เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ผมมีโอกาสได้ไปเดินสะพานเหล็ก แต่อาจจะเพราะไปถึงเช้าเกินไป (ประมาณ 11.00 น.) ทำให้ร้านเกมหลายร้านยังไม่เปิด สาเหตุที่เปิดกันช้าในวันจันทร์นี้ก็น่าจะมาจากการโหมปิด 3 ทุ่มในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมาล่ะมั้ง ผมเดาเอานะ (สะพานเหล็กเพิ่งเริ่มขยายเวลาปิด 3 ทุ่มในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา) หลังจากใช้เวลาเดินวนไปมาก็พบว่าแฮนด์เฮลด์ไม่มีเกมออกมาให้เสพเลย เพราะงั้นผมจึงซื้อกริป Arcuate Handgrip มาลองใช้งานดู ต้องบอกกันก่อนว่าผมเห็นมันขายมานานมากๆแล้วล่ะ แต่ผมอยากได้รุ่นที่มันเป็นกริปและแบตเสริม ซึ่งสะพานเหล็กไม่มีใครเอาเข้ามาขาย เพราะงั้นกริปที่รีวิวอันนี้จึงเป็นกริปอย่างเดียวนะครับ เนื่องจากเป็นสินค้าราคาถูก (ซื้อมา 350 บาท จากร้านขายอุปกรณ์เกมสะพาน 11) แพ็กกิ้งของมันก็เลยต่างกับ กริป Mario Kart 7 Wheel accessory และ กริป Nintendo 3DS LL Circle Pad Pro อยู่พอสมควร เพราะภายในกล่องมีแค่ตัวกริป Arcuate Handgrip ที่ใส่ซองพลาสติกหุ้มไว้ แค่นั้นเอง คู่มือวิธีใช้งานไม่มีจึงต้องอ่านเอาจากตัวหนังสือข้างกล่องแทน แต่ว่ามันก็เป็นกริปที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แค่ประกอบร่างเข้ากับเครื่อง PS Vita ก็ใช้งานได้แล้ว ระบบการประกอบร่างไม่ทำให้เครื่องเป็นรอย เพราะตัวกริปจะมีปุ่มปลดล็อคเพื่อเลื่อนลงมาให้วางตัวเครื่อง PS Vita ได้ง่ายๆ เมื่อวางเสร็จก็เลื่อนให้กริปแนบกับตัวเครื่องแล้วดันปุ่มล็อค เท่านี้ตัวเครื่องกับกริปก็จะแนบติดกัน ไม่หลุด ไม่เลื่อน แม้จะจับตัวเครื่องโยนกลางอากาศพร้อมกับกริปก็ตาม (ผมลองโยนพวกมันบนเตียง โยนขึ้นไปสัก 1 เมตรแล้วรอรับ แน่นอนว่าผมรับพวกมันไม่พลาด ลองทำอยู่ 2 3 รอบก็คิดว่าพอดีกว่า เสี่ยงเกิน 555) ถ้าถามว่ามันไปล็อคกับส่วนไหนของตัวเครื่อง ก็ต้องตอบว่ามันใช้ช่องสายชาร์จยึดเอาไว้นั่นเอง จุดที่น่าสนใจคือ ตัวกริปมีความยาวพอให้จับได้ง่ายขึ้น มีการเว้นช่องเสียบสายต่างๆไว้ให้ ไม่ว่าจะช่องเสียบหูฟังหรือฝาหลังทัชแพด อย่างไรก็ตามหากติดกริปตัวนี้จะไม่สามารถเล่นไปชาร์จไปได้ เพราะช่องสายชาร์จถูกตัวกริปล็อคเอาไว้ และช่องเปลี่ยนเกมโดนปิดเอาไว้ จึงเปลี่ยนเกมไม่ได้ วิธีแก้ปัญหา 2 ข้อนี้ก็ง่ายมากคือเลื่อนปุ่มปลดล็อคกริปแล้วเอาเครื่อง PS Vita ออกมา แล้วก็จัดการเปลี่ยนเกมหรือชาร์จไฟก็ได้แล้ว แค่นั้นเอง เมื่อนำไปเทียบกับจอย PS3 ก็ต้องบอกว่าการแม้จะใส่กริป Arcuate Handgrip แล้วก็ยังบังคับไม่สบายเท่า ขนาดของปุ่มอนาล็อคที่เล็กทำให้ตำแหน่งการวางนิ้วขณะเล่นอาจเผลอไปปิดช่องลำโพง ทำให้ลำโพงไม่ออกเต็มเสียง แม้การบังคับจะจับถนัดมือกว่าเดิมแต่ก็ต้องแลกมาด้วยขนาดที่ใหญ่จนไม่สะดวกเวลาพกพาไปเล่นนอกสถานที่ ถ้าเทียบกับราคาที่จ่ายไปก็ต้องบอกว่าไม่แพง แต่ปัญหาขณะเล่นก็ยังไม่ได้ถูกแก้ไขให้ลงตัวนัก กรณีพวกนี้ผมมองว่า ต้นเหตุสืบเนื่องมาจากดีไซน์ของตัวเครื่อง PS Vita นั่นเอง (ที่สวยแต่จับลำบาก) ซึ่งการแก้ปัญหาการจับทั้งหมดคงทำไม่ได้สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อกริปอะไรมาใช้งานกับมันก็ตาม รีวิวโดย limp2551 |