Topic :
Wii ครองส่วนแบ่งตลาดคอนโซลโลก 47 %
«date:
09 เมษายน 2553 , 11:03:10 » |
 แก้ไข
  |
ไอบิส แคปปิทัลนำเสนอรายงานข้อมูลการลงทุนในอุตสาหกรรมเกมโลกออกมาให้เราได้ทราบเป็นความรู้เกี่ยวกับต้นทุนในการพัฒนาเกมที่มีแน้วโน้มสูงขึ้น ขณะเดียวก็ยังชี้ให้เห็นว่า เครื่อง Wii สามารถทำรายได้ครองตลาดโลกอยู่ประมาณ 47 %
จากรายงานระบุว่า ต้นทุนเฉลี่ยการพัฒนาซอฟต์แวร์เกมของเครื่อง Xbox360 และ PS3 อยู่ระหว่าง 15-30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเกม (450-970ล้านบาท) เมื่อต้นทุนในการผลิตสูง บริษัทพัฒนาเกมจำเป็นจะต้องขายเกมให้ได้ระหว่าง 500,000-1 ล้านชุดเพื่อทำให้ไม่ขาดทุน นอกเหนือจากนี้ ยังต้องมีค่าการตลาดที่อาจมีจำนวนเม็ดเงินสูงกว่าการพัฒนาเกมเสียด้วยซ้ำในบางเกม
เมื่อนำตัวเลขไปเปรียบเทียบกับต้นทุนการพัฒนาซอฟต์แวร์เกมของเครื่องรุ่นเก่าๆอย่าง Xbox,PS2 และ เกมคิวบ์ ต้นทุนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3-5 ล้านเหรียญสหรัฐ (97-162ล้านบาท) ส่วนเครื่อง Wii ของนินเทนโดมีต้นทุน 5-7 ล้านเหรียญสหรัฐ (162-226ล้านบาท)
ด้านตัวเลขยอดจำหน่ายเกมโดยรวมในปี 2009 อยู่ที่ 77,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,500ล้านล้านบาท เทียบกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ 85,000ล้านเหรียญสหรัฐ (2,755ล้านล้านบาท) ทั้งนี้ ไอบิสมองว่า เกมออนไลน์,เกมบนโทรศัพท์มือถือ และเกมจากเครื่องคอนโซลรุ่นใหม่จะเป็นตัวช่วยให้สัดส่วนตัวเลขขยับขึ้นจากเดิมในปีนี้ พร้อมชี้ว่าค่ายเกมอินดี้อาจจะได้รับความเสี่ยงในการลงทุนและต้องดิ้นรนในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด มากกว่าค่ายเกมใหญ่ที่มีทุนหนากว่า
ไอบิสรายงานต่อว่า เกมจากเครื่อง Wii มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงกว่าเกมจากแพลตฟอร์มอื่น อยู่ที่ 47 % ตามมาด้วยเครื่อง Xbox360 ประมาณ 35 % และเครื่อง PS3 ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 18 % ตลาดเกมคอนโซลในภาพรวมปี 2009 อยู่ที่ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (970,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ไอบิสคาดว่าในปี 2013 เกมคอนโซลจะทำรายได้แตะ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับมีแพลตฟอร์มใหม่ออกมาในปี 2013-2014 ตลาดหลักๆจะอยู่ที่อเมริกาเหนือและยุโรป ขณะเดียวกัน ตลาดเกมคอนโซลในเอเชียอาจจะดูไม่รุ่งนัก สืบเนื่องจากเป็นตลาดที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์สูงและเด่นในเรื่องเกมออนไลน์มากกว่า
สิ่งที่น่าจะมาในเครื่องเกมยุคที่ 9 ก็คือ การจำหน่ายเกมในรูปแบบดิจิตอล โดยไม่ต้องใช้แผ่นดิสก์ เห็นได้จากบรรดาผู้ผลิตเกมคอนโซลทั้งหมดได้นำร่องระบบนี้มาให้เห็นแล้วในปัจจุบัน อาทิ โซนี่,ไมโครซอฟท์,นินเทนโด และร้านเกมสต็อป หนึ่งในการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่เห็นได้ชัดในตอนนี้ คงเป็นเกมในระบบเครือข่ายสังคมบนเฟซบุ๊ก เกมที่ทำรายได้กลับมาอย่างน่าพอใจ อาทิ ฟาร์มวิลล์ และเพ็ต โซไซตี้ โดยตลาดเกมกลุ่มแคชวล ออนไลน์นั้นทำรายได้ทั่วโลกในปี 2007 อยู่ที่ 2,250 ล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2009 ตัวเลขขยับมาเป็น 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมทำนายว่าในปี 2012 เราจะมีผู้เล่นเกม MMO อยู่ที่ 30 ล้านคน เพิ่มขึ้นสองเท่าตัวจากในปัจจุบัน 15 ล้านคน โดยชี้ว่าเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีความยากในการแข่งขันและมีต้นทุนในการสร้างค่อนข้างสูง
|
|
|
