วันที่ผมซื้อ PS Vita (ธ.ค.54) ผมคาดหวังว่าในอนาคตมันจะมีอุปกรณ์เสริมเพื่อต่อเข้ากับ TV ผมเดาเอาว่า sony น่าจะวางแผนงานส่วนนี้เอาไว้ในช่อง Accessory Port ที่อยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง และปัจจุบันยังไม่มีการใช้งานใดๆ (ช่องนี้ไม่มีในรุ่น PCH-2000) แต่แล้วในวันที่ 9 ก.ย.56 ก็มีข่าวเซอร์ไพรซ์จากทางโซนี่ว่าจะวางจำหน่าย PS Vita TV ในราคา 9,480 เยน (โซน 2) โดยจะเน้นวางจำหน่ายในตลาดเอเชีย แต่ยังไม่มีความชัดเจนที่จะวางจำหน่ายในตลาดยุโรป-อเมริกา PS Vita TV คืออะไร? คำตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือเครื่องเกม PS Vita ที่ใช้ต่อเล่นกับ TV ตัวเครื่องต้องใช้งานร่วมกับจอย PS3 และเม็มโมรีพิเศษของ PS Vita เมื่อวิเคราะห์ในเชิงธุรกิจก็ดูเหมือน Position ทางการตลาดของ sony จะคลุมเครือไปสักหน่อย เพราะในตลาดแฮนด์เฮลด์มันก็มี PSP , PS Vita ส่วนตลาดคอนโซลมันก็มี PS3 , PS4 หรือถ้าจะบอกว่าเป็นการแก้ปัญหาวิกฤตยอดขายของ PS Vita โดยเพิ่มช่องทางขายเครื่องราคาถูกลง (รุ่น PCH-2000) และเจาะกลุ่มตลาดผู้เล่นคอนโซลที่นิยมนั่งเล่นเกมอยู่ในบ้าน (PS Vita TV) มันก็อาจจะเป็นไปได้ แต่มันจะแก้ปัญหาวิกฤตยอดขายเครื่อง PS Vita ได้ตรงจุดอย่างนั้นหรือ? หลังจากแกะกล่อง PS Vita TV ออกมา (ชุด bundle ในกล่องจะมาพร้อมจอย PS3 และเม็มโมรี่ 8G) ผมก็พบว่าขนาดของเครื่องมันเล็กมาก มีขนาดเพียง 6.5 x 10.5 ซม. และบางเพียง 1.4 ซม. ตัวเครื่องมีน้ำหนัก 110 กรัม ลองจินตนาการถึงสมาร์ทโฟนในมือคุณ ขนาดของ PS Vita TV มันก็ประมาณนั้นเลยครับ ตัวเครื่องมีช่องเสียบอยู่ 6 จุด คือช่องใส่แผ่นเกม PS Vita (ช่องนี้ช่องเดียวที่มีฝาปิด) , ช่องใส่เม็มโมรี่พิเศษของ PS Vita , ช่องเสียบสาย USB (ใช้งานครั้งแรกต้องต่อสายซิงค์กับจอย PS3) , ช่องสาย HDMI (มีแถมมาในกล่อง) , ช่องเสียบสาย LAN (ถ้ามีไวไฟก็ไม่ต้องใช้) และช่องเสียบสายไฟ 5V ใกล้ๆกันจะมีปุ่มพาวเวอร์เปิด-ปิดเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องจะมีไฟสีขาวเม็ดเล็ก สว่างแจ้งที่ฝั่งตรงข้าม เวลาปิดเครื่องสามารถสั่งงานจากไอคอนหน้าจอ หรือใช้ปุ่มโฮมบนจอย PS3 ก็ได้ ส่วนใครที่ใช้ TV ที่ไม่รองรับสาย HDMI น่าจะมีปัญหา เพราะตัวเครื่องไม่มีช่องเสียบสาย AV การเปิดเครื่องครั้งแรกระบบจะทำการ setting ตั้งค่าต่างๆ เช่น ซิงค์จอย PS3 , เลือกภาษาเป็น English ได้ (PS Vita TV ของผมเป็นโซน 2) , ปรับขนาดแสดงผลหน้าจอได้ (ขยาย-หดหน้าจอได้) , ตัวเครื่องยังเลือกโซน PSN ได้เพียง Japan (คล้ายตอน PS Vita เพิ่งออกเดือน ธ.ค.54 ตอนนั้นก็เลือกได้โซนเดียว หลังจากนั้นจึงเลือกโซนอื่นเพิ่มได้) , ตั้งค่า Network เพื่อเซ็ทติ้งไวไฟ และอัพเดตเวอร์ชั่น 3.00 ปัญหาที่พบ 1) เปิดเครื่องครั้งแรกถ้าไม่มีสายซิงค์จอย PS3 (สายชาร์จจอย) จะไม่สามารถสั่งการเครื่องได้เลย และถ้าไม่มีสัญญาณไวไฟหรือสาย LAN ก็จะไม่สามารถอัพเดตระบบได้ 2) สายต่างๆดูรกรุงรังมากเมื่อเทียบกับขนาดของเครื่อง และตัวเครื่องมีขนาดเบาทำให้สายต่างๆยกเครื่องลอยได้ง่ายๆ 3) ถ้าใช้เม็มเดิม PS Vita สลับกับ PS Vita TV ทุกครั้งที่ใส่เม็มจะต้องรอ Updating database แต่ถ้าแยกเม็มก็จะเกิดปัญหาไม่สามารถครอสเซฟได้ (ไฟล์เซฟไม่ได้เก็บในแผ่นเกม) และผลจากการสลับเม็มเปลี่ยนไปมา ทำให้ไอคอนเกมที่เคยลงเอาไว้หายไปในบางเกม (วิธีแก้คือใส่เกมนั้นแล้วเปิดเล่นอีกครั้ง ไอคอนจะกลับคืนมา) 4) ไม่มีกล้อง ไม่มีทัชสกรีน ไม่มีทัชแพด อีกทั้งไม่ใช้ระบบ sixaxis ในจอย PS3 ทำให้การกดเลือกไอคอน การกรอกข้อมูล และลูกเล่นในเกมที่เคยมี หายไปหมดเมื่อเทียบกับการใช้งานบน PS Vita 5) เบื่อมากกับประโยค This application cannot be used with the PS Vita TV system. เพราะมันแปลให้เข้าใจง่ายๆว่า เกม PS Vita ที่คุณใส่แผ่นลงไป มันเล่นกับ PS Vita TV ไม่ได้ อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้ล็อคโซนเกมทำให้บางเกมที่ไม่ใช่โซน 2 สามารถนำมาเปิดเล่นได้ (กลับกันเกมโซน 2 หลายเกมก็เปิดเล่นไม่ได้บน PS Vita TV) 6) มันไม่ใช่คอนโซลแท้ๆ ทำให้เกมที่เล่นได้หลายคน ไม่สามารถนำจอย PS3 หลายอันมาซิงค์ต่อเล่นร่วมกันได้ 7) เนื่องจากผมใช้ไอดี limp2551 (โซน 2) จึงใช้งานได้ปกติ แต่ดูเหมือนเพื่อนของผมที่ใช้งานไอดีโซนอื่น จะมีปัญหากับการเข้าใช้งาน PS Vita TV (น่าจะกรณีเดียวกับตอน PS Vita เพิ่งออกเดือน ธ.ค.54 ตอนนั้นก็เลือกได้โซนเดียว หลังจากนั้นจึงเลือกโซนอื่นเพิ่มได้) สำหรับใครที่เข้าใจว่า PS Vita ไม่ล็อคโซนเกม ผมอยากให้เพิ่มความเข้าใจให้คลุมถึง PS Vita ล็อคโซนไอดี PSN ด้วย เวลาซื้อเกมจะได้ใช้งาน DLC หรือ Online Pass ได้ 8) ระบบ virtual touch screen ใช้งานยาก ลองนึกถึงคุณต้องลากไอคอนเพื่อทัช แทนที่จะใช้ นิ้วจิ้มจอ ลงไปตรงๆ (ปุ่ม L3 ทัชสกรีน ปุ่ม R3 ทัชแพด) 9) กราฟฟิคสวยกว่า PS2 แต่ยังเป็นรอง PS3 และ PS4 เมื่อนำ PS Vita TV มาเล่นบนสมาร์ททีวีขนาดใหญ่ ที่เคยชินกับความคมชัดแบบ full HD (1920×1080) จะพบว่าภาพสีจืดลง ไม่คมชัด และแสดงผลอยู่ระหว่าง 480p 720p เท่านั้น หรือถ้าดูผ่านจอ OLED ของ PS Vita ก็จะรู้สึกว่ามองจอเล็กแล้วภาพสวยกว่าดูบนสมาร์ททีวี 10) PS Vita TV มีระบบมัลติมีเดียรองรับชาวญี่ปุ่น ซึ่งปัญหาด้านกำแพงภาษา ทำให้ผมไม่ได้ใช้มัน ขณะเขียนบทความ ผมมีแผ่นเกม PS Vita อยู่ 74 เกม (ไม่รวมเกมที่ซื้อแบบดาวน์โหลด) น่าเสียดายที่เกมส่วนมากที่ผมมีไม่สามารถเปิดเล่นบน PS Vita TV ได้ ข้อมูลเกมที่รองรับทางโซนี่ก็แจ้งแค่เกมโซน 2 (อ้างอิง http://www.jp.playstation.com/psvitatv/game/psvitalist) ทำให้ผมต้องลองแล้วลองอีกกับทุกเกมที่ผมมีอยู่ เพื่อทดสอบว่าเกมใดบ้างที่เล่นได้ อีกทั้งการสลับใช้งานเม็มโมรี่แล้วต้องรอ Updating database มันก็เสียเวลาจริงๆ เสน่ห์ของเครื่อง PS Vita TV ที่เล็กกะทัดรัดง่ายต่อการพกพาไปเล่นที่บ้านเพื่อนถูกจางหายไปเมื่อเจอสายต่างๆและจอยเกมที่ต้องพกติดไปด้วย (แถมยังเล่นได้คนเดียว) ผมก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตปัญหาต่างๆเหล่านี้จะถูกแก้ไขได้ดีขึ้นใน fw เวอร์ชั่นต่อมา รวมถึงการใช้งานกับจอย PS4 ในอนาคตเพื่อแก้ปัญหาทัชสกรีนและทัชแพด สรุป PS Vita TV ไม่สามารถใช้งานแทน PS Vita ได้ด้วยข้อจำกัดในหลายๆด้าน การเล่นคอนโซลให้สนุกยังคงเป็น PS3 และ PS4 เช่นเดิม ใครที่จะซื้อมันมาเพื่อเล่นเกม PS Vita แนะนำให้ตรวจสอบให้ดีว่าเกมที่อยากเล่น มันเล่นบน PS Vita TV ได้หรือไม่ บทความโดย limp2551 |