![]() ออกตัวก่อนเลยครับว่าผมชอบเล่นฟุตบอลตระกูลวินนิ่งมากกว่าฟีฟ่า แล้วฟีฟ่าภาคนี้ผมก็มีมานานแล้วแต่ก็ไม่มีความคิดจะรีวิวเลย จนกระทั่งผมได้อ่านนิตยสารเกมต่างประเทศ playstation magazine ฉบับเดือน april ที่ลงรีวิวเกมวีต้าล็อตแรกทั้ง 19 เกม ปรากฏว่า FIFA Football เป็นเกมเดียวที่ได้คะแนน 10 / 10 (คะแนนเยอะที่สุดในบรรดาเกมล็อตแรก) เพราะงั้นจากที่ผมเคยเฉยๆ ก็ขอรีวิวฟีฟ่าซะหน่อยล่ะกัน น่าแปลกที่เกม FIFA Football ไม่ได้ใช้ชื่อว่า FIFA 2012 ทั้งๆที่ข้อมูลนักเตะล้วนอัพเดตตามฤดูกาล 2012 แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนที่เล่นสามารถสัมผัสได้ทันทีก็คือ พลังของกราฟฟิคที่เหลือล้นจริงๆ เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับคอนโซลมากๆเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามฟีฟ่าก็ยังมีข้อเสียที่คนถนัดวินนิ่งไม่คุ้นเคยอยู่สองจุด นั้นก็คือตำแหน่งของปุ่มบังคับ กับ สปีดเกมเพลย์แบบวินนิ่ง ![]() แม้ว่าปุ่มบังคับจะสามารถปรับเปลี่ยนเป็นแบบ Alternate ได้ (บังคับแบบวินนิ่ง) แต่ด้วยรายละเอียดของเกมฟีฟ่าที่ต้องใช้อนาล็อคสองข้างในการบังคับ (ซ้ายบังคับปกติ ขวาบังคับลูกเล่นหลอกล่อ) ทำให้คนที่เล่นวินนิ่งจนเซียนหากเปลี่ยนมาเล่นฟีฟ่าก็ต้องฝึกทักษะกันพอควร แต่จุดที่แก้ไม่ได้ก็คือเรื่องสปีดเกมเพลย์ที่ฟีฟ่าจะช้ากว่าวินนิ่งมากๆ เรียกได้ว่าการกระชากแล้วเลี้ยงแบบจรวดทางเรียบ แทบจะทำไม่ได้เลยในฟีฟ่า ดังนั้นการเล่นจึงเน้นการจ่ายตามช่อง ส่งไปมา และการเล่นด้วยระบบทีมเวิร์ค อย่างไรก็ดีข้อมูลนักเตะที่มากมายจนไม่สามารถพบได้ในเกมฟุตบอลอื่นๆ (เพราะเกมอื่นติดปัญหาด้านลิขสิทธิ์) ก็คือ ข้อมูลนักเตะชื่อจริง สนามกีฬาจริง รายละเอียดชุดแข่งและสปอนเซอร์จริง แถมยังมีข้อมูลรายชื่อผู้ตัดสินตัวจริงอีก เรียกได้ว่าข้อมูลสมจริงสุดๆ คอบอลต้องชอบแน่นอนครับ (เกมฟีฟ่าตั้งค่าให้มีการแฮนด์บอลได้ด้วยนะเออ) ถ้ามีสัญญาณไวไฟขณะเล่นเกม ระบบของเกมฟีฟ่าจะลิ้งค์เข้าเซิร์ฟเวอร์ของ EA ให้ ข้อดีก็คือข้อมูลต่างๆจะถูกอัพเดต และสามารถเล่นออนไลน์แข่งกับเพื่อนผ่านทางไวไฟได้ เกมนี้ไม่ต้องใช้โค้ดออนไลน์ แต่การแข่งแบบออนไลน์เท่าที่ผมลองเล่นดู ค่อนข้างจะมีปัญหากับสัญญาณไวไฟอยู่พอสมควร ผลก็คือตัวเกมเพลย์จะหน่วงๆ ดีเลย์ ทำให้กดไม่ค่อยทัน (ทั้งๆที่สัญญาณไวไฟของผมเต็มนะ) การออนไลน์สามารถเล่นได้เพียง 2 คน (เลือกทีมคนละทีม มาสู้กันแบบ 11 vs 11 เหมือนแข่งวินนิ่งนั่นล่ะ) แต่จะแข่งออนไลน์พร้อมกันแบบ 11 vs 11 ไม่ได้นะครับ (ออนไลน์ 22 คน ลงสนามพร้อมกัน 2 ทีม ไม่ได้นั่นเอง) ![]() เรื่องกราฟฟิคและเสียงเรียกได้ว่าดีที่สุดในเกมฟุตบอลของเครื่องแฮนด์เฮลทุกเครื่องเท่าที่เคยมีมา ภาพและเสียงเรียกได้ว่าถอดมาจากคอนโซลแทบจะไม่ผิดเพี้ยน ถ้าอยากรู้ว่ามันสุดยอดแค่ไหน ผมแนะนำให้ลองเลือกทีม รีล มาดริด สู้กับ บาร์เซโลน่า โดยปรับให้คอมสู้กันเองด้วยความยากระดับ Legendary (ยากที่สุด) การนั่งมองดูคอมเล่นแทบจะถอดแบบมาจากฟุตบอลสนามจริงเลยทีเดียว ลูกเล่นทั้งทัชสกรีนและทัชแพดของเกม FIFA Football ผมคิดว่ามันไม่ค่อยเวิร์คนะ โดยหลักการบังคับทัชสกรีนจะใช้จิ้มเพื่อส่งบอลและปั่นฟรีคิก ส่วนทัชแพดจะใช้เพื่อยิงประตู แต่เนื่องจากการวางตำแหน่งมือทั้งสองข้างเวลาจับเครื่องวีต้า ทำให้อาจเผลอไปทัชโดยไม่ตั้งใจ เพราะงั้นระบบนี้คงใช้แค่เพื่อเก็บสะสมโทรฟี พอเก็บครบก็ปิดทิ้งไปเถอะ (ปรับระบบที่ Control Settings) การบังคับแบ่งออกเป็น 3 แบบก็คือแบบปกติที่บังคับนักฟุตบอลทั้งทีมเหมือนเกมฟุตบอลทั่วไป การเลือกเล่นเป็นนักเตะคนเดียวในสนาม (Player) และการเลือกเล่นเป็นผู้รักษาประตู (Goalkeeper) ส่วนโหมดในการเล่นก็มีทั้งแบบ Kick-Off , Tournament , Career Mode , Online Game Modes , Virtual Pro เรียกได้ว่ามีโหมดเกมให้เลือกเล่นหลากหลายมาก อีกทั้งยังสามารถรับบทบาทเป็นผู้จัดการทีม เหมือนเกมวางแผนฟุตบอลยุค CM สมัยก่อนบน PC เพียงแต่รายละเอียดจะน้อยกว่า (ปัจจุบันชื่อ Football Manager ของ PC) อย่างไรก็ตามระบบเกมเพลย์ที่นิยมของทุกคน ผมคิดว่าน่าจะเล่นแบบเดิมๆเหมือนเกมฟุตบอลทั่วไปมากกว่านะ ![]() จุดที่ทำให้คอวินนิ่งบางส่วนเปลี่ยนใจมาเล่น FIFA Football ก็น่าจะเพราะความสมจริงและรายชื่อนักเตะที่ถูกต้องนี่ล่ะครับ แม้ว่าสปีดเกมจะช้าลงกว่าวินนิ่งไปพอควร แต่เมื่อฝึกฝนทักษะสักหน่อย ก็น่าจะเล่นได้อย่างสบาย สำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มเล่นเกม ระบบจะเลือกระดับความยากแบบ Professional เอาไว้ คอวินนิ่งเดิมก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจเพราะมันเป็นความยากแค่ระดับกลาง (เกมตระกูลวินนิ่งระดับ Professional เป็นระดับยากสุดจาก 5 ระดับ) ส่วนถ้าอยากจะปรับเป็นแบบง่ายสุดก็เลือกเล่นแบบ Amateur ไปก่อนก็แล้วกัน (วางเครื่องตั้งไว้เฉยๆ คอมมันยังยิงไม่ได้เลย เหอะๆ) สรุป FIFA Football เป็นเกมฟุตบอลที่ดีและสมจริงที่สุดในขณะนี้บนเครื่องเกมแฮนด์เฮล รีวิวโดย limp2551 (ใครมี vita ก็แอดผมได้นะครับ ^^) |