ถ้าให้บอกว่าค่ายไหนเป็นผู้พัฒนาเกม rpg แนวหน้าของญี่ปุ่น หลายคนคนบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า square-enix และถ้าให้บอกว่าค่ายไหนเป็นผู้พัฒนาเกม rpg แนวหน้าของอเมริกา ทุกคนตอบได้ไหม?...... ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก.......... . . . . . . . ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันผมเลยมาถามเนี่ยละ (ฮ่าๆๆๆ) เพราะ ทั้ง bioware และ Bethesda (fallout, The Elder Scrolls) ก็เป็นอะไรที่สุดยอดพอกันๆ แต่สิ่งที่จะพูดในครั้งนี้เป็นเกมของ bioware ผมขอยกผลงานเก่าๆที่สุดยอดของค่ายนี้มาให้ดูหน่อย ผลงานของ bioware ที่ผ่านมา 2-3 ปี นั้น ล้วนเป็นเกมระดับขึ้นหิ้งทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น Mass effect ที่ออกมาในปี 2007 สักนักข่าวเกมในต่างประเทศตามที่ต่างๆ ให้เป็นสุดยอดเกม rpg ในปีนั้น Dragon Age : Origins ได้สุดยอดเกม rpg ในปี 2009 Mass effect 2 ก็ได้สุดยอดเกม rpg ไปในปี 2010 และนั้นก็ทำให้เหล่าสาวกและเกมเมอร์ผู้ชอบเล่น rpg ระดับ hardcore ทั้งหลายๆต่างจับจ้องถึงการมาถึงของเกม dragon age 2 กันอย่างมากมายและอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว.... เทเลอร์แรกของเกม แนะนำอาชีพต่างๆ เนื้อเรื่อง โดยการดำเนินเรื่องของตัวเกม จะถูกเล่าผ่านจากปากชาว dwarf ที่ชื่อว่า Varric ซึ่งเขาจะถูกสอบสวน โดย Cassandra ซึ่งเป็นคนของกลุ่มศาสนจักรเพื่อให้คายความลับต่างๆของ Hawke ผู้ที่เป็นตัวเอกของเกมออกมา ซึ่งตอนนี้ Hawke เป็นวีรบุรุษผู้นำในการต่อสู้กับเหล่าปีศาจร้ายแต่เขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน โดย Varric ได้เปิดปากเล่าถึงวีรกรรมของ Hawke ก่อนจะมาเป็นวีรบุรุษให้ Cassandra ฟัง ย้อนไปในช่วงเหตุการณ์ของครอบคัว hawke ที่อาศัยอยู่ในเมือง Lothering ได้ทำการอพยพหนีพวก darkspwan มา ณ ที่ตีนภูเขาแห่งหนึ่ง โดยเหตุการณ์ของภาค 2 นี้จะดำเนินไปพร้อมกันกับภาคแรกซึ่งเมือง Lothering ในภาคแรกเราได้เคยไปเยี่ยมเยือนมาแล้วก่อนที่จะถูกพวก darkspwan บุก ในระหว่างที่ครอบครัวของ Hawke หลบหนีกันอยู่นั้น แม่ของ Hawke ก็ได้ตัดสินใจที่จะพาครอบครัวไปยังเมือง Kirkwall ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของแม่ของ Hawke นั่นเอง และที่เมือง Kirkwall นี้เองที่จะเป็นแหล่งพักพิงแห่งใหม่ของวีรบุรุุษผู้มีนามว่า Garrett Hawke (ตอนเริ่มเกมเราสามารถเลือกเพศเปลี่ยนชื่อและปรับแต่งหน้าตาตัวละครเอกของเราได้จะเป็นวีรบุรุษหรือวีรสตรีก็แล้วแต่คุณนะครับ) ซึ่งการดำเนินเนื้อเรื่องของภาคสองนี้ยังคงตื่นเต้นและน่าติดตามรักษามาตรฐานที่ดีของภาคแรกไว้ได้อยู่ หนทางของการขึ้นเป็นวีรบุรุษผู้นำการต่อต้านปีศาจของ Hawke จะเป็นอย่างไรต่อไปขึ้นอยู่กับการสั่งการของสมองและมือน้อยๆใหญ่ๆของผู้เล่นที่เกาะกุมคอนโทรลเลอร์ไว้แล้วละว่าอยากให้ตัว Hawke ที่เป็นเพียงผู้ลี้ภัยยากจนข้นแค้นจากสงครามดำเนินเรื่องราวไปในรูปแบบไหน (Varric ชาว dwarf ที่ร่วมต่อสู้ไปกับเราดูไปดูมาก็เหมือน จิ้ม ชวนชื่นนะเนี่ย) Gameplay การเปลี่ยนแปลงที่แทบจะยกแผงใน dragon age 2 นี้ก็คือระบบการต่อสู้ซึ่งในภาคแรกจะเป็นการวางแผนตัวละครให้เลือกทำสิ่งต่างๆตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ซึ่งการวางแผนแต่ละครั้งเราสามารถหยุดเกมออกคำสั่งได้ แต่ภาคนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ให้เป็นแอคชั่นดุดัน เลือดสาดดดด ตื่นเต้นมากขึ้น โดยในการโจมตีศัตรูแต่ละครั้งเราต้องกดรัวปุ่มยิกๆเหมือนอย่างพวกเกมตระกูล Tales หรือ Star Ocean เลยทีเดียว แต่ตัวเกมก็ไม่ได้ทิ้งระบบหยุดเกมเพื่อให้วางแผนออกไปยังคงมีอยู่ ถ้าใครเลือกเล่นเกมในระดับความยากแบบง่ายๆ เล่นทีนี้นึกว่าเป็นเกมในซีรี่ย์มัวซั่วของ koei เลยทีเดียวแต่ถ้าเล่นในความยากระดับ nightmare จะเล่นแบบฟันดะอย่างเดียวไม่ได้ต้องวางแผนออกคำสั่งตัวละครกันไม่งั้นไม่ผ่านแน่นอน แต่เชื่อว่าหลายๆคนเมื่อเจอระบบใหม่แบบนี้แล้วคงจะไม่หยุดเกมเพื่อวางแผนแล้วละ (ฮ่าๆๆ) (ไม่โง่ก็บ้าละอยู่ดีๆยื่นคอมารับคมดาบซะงั้น) อาชีพในเกม dragon age จะแบ่งเป็น 3 อาชีพหลักคือ warrior mage และ rogue ซึ่งเราจะให้ Hawke เป็นอาชีพอะไรก็ได้ตามที่เราอยากจะให้เป็น โดยการเลือกอาชีพนั้นการดำเนินเนื้อเรื่องก็จะมีบางส่วนที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยด้วย แต่ไม่ว่าจะเลือกเล่นอะไรก็ตามตัวละครต่างๆในเกมนี้เราสามารถสลับบังคับได้ทุกตัว อยากเล่นอาชีพอะไรก็เลือกเล่นตามตัวละครที่เกมมีให้ก็ได้ โดยแต่ละอาชีพมีข้อดีข้อเสียแตกต่างไปดังนี้ Warrior เป็นนักรบที่อยู่ในแนวหน้าเสมอเพราะเลือดเยอะและพลังป้องกันสูงโดยถ้าใครเลือกเล่นสายโล่ห์จะเป็นตัวที่เอาไว้ใช้แทงค์ขอรับความเจ็บปวดช้ำชอกต่างๆไว้ที่ตัวเองคนเดียว ส่วนถ้าใครเล่นสายดาบสองมือก็ฟันดะกวาดล้างศัตรูอย่างเดียวเลยครับเพราะสกิลของสายดาบสองมือนี้ใช้ไปทีศัตรูที่อยู่ตรงหน้าต้องลงไปนอนกันหมด Mage เรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่สร้างความเสียหายศัตรูได้ดีที่สุด และก็เป็นอาชีพที่บอบบางที่สุด ในการวางกลยุทธ์ในการเล่นถ้าเราเห็น mage ของศัตรูมาให้รีบกำจัดก่อนเป็นตัวแรกเลย ไม่งั้นมีแต่ตายอย่างเดียวครับ การอัพ skill ต่างๆก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายแล้วแต่คนชอบเลย จะให้เป็นสายสนับสนุนหรือสายทำลายล้างสูงก็ได้ หรือจะอัพทั้งสองสายเลยก็ได้ Rogue จอมตุ๋ยตูดของโลก dragon age มีให้เลือกเล่นทั้งสายดาบคู่และสายธนู สกิลต่างๆของ rogue จะเป็นพวกความเร็วสูงสามารถหายตัวไปยาราไนก้าที่หลังศัตรูได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้านพลังป้องกันจะค่อนข้างน้อยกว่า warrior แต่ก็มากกว่า mage แต่ไม่เป็นไรอย่าไปกลัวความเร็วเป็นเลิศฆ่าศัตรูทีรวดเร็วรุนแรงเผลอๆอาจดีกว่า warrior สายดาบสองมือเลยทีเดียว ระหว่างการเล่นเกมเราจะพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา ซึ่งการที่จะให้เกมดำเนินต่อไปนั้นเราต้องเลือกตอบเลือกคุยซักไซ้ไล่เรียงไป ซึ่งเราสามารเพิ่มระดับความสัมพันธ์ของเพื่อนๆที่ร่วมต่อสู้ไปกับเราได้ ถ้าเราสร้างระดับความสัมพันธ์เกินคำว่าเพื่อนก็จะมีฉาก อะจึ๋ยๆคิกขุๆกัน โดยในภาคนี้ได้ทำระบบพูดคุยให้เป็นแบบซีรี่ย์ mass effect แทบทั้งหมด แถมยังมีสัญลักษณ์บ่งบอกถึงตัวคำตอบที่จะเลือกด้วยว่าดี เป็นกลาง แดกดันชั่วร้ายยังไง ซึ่งนั้นทำให้การเลือกตอบคำถามง่ายกว่าภาคแรกมากๆ (Bethany น้องสาวผู้น่ารักของเรา เป็นตัวละครที่น่ารักที่สุดในเกมละ แต่กรรมของผู้เล่นที่เราแตะต้องอะไรเธอไม่ได้เพราะเป็นน้องสาว ) ________________________________ สปอยยยยยยยยยยยยย โปรดระวังการเลื่อนลง (ไม่ได้เป็นความลับมากอะไรหรอก) ถ้าเราเลือกอาชีพ warrior และ rogue ตอนช่วงเริ่มเกมที่หนีพวก darkspwan น้องชายของเราจะถูกอ็อคฆ่าตาย แต่ถ้าเราเลือกอาชีพ mage น้องสาวเราจะตายแทน ผมอยากเล่น mage มากนะแต่จะให้น้องสาวที่น่ารักสุดอึ๋มตายไปทำใจม่ายยยด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ______________________________ (ไม่เป็นไรเรายังมีเจ๊มืดคนนี้อยู่ ผ่านๆๆ หิหิ ) เสียง สิ่งที่ผมไม่ชอบที่สุดของเกม rpg ฝรั่งก็คือเรื่องเพลงเนี่ยหละซึ่งจะแตกต่างจากฝั่งญี่ปุ่นที่ทำเพลงบรรเลงได้ไพเราะมากๆ ซึ่งเพลงบรรเลงเกมนี้ก็เป็นเหมือนเกม rpg ฝรั่งทั่วไป เวลาเดินในเมืองขอทีได้ไหม ขอเพลงที่มันไพเราะเสนาะหูหน่อย ไม่ใช่เดินแล้วอึมทึมเครียดๆทั้งเกม แต่เพลงเวลาต่อสู้นี้เร้าอารมณ์ใช้ได้เลยทีเดียว ในเรื่องเสียงพากย์ตัวละครสำหรับ bioware แล้วไม่ต้องพูดถึงทำได้ดีมากอยู่แล้ว เกมนี้ก็ยังคงระกับมาตรฐานนั้นไว้ได้อย่างดี และในภาคนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ตัวเอกมีเสียงพากย์แล้วด้วย เสียง effect ต่างๆก็ทำได้ดีเสียงเวลาใช้เวทย์เสียงฟันดาบฉิบฉับ เสียงร้องตัวละครโอ๊กอ๊าก ฟังแล้วได้อารมณ์มาก โดยรวมด้านเสียงของเกมนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ ภาพ ภาพถ้าเทียบจากภาคแรกทำออกมาได้ดีเลยครับบรรยากาศสิ่งแวดล้อมต่างๆรวมทั้งฉากหลังไม่ค่อยขมุกมัวๆแล้ว ในส่วนสีหน้าของตัวละครที่พูดคุยกันสามารถแสดงสีหน้าอารมณ์ออกมาได้ดี การขยับปากก็ตรงกับเสียงพูด accent ของภาษาอังกฤษ เรียกได้ว่าเวลาดูฉากตัวละครคุยกันนี้อย่างกับดูหนังเลยทีเดียว หลังจากฆ่าศัตรูรอยเลือดอะไรต่างๆก็ติดเปอะเปื้อนบนใบหน้าขาโหดซาดิสทั้งหลายคนถูกใจไม่น้อย อีกทั้งพื้นผิวรอบยับบนใบหน้าและรายละเอียดเสื้อผ้าความมันวาวของเสื้อเกราะทำออกมาค่อนข้างดี เนื่องจากภาคนี้ได้ีมีการเปลี่ยนระบบการต่อสู้ใหม่ และนั้นก็ทำให้การเคลื่อนไหวของตัวละดุดัน โอเวอร์แอคติ้งขึ้นอย่างมาก เช่นเกมอื่นตัวละตัวละครที่เป็นพวกจอมเวทย์เวลาโจมตีจะทำแค่ยื่นคฑาไปข้างหน้า แต่เกมนี้ไม่ครับปล่อยเวททีหมุนหน้าหมุนหลังรอบตัว สะบัดไปมา ผมว่าถ้าเป็นของจริงเหนื่อยตายเพราะท่าปล่อยเวทเนี่ยละ rogue ก็เช่นกันตีลังกาไปมาควงมีดฟันฉึบฉับ เป็นอะไรที่ได้อารมณ์มาก แต่ความลื่นไหลในการเคลื่อนไหวยังดูแข็งๆอยู่ ในส่วนของ effect การใช้สกิลและเวทย์ทำค่อนได้อลังการ อย่างเช่นผมใช้เวทย์ Firestom ก็มีลูกไฟตกลงจากฟากฟ้าแผดเผาพวกศัตรู การดีไซน์เมืองต่างๆก็อิงศิลปะยุโรปสมัยกลางทั่วไป โดย concept ของเกมเป็น fantasy ยุคมืดโหดร้ายก็ถือว่าฝ่ายศิลป์ของเกมออกแบบภาพมาโดยรวมทั้งหมดแล้วผมให้ผ่านครับ สรุป เนื้อเรื่องให้ 9.5 gameplay ให้ 9.0 ภาพให้ 8.5 เสียง 8.5 รวมแบบมั่วๆๆๆ ให้ 9.5 ไปเล้ยยยยยยยยยยยยยย _______________ ไม่มีเกมไหนในช่วงนี้ดังและแรงเท่ากับเกมนี้แล้วครับ ถ้าคนที่ชอบเล่น rpg ฝรั่งคงไม่พลาดกันอยู่แล้ว อีกทั้ง mass effect 3 ก็ประกาศว่าจะจำหน่ายช่วงปลายปีนี้ (ถ้าไม่เลื่อนก่อนนะ) ปีนี้คงเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆเลยครับ และไหนเกม The Elder Scrolls V: Skyrim จะวางจำหน่ายในวันที่ 11 พ.ย. 2011และไหนจะเป็น ff13-2 อีก ถือว่าปีนี้เป็นปีทองของชาว rpg จริงๆครับ ปล.ถ้าใครโหลด demo เกมนี้มาและเล่นจนจบจะได้ดาบใหญ่มาใช้และได้หนังสือ ที่ทำให้ได้ค่า exp และเงินเพิ่มขึ้นกว่าเก่าด้วยครับ โดยเฉพาะดาบใหญ่ผมเล่นในระดับ hard เวลาใช้ดาบใหญ่ทำให้เกมเล่นง่ายขึ้นเยอะเลยครับของเขาดีจริงๆ ปล.2 ถ้ามีคำตกหล่นคำผิดเยอะก็ขอโทษด้วยครับ ผมเขียนรีวิวนี้นานมาก เขียนจนตาลาย พิสูจน์อักษรแล้วมาบ้างถ้าหลุดรอดไปก็ขอโทษทีครับ |