ถ้าได้เล่น Assassin\'s Creed III (ps3 , xbox , pc) มาแล้ว ยังจะมีอีกสักกี่คนที่สนใจเกม Assassin\'s Creed III: Liberation (vita) ไหมนะ ? สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นซีรีย์นี้มาก่อน แล้วอยากจะลองหาภาคก่อนมาเล่นดู ผมก็ขอไล่เรียงลำดับไทม์ไลน์ในแต่ละภาคนะครับ (ตัวเลขในวงเล็บคือปีที่เกมออกวางจำหน่าย) ซีรีย์ Assassin\'s Creed แบ่งออกเป็น 3 ยุคสมัย นั่นคือสมัย Third Crusade ได้แก่ภาค Altaïr\'s Chronicles (2008) , Assassin\'s Creed (2007) และ Bloodlines (2009) ต่อมาคือยุคสมัย Renaissance ได้แก่ภาค Assassin\'s Creed II (2009) , Discovery (2009) , Brotherhood (2010) และ Revelations (2011) สุดท้ายกับยุคสมัยล่าสุด American Revolution ซึ่งออกมาทีเดียวสองภาคให้เล่นกันได้แก่ Assassin\'s Creed III (2012) กับ Assassin\'s Creed III: Liberation (2012) ถ้านับตั้งแต่ปี 2007 ที่เกม Assassin\'s Creed ถือกำเนิดออกมา ภายในช่วงเวลา 6 ปี เกมเมอร์ได้เล่นซีรีย์นี้ไม่ได้ว่างเว้นกันเลยทีเดียว (แถมภาคหลังๆคะแนนรีวิวยอดเยี่ยมซะด้วย) ถ้ายังจำกันได้ในช่วงที่ 3ds ประสบปัญหายอดขายวิกฤตเมื่อปี 2011 เกม Assassin\'s Creed: Lost Legacy ที่เคยประกาศจะลงเครื่อง 3ds ก็ถูกยกเลิกไปซะงั้น เรียกว่าซ้ำเติมสถานการณ์ที่ย่ำแย่ของ 3ds ในเวลานั้นเลยทีเดียว (ค่าย Ubisoft ให้เหตุผลว่า ได้นำไอเดียมาทำภาค Assassin\'s Creed: Revelations แทน) ที่สำคัญเกม Assassin\'s Creed III: Liberation ทำให้วีต้ามีเกมแอคชั่นห้าดาวเอกคลูซีฟที่เชิดหน้าชูตาเพิ่มมาอีกเกม อีกทั้งยังเป็นเกมที่ไม่ได้มาจากค่ายในเครือโซนี่ซะด้วย เกม Assassin\'s Creed III: Liberation จัดอยู่ในยุคสมัยที่ 3 ของซีรีย์ นั่นก็คือช่วง American Revolution โดยจับเอาเหตุการณ์ที่สเปนยึดครองนิวออร์ลีนส์ ค.ศ. 1763 ในยุคสมัยนั้นจะมีธรรมเนียมอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ผู้ล่าอาณานิคม (ชายชาวยุโรป) อาจหาผู้หญิงพื้นเมืองเพื่อแต่งงาน แต่การแต่งงานรูปแบบนี้สามารถ “เปลี่ยนแปลง” ได้หากผู้ชายได้พบเจอหญิงที่คู่ควรในภายหลัง (หมายถึงหญิงชาวยุโรปด้วยกัน) แม้จะดูไม่เป็นธรรมเท่าไหร่นักแต่ระบบนี้ก็ถูกพัฒนามาเรื่อยๆจนกระทั่งหญิงชาวพื้นเมืองได้สิทธิการเป็นภรรยาตามกฎหมาย ภายหลังระบบนี้ให้เกียรติฝ่ายหญิงมากขึ้นด้วยการยินยอมให้ฝ่ายหญิงสามารถออกงานสังคมได้ มีสิทธิและอำนาจตามสามีของเธอ (ระบบ Plaçage) ส่วนหญิงที่แต่งงานกับชายชาวยุโรปจะเรียกว่า placées ด้วยธรรมเนียมอันเป็นที่นิยมของผู้ล่าอาณานิคมแบบนี้ ตัวเอกของเกม (Aveline) จึงเป็นสาวชาวลูกครึ่งระหว่างพ่อชาวฝรั่งเศสและแม่ชาวแอฟริกัน (เนื่องจากเหตุการณ์การล่าอาณานิคมและธุรกิจการค้าทาส ทำให้ผู้คนเหล่านี้ถูกพาเข้ามาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก) แม้ Aveline จะเติบโตมาด้วยชีวิตครอบครัวเศรษฐี (เพราะได้สิทธิตามระบบ Plaçage) แต่เธอก็มองเห็นความแตกต่างของชนชันในสังคมที่เธออยู่ สังเกตได้จากเนื้อเรื่องช่วงต้นในความฝันของเธอ คัทซีนย่อยเพื่อเรียบเรียงและเล่าเนื้อเรื่อง รวมถึงภาพและคำพูดที่มีการกดขี่ข่มเหงทาส แน่นอนว่า Aveline ไม่ชอบความอยุติธรรมแบบนี้ และนี่คือเนื้อเรื่องที่ผู้เล่นจะได้ร่วมผจญภัยไปกับเธออยู่ในช่วง ค.ศ. 1765 – 1780 บางคนอาจจะสงสัยว่าจะมีโอกาสได้เจอกับ Connor (ตัวเอกใน Assassin\'s Creed III) ด้วยหรือไม่ ? ผมแนะนำให้ลองเล่นดูครับ ... (^^) Assassin\'s Creed III: Liberation มีเกมเพลย์ที่เข้าข่ายเกมยุคใหม่ มีระบบการเล่นที่ซับซ้อนกว่าเกมสมัยก่อน ในช่วงต้นเกมจะมีการสอนระบบการบังคับต่างๆ การเปลี่ยนชุดเครื่องแต่งกายเพื่อดำเนินเนื้อเรื่องในบทบาทต่างๆ ฯลฯ (ผมแนะนำให้กดปุ่ม PS กับปุ่ม start พร้อมกัน เพื่อเก็บภาพและคำอธิบายเพื่อเอาไว้ดูภายหลัง หากอ่านไม่ทัน) ด้วยเนื้อเรื่องของเกมที่เน้นประวัติศาสตร์ตะวันตกผมจึงไม่แปลกใจที่ในเกมจะมีภาษาและซับไตเติ้ลสำหรับประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปคือ English , French , German , Italian และ Spanish และถ้าใช้ซับไตเติ้ลด้วยก็จะมีเพิ่มอีก 2 ภาษาคือ Dutch และ Russian รวมเป็น 7 ภาษาที่มีให้เลือก (ผมใช้แผ่นโซน 3 ไม่มีภาษาชาวเอเชียนะครับ) ผมคิดว่าผู้เล่นที่น่าจะ “เข้าถึงเนื้อเรื่อง” มากที่สุดน่าจะเป็นผู้เล่นชาวตะวันตกมากกว่า (คงเหมือนนิยายกำลังภายในที่คนจีนดูสนุกและได้ประวัติศาสตร์ แต่ฝรั่งดูแล้วไม่เข้าใจ) เนื่องจาก Aveline (ตัวเอก) มีบทบาททางสังคมที่หลากหลายฐานันดร ผู้คนที่พบเจอเธอจะมีปฏิกิริยาท่าทางกับเธอแตกต่างกันตาม “ชุดที่เธอสวมใส่” เช่น ชุดทาสที่คล่องแคล่วในการปีนป่าย แต่ต้องพรางตัวด้วยการทำงานเมื่อมีใครสังเกตความผิดปกติ ชุดคุณหนูที่ไม่สามารถปีนป่ายได้ แต่สามารถใช้เสน่ห์หว่านล้อมชายหนุ่มให้คอยช่วยเหลือได้ เป็นต้น ในมุมมองของผมหลายเหตุการณ์ในเกมถือว่าได้สอนประวัติศาสตร์ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน แถมบางจุดยังชวนสงสัยทำให้ผมต้องกลับมาค้นหาความรู้นอกตำราที่มันปรากฏในเกมเพิ่มเติมอีกด้วย ใครที่มักจะคิดว่าการเล่นเกมไม่มีประโยชน์ คงต้องทบทวนคำพูดกันใหม่ล่ะครับ อย่างไรก็ตามเกมนี้มีความรุนแรง เด็กไม่ควรเล่นนะครับ อีกทั้งเกมนี้น่าจะเหมาะกับผู้เล่นเกมเมอร์มากกว่าผู้เล่นทั่วไป ด้วยระบบการเล่นเป็นแนวโอเพ่นเวิร์ลที่มีรายละเอียดมากมาย ผู้เล่นทั่วไปที่นิยมแนวแคชชวลคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ในส่วนของรายละเอียดฉากและผู้คน ถ้าคำนึงถึงฉากที่ใหญ่โตและไม่ต้องรอโหลด ผมว่าโดยรวมสวยงามกว่า UNCHARTED: Golden Abyss และ Gravity Daze นะครับ (แถมเสียงเพลงในเกมยัง “ดัง” ดีซะด้วย) อย่างไรก็ตามจากที่ผมลองเล่นเกมแบบไม่อัพเดตแพชไปราว 2 ชม. (ภายหลังอัพเดตแล้ว จึงจัดเต็มแบบยาวๆเพื่อรีวิว) ผมพบว่าเกมมีจุดบั๊กค่อนข้างมาก เช่น คัทซีนช่วยเหลือชาวบ้านตัว Aveline กลับยืนนิ่ง แต่มีมือและมีดล่องหนลอยไปลอยมาตัดเชือกที่มัดอยู่ได้ , ชาวบ้านที่หลงเสน่ห์ Aveline พอเดินไปไกลหน่อย จู่ๆก็หายไปเลยปล่อยให้เธอโดนรังแก , ทหารที่พบ Aveline ในชุดทาส ขึ้นตัวแดง แต่ไม่ทำอะไร แค่เดินไปตามจุดเรื่อยๆ ก็ผ่านซะงั้น , เรียกชาวบ้านมาช่วยสู้กับโจรแต่ชาวบ้านดันต่อยตีกันเอง (ไอคอนฟ้า) ผลก็คือเลือดไม่ลดจนต้องพา Aveline เดินหนีออกมาไกลๆ ปล่อยพวกมันสู้กันต่อไป , โจรเดินตามล้อมหน้าล้อมหลัง ไม่ยอมไปไหน แต่ไม่ชักดาบมาสู้ ฯลฯ หลังจากนั้นผมจึงลองเล่นใหม่ทั้งหมดอีกครั้งโดยอัพเดตแพช ผลก็คือจุดบั๊กที่เคยเจอ มันหายไปหมด (ผมเล่นแบบตรงตามเนื้อเรื่อง ถ้าวิ่งเล่นตามเมือง ผมว่าบางจุดก็อาจจะมีบั๊กอยู่นะ) ก็เลยอยากจะแนะนำคนที่เพิ่งเปิดเล่น Assassin\'s Creed III: Liberation ครั้งแรกว่า อย่าลืมต่อไวไฟเพื่ออัพเดตแพชกันก่อนนะครับ (ไอคอนวงกลมเหลืองก่อนเข้าเกม) รวมถึงหากมีอัพเดตใหม่ออกมาอีก ก็อย่าลืมอัพเดตแพชเพิ่มเติมนะครับ (เป็นการปรับสมดุลเกมและแก้บั๊กต่างๆที่ผู้ผลิตพบเจอ) หลังจากอัพเดตกันเรียบร้อยก็ลุยได้เลยครับ เมื่อเข้าเกมจะเห็นโหมด Multiplayer (ไม่ต้องใช้โค้ดออนไลน์ แต่เป็นมินิเกมนะครับ ไม่ใช่เกมหลัก) และโหมดพิเศษ (Extras) เพื่อนำโค้ดในกล่องเกมมารับ dlc และสามารถลิ้งข้อมูลกับ ps3 ได้ด้วย รวมถึงการใช้ระบบ near เพื่อแลกเปลี่ยนไอเทมกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของรีวิวฉบับนี้ผมยึดกับเกมเพลย์โหมดหลัก (story mode) นะครับ เนื้อเรื่องของ Assassin\'s Creed III: Liberation เป็นเหตุการณ์ที่มีบางตัวละครเกี่ยวข้องกับ Assassin\'s Creed III ผู้เล่นจะสนุกกับเนื้อเรื่องมากขึ้นถ้าหากได้เล่นทั้งสองภาคนี้ควบคู่กันไป (แต่ถ้าจะเล่นแค่ภาคเดียว ก็เล่นได้รู้เรื่องเช่นกันครับ) เห็นอวยกันอย่างนี้ แต่เชื่อไหมครับว่าเกมเมอร์ต่างประเทศ (บางคน) ที่เข้าใจประวัติศาสตร์ ก็ไม่ชอบ Assassin\'s Creed III: Liberation นะครับ บางสำนักถึงกับบอกว่า If you\'ve never played an Assassin\'s Creed game before, then this is a terrible place to start. (ถ้าอยากลอง Assassin\'s Creed ก็ไม่ควรเริ่มต้นจากภาคนี้) พร้อมให้คะแนนเพียง 55 / 100 (อ้างอิงจาก VentureBeat) ในมุมมองนี้ถ้าตีกรอบให้แคบลงมา แล้วมองแค่ในกรอบของเกม vita ด้วยกัน ผมคิดว่า Assassin\'s Creed III: Liberation จัดเป็นเกมห้าดาวเอกคลูซีฟที่ดีมากเกมหนึ่งของ vita เลยล่ะครับ (โดยเฉพาะเมื่อไม่นำไปเทียบกับคอนโซล) เสน่ห์ของการใช้ตัวเอกเป็นหญิงสาวอย่าง Aveline ก็น่าจะโน้มน้าวใจให้แฟนบอย Assassin\'s Creed อยากจะหาภาค Liberation มาเล่นบ้างล่ะน่า จริงไหมครับ ? รีวืวโดย limp2551