ใครจะไปคาดคิดว่า Monster Monpiece เกมแรกจากค่าย Compile Heart ที่ลงให้กับ vita จะขาดตลาดทันทีหลังจากวางจำหน่ายเพียงไม่กี่วัน และหากนับถึงวันนี้ก็มียอดขายไปมากกว่า 50,000 ชุดเข้าไปแล้ว (เกมออกเมื่อ 24 ม.ค. 2556) หลังจากที่แกะกล่องออกมาผมก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะภายในนั้นมันไม่มีคู่มือสีสวยแถมมาให้เลย มีเพียงกระดาษแนบมา 2 แผ่นคือ วิธีแกะตลับเกมจากกล่อง และแบบสอบถามสำหรับคนญี่ปุ่น ซึ่งดูแล้วก็ผิดวิสัยเกมโซน 2 เพราะงั้นถ้าใครที่เสียเงินซื้อเกมราคา 2,300 บ. มาแล้วอาจจะรู้สึกเฟลกันบ้างแม้จะยังไม่ได้เปิดเล่นเกมเลยก็ตาม (ถ้าซื้อชุดลิมิเต็ทราคาแรงกว่านี้อีกราว 1,000 – 1,500 บ. ในกล่องจะมีการ์ดแถมมาให้ด้วย) Monster Monpiece มีเนื้อเรื่องย่อดังนี้ (ไม่สปอย์นะครับ) เอลซ่า (โบว์สีเขียว) ถูกคำสาปจากบุคคลลึกลับทำให้ เมย์ (กิ๊ปสีเหลือง) ต้องออกเดินทางเพื่อช่วยเหลือเพื่อนของเธอ โดยมี คาเรน (สาวแว่น) และ เฟีย (หูแมว) ร่วมเดินทางไปด้วย ผู้เล่นจะสนุกไปกับบทสนทนาของพวกเธอทั้งสามพร้อมกับการใช้มอนสเตอร์ในการต่อสู้ โดยมีแนวเกมเพลย์เป็นแบบ Card battle ผลัดกันลงการ์ดสลับกันคนละเทิร์น อย่างไรก็ตามถ้าแบ่งเกมเพลย์ออกเป็นส่วนย่อยๆ เกม Monster Monpiece น่าจะจัดว่ามีอยู่ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนแรกที่เป็นส่วนของเนื้อเรื่อง โดยมีเสียงพากย์ตัวละครทุกตัวแบบฟูลว้อยซ์ หากใครชอบเสียงอนิเมะญี่ปุ่นน่าจะชอบส่วนนี้ (เป็นบทสนทนาตัวละครคุยกัน) แต่หากไม่ชอบก็กดเร่งสปีดข้ามไปก็ได้ ในส่วนนี้จะไม่มีการเลือกตอบคำถามใดๆ ส่วนที่สองจะเป็นส่วนการเตรียมการ์ดสำหรับต่อสู้ (รวมถึงการรูดจออันลือลั่น) มีเมนูคำสั่งแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน การจัดเรียงเดคไพ่ การเล่นออนไลน์ (ไม่ต้องใช้โค้ด) และการซื้อ dlc ก็จัดอยู่ในส่วนนี้ และส่วนสุดท้ายคือการเล่น Card battle วิธีเล่นทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก แม้ผมเองจะไม่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อนก็เล่นเกมนี้ได้สบายมากครับ ผมเชื่อว่าหลายคนเริ่มสนใจเกมโนเนมเกมนี้เพราะได้ดูคลิปรูดจออันลือลั่น ต้องอธิบายก่อนว่าตัวละครที่ใช้ในโหมดนี้คือมอนสเตอร์ในการ์ด (ไม่ใช่ตัวละครหลักในโหมดเนื้อเรื่อง) การรูดจอจะทำได้เมื่อเล่นผ่านแม็พแรก (มีไอคอนสีแดง เวลาต้องการรูดจะเสียแต้มสีแดง) ผลของการรูดจอจะทำให้ได้การ์ดใบใหม่ (นัมเบอร์การ์ดเปลี่ยนไป) บางครั้งก็ได้พลังที่ดีขึ้น แต่บางครั้งก็อาจจะห่วยลงเมื่อเทียบกับสมดุลใน deck ที่จัดเรียงไว้ บางการ์ดอาจมีเซอร์วิสทำให้ชุดที่สวมใส่น้อยชิ้นลงไป ส่วนจุดที่ใช้รูดเพื่อให้สำเร็จนั้นก็เป็นจุดที่หนุ่มๆทั้งหลายรู้กันดีว่าอยู่ตรงไหน ระหว่างที่รูดพวกเธอก็จะส่งเสียงร้องออกมา ถ้าถามว่าโอเคไหม ผมก็ขอวิจารณ์ตามตรงเลยครับว่าตอนเล่นแรกๆผมก็ตื่นเต้นดีนะครับ แต่พอต้องทำบ่อยๆ (เพื่ออัพเกรดการ์ด) บางทีเสียงพวกนี้มันก็น่ารำคาญจนผมต้องปิดเสียงไปเลย ไหนจะแต้มสีแดงที่ใช้เติมการ์ดก็ไม่ได้มีมาให้มากมาย (มีขาย dlc แต่ต้องใช้เงินจริง - -*) แถมบางการ์ดอัพเกรดแล้วก็ไม่ได้ดั่งใจอีก สุดท้ายผมกลับติดใจกับระบบ Card battle ในเกมเพลย์หลักมากกว่า วิธีเล่นเบื้องต้นเพื่อให้ได้ระดับ SS โดย limp2551 (สำหรับคนไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น) 1) แต่ละฝ่ายจะมีการ์ดที่ใช้สู้ได้ 40 ใบ ส่วนสนามประลองจะมีฟิลด์ขนาด 7 x 3 ช่อง หลังจากวางการ์ดแล้วการ์ดทุกใบจะขยับไปข้างหน้า เมื่อเดินจนสุดทางก็จะชนะในเการประลองรอบนั้นๆ (บางรอบอาจต้องเดินสุดทางมากกว่า 1 ครั้ง ดูได้ที่ไอคอนรูปปราสาท) 2) การจัดไพ่ให้คำนึงถึงค่า MANA ด้วย โดยปกติแล้วค่านี้จะเพิ่มขึ้นเทิร์นละ 3 แต้ม สำหรับไพ่ที่ดีมักจะมีค่า MANA ที่สูง บางครั้งการเก็บไพ่ที่มีค่า MANA สูงเกินไปจำนวนมากใน deck จะทำให้มีปัญหาในการลงการ์ดได้ 3) ถ้าเล่นไม่ผ่าน แนะนำให้เรียงการ์ดใหม่ทั้งหมด และทุกครั้งที่ขึ้นแม็พใหม่จะมีซองการ์ดชนิดใหม่มาให้ สามารถซื้อการ์ดใหม่เพื่อใช้เป็นทางเลือกในการจัด deck ได้ 4) การเรียงการให้ได้เปรียบแนะนำให้เรียงแถวตามแนวนอนแบบนี้ ตัวหน้าสุด (ตัวที่ 1) ควรเป็นเผ่า Dragon หรือ Demi-H ตัวที่ตามหลัง (ตัวที่ 2) ควรเป็น Fairy เพื่อคอยเติมพลัง ถ้าสามารถจัดได้ถึง 3 แถว ตัวหลังสุด (ตัวที่ 3) แนะนำให้ใช้ Nature หรือ Undead ส่วนเผ่าที่เหลือเช่น Beast (ธนู) , Bird (ธนู) อาจใช้ในการป้องกันเพราะโจมตีได้ไกล ส่วน hybrid จะใช้นำขบวนหรือตามเป็นตัวที่สองก็ได้ 5) การนำการ์ดเผ่าพันธุ์เดียวกันวางทับกันเป็นการเพิ่มพลังให้กับการ์ดนั้นๆ สามารถใช้เทคนิคนี้ในการเติมพลังเมื่อ HP ใกล้หมด หรือใช้เสริมพลังเมื่อรุกเข้าไปในแดนศัตรูก็ได้ การวางการ์ดทับกันสามารถทำได้ทุกตำแหน่งบนฟิลด์ *** ถ้าใช้เทคนิคทั้ง 5 ข้อจนคล่องก็น่าจะผ่านแม็พ 1 – แม็พ 7 ได้อย่างสบาย แถมได้คะแนนระดับ SS ส่วนใครมีเทคนิคอื่นๆก็มาแชร์กันได้ครับ ผมเล่นโดยไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น ไม่ใช้ไอเทมเลยระหว่างดวลการ์ด ถ้าผมทำได้ เพื่อนๆก็ทำได้เช่นกันครับ ^^ สรุป ผมคิดว่า Monster Monpiece เป็นเกมแนว Card battle ที่สนุกมากเกมหนึ่ง จะเล่นคนเดียวหรือจะเล่นออนไลน์ก็ได้ ความยากง่ายของแต่ละฉากขึ้นกับการจัด deck ของผู้เล่น น่าเสียดายที่ dlc ปัจจุบันที่ขายอยู่ ณ ตอนนี้ ไปเน้นกับการขายไอเทมแบบเกมออนไลน์ (ไม่บังคับซื้อ) ส่วนใครที่คิดว่าจะซื้อมาเพื่อรูดโดยยอมจ่ายเงินราคาสูงแบบนี้ ผมว่าไปเล่นเกมบน pc น่าจะโดนใจกว่าครับ สำหรับผมเกมนี้มันไม่ใช่เกมโป๊เปลือยนะครับ เพียงแต่ภาพจะออกแนวอนิเมะเซอร์วิซเท่านั้นเอง (แต่ก็เป็นภาพนิ่งนะครับ) รีวิวโดย limp2551