแนนเต็ม 120 เขาสอบได้ 1 คะแนนเท่านั้น แจ็ค หม่าพยายามอย่างที่สุดแล้วในปีต่อ ๆ มาก็สามารถสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยหางโจวได้สำเร็จ

ที่วิทยาลัยหางโจว แจ็ค หม่าได้พบกับจาง หยิง สาวสวยที่เรียนอยู่ที่เดียวกัน จาง หยิงมองผ่านความไม่หล่อของแจ็ค หม่า แล้วเห็นความเป็นคนเก่งของแจ็ค หม่า โดยเฉพาะเรื่องภาษาอังกฤษของเขาโดดเด่นเป็นอันดันต้น ๆ ของวิทยาลัย และของเมืองหางโจว หลังจากเรียนจบ ความรักความเข้าใจทำให้ทั้งสองตัดสินใจแต่งงานเริ่มชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน

แจ็ค หม่า หาอาชีพแรกด้วยการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่เขาถนัดและรับแปลเอกสารภาษาอังกฤษ แต่ค่าแรง ค่าตอบแทนต่าง ๆ ได้เพียงน้อยนิดไม่พอต่อการดำรงชีพ เขาจึงมองหาช่องทางทำธุรกิจใหม่ ๆ ซึ่งคิดว่าน่าจะมีรายได้มากกว่าการเป็นครู ในที่สุดเขาลาออกเปลี่ยนอาชีพที่คิดว่าได้เงินมากกว่า

แจ็ค หม่าร่วมกับเพื่อนที่สนิทและรู้ใจดำเนินการก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา เพื่อให้เป็นพื้นที่สื่อกลางการซื้อการขายของสัญชาติจีน การก่อตั้งแรก ๆ เขาโดนกล่าวหาว่าหลอกลวงเป็นพวก 18 มงกุฎ เขาต้องอดทนจนกระทั่งมีเจ้าของสินค้าที่ทดลองนำสินค้ามาลงโฆษณาในเว็บอาลีบาบา ปรากฏว่าสินค้าขายดี ขายไปทั่วโลก ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เขาไปยืนโฆษณาขายตามพื้นที่ข้างถนนเพื่อให้คนสนใจหันมาใช้โฆษณาทางอินเตอร์เน็ต  การที่มีลูกค้าประสบความสำเร็จจากการโฆษณาซื้อ-ขายในเว็บอาลีบาบา ทำให้เกิดกระแสร่ำลือกันปากต่อปาก อาลีบาบาจึงโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แจ็ค หม่าทำธุรกิจมา 10 ปี มีเงินไหลเข้ากระเป๋านับแสนล้านบาท 

อ่านชีวิตการต่อสู้ของ แจ็ค หม่า อย่างละเอียดได้ในเล่มแล้วจะรู้ว่าเขาสู้อย่างไรจึงชนะ...ร่ำรวยอย่างมหาศาล