บริษัทโซนี่ สานต่อความสำเร็จของ "Torne" อุปกรณ์เสริมที่ใช้บันทึกวิดีโอรายการทีวีโปรดบนเครื่องเพลย์สเตชัน 3 ด้วยการประกาศเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิมในนาม "Nasne" สั่งอัดพร้อมกันสูงสุด 5 ช่อง และฟังก์ชันสตีมมิ่งดูผ่านอุปกรณ์พกพา หลังจากที่เมื่อปี 2010 ทางบริษัทโซนี่ ได้เคยออกอุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องเพลย์สเตชัน 3 ในชื่อ "Torne" เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้าของเครื่องสามารถใช้เพลย์สามเป็นตัวบันทึกวิดีโอจากรายการโทรทัศน์ (DVR) ลงฮาร์ดดิสก์เพื่อเก็บไว้ดูในภายหลังได้ แม้กระทั่งในขณะที่เรากำลังเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์อยู่ก็ตาม และไฟล์วิดีโอที่ถูกบันทึกไว้มันยังสามารถเชื่อมต่อไปใช้งานบนเครื่องเกมพกพา PSP ได้อีกด้วย ล่าสุดทางโซนี่ ก็ได้ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ที่จะมาสืบทอดต่อจาก "Torne" นั่นก็คือ "Nasne" ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนอุปกรณ์ศูนย์กลางที่อนุญาตให้ผู้ใช้เครื่องเพลย์สเตชัน 3 สามารถสั่งอัดรายการโทรทัศน์ได้พร้อมกันสูงสุดถึง 5 ช่อง และยังมีฟังก์ชันสตีมมิ่งวิดีโอไปยังอุปกรณ์โซนี่อื่นๆรวมไปถึงเครื่องพกพาเพลย์สเตชันวีตา โดยภายในตัวอุปกรณ์จะประกอบไปด้วยตัวรับสัญญาณดิจิทัลภาคพื้นดินและตัวแปลงสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียม อีกทั้งยังมีฮาร์ดดิสก์ภายในขนาดความจุ 500GB ที่เอาไว้สำหรับบันทึกโปรแกรมรายการต่างๆ ซึ่งสิ่งที่แตกต่างไปจากเครื่องรุ่นก่อนนั่นก็คือ "Nasne" จะเป็นอุปกรณ์แบบครบครันในตัว โดยเพียงแค่เชื่อมต่อตัวเครื่องเข้ากับระบบเครือข่ายภายใน ผู้ใช้ก็สามารถแชร์ไฟล์ที่ถูกบันทึกไว้ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ และมันสามารถสตีมมิ่งรายการไปยังอุปกรณ์ต่างๆได้พร้อมกันถึง 2 ตัว ในระหว่างที่กำลังอัดรายการถ่ายทอดสดได้ นอกจากนี้หากเชื่อมต่อ "Nasne" เข้ากับเครื่องเพลย์สเตชัน 3 และต่อออนไลน์ผ่านสายแลน แล้วติดตั้งแอพพลิเคชั่น "Torne" เวอร์ชันใหม่ 4.0 ที่แถมมาพร้อมในชุด ผู้ใช้ก็จะสามารถรับชมรายการโทรทัศน์และสั่งบันทึกวิดีโอไปพร้อมๆกัน อีกทั้งยังสามารถโอนถ่ายไฟล์ข้อมูลไปชมต่อบนอุปกรณ์พกพาอย่างเครื่องเพลย์สเตชันวีตา, โซนี่แทบเล็ต และมือถือสมาร์ทโฟน Xperia ซึ่งแอพพลิเคชั่น "Torne" เวอร์ชันใหม่นี้จะรองรับการเชื่อมต่อเครื่อง "Nasne" ได้พร้อมกันถึง 4 เครื่อง และถ้าหากคุณมีเครื่อง "Torne" รุ่นเก่าอยู่แล้ว คุณก็จะสามารถสั่งอัดรายการโทรทัศน์ได้ถึง 5 รายการพร้อมกันเลยทีเดียว และในอนาคตทางโซนี่ระบุว่าจะเตรียมส่งแอพพลิเคชั่นดังกล่าวออกมาสำหรับเครื่องวีตาในชื่อ "Torne for PS Vita" ออกตามมาทีหลังภายในปี 2012 อย่างไรก็ตามทางโซนี่ก็ระบุด้วยว่าจะยังคงผลิตเครื่องรุ่นก่อน "Torne" ออกมาวางขายเคียงคู่กับเครื่องรุ่นใหม่ "Nasne" ต่อไป สำหรับข้อแตกต่างระหว่างเครื่องทั้งสองที่เห็นได้ชัดสรุปได้ดังนี้ ด้านการรับสัญญาณ "Torne" จะรับสัญญาณดิจิทัลภาคพื้นดินอย่างเดียวเท่านั้น ส่วน "Nasne" จะเพิ่มการรับสัญญาณทั้ง Broadcasting Satellites และ Communications Satellites ด้านการรองรับ "Torne" สนับสนุนทั้งเครื่อง PSP และ Vita ส่วน "Nasne" จะเพิ่มการรองรับมือถือสมาร์ทโฟน ด้านราคา "Torne" ขายเพียง 9,980 เยน ส่วน "Nasne" ราคาสูงถึง 16,980 เยนซึ่งแพงเกือบเท่าตัว "Nasne" มีกำหนดวางขายในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 19 กรกฎาคม ปี 2012 สนนราคาอยู่ที่ 16,890 เยนหรือประมาณ 6,400 บาท สำหรับฝั่งอเมริกาและยุโรปนั้นทางโซนี่ยังไม่มีแผนที่จะวางจำหน่าย

อาซูกะจัง คาวาอี ที่สุด