ไม่มีใครคาดคิดว่า ระเบิดถังแก๊สปิคนิคที่หน่วย EOD ของ "นาวาเอก ชัยสิทธิฺ เตชะสว่าง" หรือ "หมวดเนท" ได้ทำการถอดสลักตัดวงจรระเบิดแล้วนั้น จะสามารถระเบิดได้อีก! นี่คือการวางวงจรระเบิดสองชั้น แบบที่เรียกว่า "วงจรแบบหัวล้านชนกัน" ... ขั้นตอนในการกู้ระเบิดนั้น เมื่อตัดวงจรระเบิดแล้ว จะต้องมีการเก็บหลักฐานไปตรวจสอบเพื่อศึกษา และขณะเก็บหลักฐานอยู่นั้นเอง วงจรที่ซ่อนอยู่ก็ได้ระเบิดขึ้น ส่งผลให้หมวดเนท พร้อมพร้อมลูกน้องในทีมอีก 2 คนเสียชีวิตคาที่ และบาดเจ็บอีกหลายราย ซึ่งนี่อาจเป็นความพยายามในการแก้แค้นของโจรใต้ จากรณีนายทหารนาวิกโยธินสังหาร "นายมะรอโช จันทรวดี" และพวก 15 คนที่บุกฐานนาวิกโยธิน
"หากจะต้องตาย ขอตายในหน้าที่ชายชาติทหารดีกว่า" นี่คือคำพูดของหมวดเน็ตที่เคยกล่าวไว้กับคนในครอบครัว... อะไรคือสาหตุให้นายทหารกล้าวัยเพียง 28 ปีคนนี้ ตัดสินใจลงใต้ ทั้งที่มีทางเลือกมากมายในเส้นทางทหาร? สิ่งใดที่หล่อหลอมให้เขาสามารถยอมสละได้แม้ชีวิตเพื่อดูแลประชาชนและประเทศชาติที่เขารัก? เรื่องราวและวีรกรรมของหมวดเนท จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กหนุ่มผู้ใฝ่ฝันจะเป็นทหารเรือ เป็นแบบอย่างและกรณีศึกษาให้กับทหารทุกนาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรือหน่วย EOD ที่ยังคงต้องปฏิบัติภารกิจอันทรงเกียรตินี้ เพื่อเป็นหลักประกันให้กับประชาชนไทยว่า ทหารเรือทุกนายจะยังคงเป็นความหวังให้กับประเทศชาติและประชาชนตลอดไป |