"สินค้าพร้อมส่งเดือนพฤกษาคม....สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้"
สามก๊ก เป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง ซึ่งผู้เขียน คือ หลัว กวั้นจง ที่มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของก๊กหนึ่งเขียนขึ้นในปีพ.ศ. 763-823
แผ่นดินจีนนั้นกว้างใหญ่มหาศาล และเปลี่ยนผ่านผู้นำในแต่ละยุคมามากมายด้วยกัน ในช่วงเวลาพ.ศ. 763-823 เป็นช่วงที่แผ่นดินจีนมีความแตกแยกแบ่งออกเป็นก๊กเป็นเหล่าชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ที่โดดเด่นและผู้นำก๊กที่เข้มแข็งมีอยู่ 3 ก๊ก
โจโฉ เป็นผู้นำที่มีบทบาทและถูกกล่าวขานมากที่สุดในสามก๊ก เขาเข้ารับราชการเมื่ออายุครบ 20 ปี แล้วต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้บังคับการกรมทหารม้าเร็ว ด้วยความสามารถและไหวพริบดีเยี่ยมทำให้ได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพของฝ่ายราชวงศ์ฮั่นเพื่อออกปราบกบฏ โจโฉเก่งทั้งบู๊และบุ๋น เขาบัญชาการรบด้วยมันสมองและความเด็ดขาด
โจโฉใช้การทูตนำการทหาร เมื่อสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับศึกหนัก ศัตรูมีอำนาจและบารมีที่เหนือกว่า โจโฉจะใช้เวลามาช่วยในการรบแล้วใช้วิธีทางการทูตเจรจาตามแผนยุทธศาสตร์ ถอนฟืนใต้เตา คือการดึงคนเก่งออกจากศัตรูให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ศัตรูอ่อนแอลงทันที
โจโฉใช้หลักการบริหารอ่านคนให้ออก โจโฉจะพิจารณาผู้ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการทำศึกว่าจะส่งผลให้แพ้หรือชนะได้ อย่างเช่น ลิโปเป็นคนมีความสามารถจะประมาทให้ไปอยู่ฝ่ายศัตรูไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ดึงคนเก่งมาเป็นพวก ลิโป้เป็นคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าจนกลายเป็นผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์ โจโฉจึงมอบตำแหน่งขุนนางให้ ลิโป้พึงพอใจยอมทำงานเป็นกำลังให้โจโฉอย่างเต็มที่
นี่คือวิธีคิดวิธีบริหารที่โจโฉนำมาใช้ในการรบชิงความเป็นใหญ่ในสามก๊ก และเป็นเพียงส่วนน้อยที่นำมาเป็นตัวอย่าง ส่วนสำคัญๆยังอยู่ในเล่มอีกมาก หากท่านผู้อ่านได้นำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับชีวิตอย่างสูงสุด...โดยอยู่ที่การนำมาปรับใช้ให้ถูกกับสถานที่และกาลเวลา เพียงเท่านี้ก็เชื่อว่าสามก๊กจะมีประโยชน์...มีคุณอนันต์กับผู้อ่านทุกคน
|
"สินค้าพร้อมส่งเดือนพฤกษาคม....สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้" สามก๊ก เป็นวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง ซึ่งผู้เขียน คือ หลัว กวั้นจง ที่มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของก๊กหนึ่งเขียนขึ้นในปีพ.ศ. 763-823 แผ่นดินจีนนั้นกว้างใหญ่มหาศาล และเปลี่ยนผ่านผู้นำในแต่ละยุคมามากมายด้วยกัน ในช่วงเวลาพ.ศ. 763-823 เป็นช่วงที่แผ่นดินจีนมีความแตกแยกแบ่งออกเป็นก๊กเป็นเหล่าชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ที่โดดเด่นและผู้นำก๊กที่เข้มแข็งมีอยู่ 3 ก๊ก โจโฉ เป็นผู้นำที่มีบทบาทและถูกกล่าวขานมากที่สุดในสามก๊ก เขาเข้ารับราชการเมื่ออายุครบ 20 ปี แล้วต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้บังคับการกรมทหารม้าเร็ว ด้วยความสามารถและไหวพริบดีเยี่ยมทำให้ได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพของฝ่ายราชวงศ์ฮั่นเพื่อออกปราบกบฏ โจโฉเก่งทั้งบู๊และบุ๋น เขาบัญชาการรบด้วยมันสมองและความเด็ดขาด โจโฉใช้การทูตนำการทหาร เมื่อสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับศึกหนัก ศัตรูมีอำนาจและบารมีที่เหนือกว่า โจโฉจะใช้เวลามาช่วยในการรบแล้วใช้วิธีทางการทูตเจรจาตามแผนยุทธศาสตร์ ถอนฟืนใต้เตา คือการดึงคนเก่งออกจากศัตรูให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ศัตรูอ่อนแอลงทันที โจโฉใช้หลักการบริหารอ่านคนให้ออก โจโฉจะพิจารณาผู้ที่เป็นตัวแปรสำคัญในการทำศึกว่าจะส่งผลให้แพ้หรือชนะได้ อย่างเช่น ลิโปเป็นคนมีความสามารถจะประมาทให้ไปอยู่ฝ่ายศัตรูไม่ได้ เขาจึงใช้กลยุทธ์ดึงคนเก่งมาเป็นพวก ลิโป้เป็นคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าจนกลายเป็นผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์ โจโฉจึงมอบตำแหน่งขุนนางให้ ลิโป้พึงพอใจยอมทำงานเป็นกำลังให้โจโฉอย่างเต็มที่ นี่คือวิธีคิดวิธีบริหารที่โจโฉนำมาใช้ในการรบชิงความเป็นใหญ่ในสามก๊ก และเป็นเพียงส่วนน้อยที่นำมาเป็นตัวอย่าง ส่วนสำคัญๆยังอยู่ในเล่มอีกมาก หากท่านผู้อ่านได้นำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับชีวิตอย่างสูงสุด...โดยอยู่ที่การนำมาปรับใช้ให้ถูกกับสถานที่และกาลเวลา เพียงเท่านี้ก็เชื่อว่าสามก๊กจะมีประโยชน์...มีคุณอนันต์กับผู้อ่านทุกคน 
