หลังจากคอยติดตามข่าวสารXPERIA-PLAYตั้งแต่ปีที่แล้ว จนกระทั่งได้วางจำหน่ายตามประเทศต่างๆ(ยกเว้นประเทศไทย(ต้องรออีกนาน หลังไตรมาส 3 ของปี)) เมื่อต้น เม.ย.พอได้ข่าวว่าที่ไทยเริ่มมีร้านค้าบางแห่งได้หิ้วXPERIA-PLAYมาวางจำหน่าย จึงค้นข้อมูลทาง Internet และพบราคาอยู่ที่ 22,800บาท และทราบข่าวว่าที่ MBK มีบางร้านหิ้วมาวางจำหน่าย จึงได้แวะไปดู ได้พบร้านหนึ่งตั้งโชว์เครื่อง XPERIA-PLAY จึงสอบถามราคา ซึ่งสูงถึง 25,900 บาท หลังจากนั้นก็ได้ลองติดต่อร้านที่ประกาศใน Internet เพราะราคา 20,500 บาท (เทียบกับราคาที่ขาย HK ประมาณ 19,xxx บาท)และได้แวะไปดูสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อซึ่งที่ร้านมีแต่สีขาว จึงโทรติดต่อเจ้าของร้าน(ซึ่งวันนั้นเจ้าของร้านไม่อยู่ร้าน)บอกความต้องการว่าตนชอบสีดำ เจ้าของร้านจึงติดต่อสอบถามที่สาขาอื่น และแจ้งกลับมาว่ามีสีดำอยู่เครื่องหนึ่ง ถ้าสนใจให้จ่ายเงินค่ามัดจำ 3,000 บาท กับที่ร้าน หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจที่จะจ่ายค่ามัดจำ (ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง เสี่ยงถูกหลอกได้) และนัดมารับเครื่องในวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างนั้นก็ได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเช็คเครื่อง จนถึงวันที่ 4 พ.ค. ก็ได้ตรวจสอบ จึงพบว่าเป็นเครื่องใหม่มือ 1 จริง(จากการเช็ค Serial,ชม.การใช้เครื่อง) และก็ใช้เวลากว่า ชม.ในการสอนการใช้งาน สำหรับตอนนี้เชิญมาดูเครื่อง XPERIA-PLAY กัน นี่คือภาพกล่อง XPERIA-PLAY ด้านหน้ากับด้านหลังของกล่อง ที่ด้านข้างจะมีรูสำหรับดันกล่องด้านในออกด้านข้าง ดังรูป และเมื่อเปิดฝากล่องขึ้นจะพบกับ... . . . *ล้อเล่นอะครับ สำหรับรูปเมื่อกี้ ที่ด้านซ้ายของกล่องจะเป็นที่เก็บคู่มือการใช้งาน ส่วนด้านใต้กล่องจะเป็นที่เก็บของแถมต่างๆ(แบตเตอรี่,หูฟัง,ปลั๊กต่อแบบสามขา(ใช้ต่อกับรางปลั๊กคอมได้)และ สาย usb) นี่คือโฉมหน้าของเครื่อง XPERIA-PLAY จริงๆ (กดเปิดเครื่องโดยการกดปุ่มที่ด้านขวาบนเครื่องค้างไว้ประมาณ 3 วิ.จะขึ้นหน้าจอดังที่เห็นในรูป ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 40 วิ.ถึง 2 นาทีกว่าๆ ถึงจะขึ้นเมนูหน้าจอหลัก (ซึ่งถือว่านานมาก) ส่วนอีกภาพเป็นภาพเปรียบเทียบขนาดเครื่องต่างๆ ที่ด้านบนของเครื่องจะมีปุ่มกด L,R ส่วนตรงกลางเครื่องจะเป็นปุ่มเพิ่ม,ลดเสียง ส่วนอีกภาพเป็นด้านล่างของเครื่องจะมีช่องเสียบที่ชาร์ต ส่วนนี่คือหน้าจอเมนู สามารถใช้นิ้วทัชเพื่อเลื่อนไปอีกหน้าได้(สำหรับคำสั่ง market จะเป็นคำสั่งสำหรับเข้าไปเลือกดู โหลด app และเกมส์ต่างๆ สำหรับภาพนี้เป็นการพิมพ์ข้อความ จะเห็นว่ารองรับภาษาไทยด้วย จากการทดสอบใช้นิ้วโป้งพิมพ์ใช้งานได้ดีไม่เป็นปัญหาอย่างใด (ใช้เวลาทำความคุ้นเคยไม่นาน) นี่เป็นภาพเปรียบเทียบความหนา สำหรับเครื่อง psp slim กับ xperia play ภาพตัวเครื่องด้านหน้า ด้านหลังเครื่อง เมื่อเลื่อนสไลด์ จะพบกับจอยแพดสำหรับบังคับเกมส์ ส่วนอีกภาพเป็นด้านหลังเครื่องหลังสไลด์ ภาพหน้าจอสำหรับใช้โทรศัพท์ จากการทดสอบเบื้องต้น ลองเปิดเสียงระดับสูงสุดเทียบกับเครื่อง psp แล้ว xperia play เสียงดังกว่าค่อนข้างมาก ทดลองเล่นอินเตอร์เน็ต ก็ใช้งานได้ค่อนข้างดี เข้าเว็บต่างๆได้ไม่มีปัญหา สามารถพิมพ์,อ่านภาษาไทยได้ แต่จากการที่เข้าเล่นในเว็บบอร์ดเกมแม็ก พบว่า ที่หน้าจอของบอร์ดไม่มีแถบข้อความ ทำให้เลื่อนข้อความบน,ล่างไม่ได้ พอมีข้อความที่สมาชิกพิมพ์เข้ามาแชตบอร์ดก็จะเด้งขึ้นบน ((เลยใช้วิธีคอยกดปุ่มปิด,เปิดเสียงที่แชต)ไม่รู้ว่าต้องโหลด app มาเสริม หรือปรับแต่งที่เครื่องได้หรือเปล่า) ปุ่มบังคับเกมส์นั้นเหมือน psp ในส่วนอนาลอคจะมีสองอันเป็นแบบสัมผัส แต่ปุ่ม select ,start กดค่อนข้างยากไปนิด เพราะปุ่มเล็กและแข็งต้องใช้เล็บจิกไปที่ปุ่ม ส่วนปุ่ม L,R นั้นจะเหมือนกับ L2,R2ของ ps3 แต่ปุ่มเล็กกว่า และกดได้ตื้นกว่า (ยังไม่ได้ทดลองเล่นเกมส์ที่รองรับใช้จอยเล่น เพราะต้องทำการ format เครื่องก่อน จึงจะเล่นได้ (ตอนซื้อเครื่องที่ร้านดันไม่ได้ formatให้ และในเครื่องมีข้อความที่สำคัญเพื่อเป็นหลักฐาน จึงยังไม่ได้ทำการ format) *ในมุมมองส่วนตัวนั้น ในเรื่องเกมส์ในตอนนี้ยังสู้ IPHONE ไม่ได้ ที่มีทั้งค่ายเกมส์ยักษ์ใหญ่คอยป้อนเกมส์ให้ เช่น resident evil,final fantasy ส่วนXperia play ยังมีเกมส์ให้โหลดไม่เยอะ (ประมาณ 30 - 60 เกมส์) เกมส์เด่นๆมีแค่ไม่กี่เกมส์ของค่าย gameloft *ปล. น้องๆทั้ง 4 ดำกันหมด ( ps 2 slim , psp slim , ps3 slim และคนสุดท้อง xperia play ) แต่พี่ใหญ่( ps1) กลับสีไม่เหมือนน้องๆ ราวกับถูกเก็บมาเลี้ยง *ปล. 2 ติดตาม review ของมืออาชีพ (ยังไม่รู้เมื่อไร)