ถึงแม้ว่าผมจะใช้ไอดีโซน 2 (jp) แต่ในเมื่อ vita ไม่ได้ล็อคโซนเกม ผมจึงมีเกมวีต้าในครอบครองครบทั้ง 3 โซน แต่ก็คงมีเพียงแค่ไม่กี่เกมที่ผมตั้งใจซื้อโซน 2 มาเล่นโดยเฉพาะ เกมที่ว่าก็คือ Dream Club Zero (Dec 2011) กับ Hatsune Miku: Project Diva f (Aug 2012) และล่าสุดกับเกมนี้ครับ Atelier Totori Plus (Nov 2012) ถ้าสังเกตให้ดีทุกเกมล้วนมีตัวเอกเป็นสาวงามทั้งนั้นเลย (-..-) แม้จะเป็นเกมที่พอร์ตมาจาก ps3 ก็ไม่เป็นไร เพื่อสาวงามซะอย่างยอมเป็นป๋าหน้ามืดตามัวได้อยู่แล้ว ทันทีที่ผมแกะกล่อง Atelier Totori Plus ก็พบโค้ดแถมมาเพื่อให้โหลด dlc นี่ไงครับสาเหตุที่ผมยอมซื้อเกมให้ตรงกับโซนไอดีที่ใช้ ผลก็คือได้โหมด Extra เพิ่มเข้ามา และได้ชุดนุ่งน้อยห่มน้อยมาอีก 2 ชุด เยี่ยมมากครับ ที่จริงซีรีย์ Atelier มีออกมาเยอะมากเลยล่ะครับ ถ้านับเฉพาะภาคหลักก็มีออกมารวม 15 ภาค ซึ่งทุกภาคจะลงให้กับ ps1 (ตอน Salburg) , ps2 (ตอน Salburg , Gramnad , Iris , Mana) , ps3 (ตอน Arland) และ psp (ตอน Gramnad) แต่ถ้านับเฉพาะตอน Arland (ps3) ก็มีทั้ง Atelier Rorona: The Alchemist of Arland (ปี 2009) Atelier Totori: The Adventurer of Arland (ปี 2010) และ Atelier Meruru: The Apprentice of Arland (ปี 2011) ถ้านับรวมทุกภาคก็จะมีตอน Salburg ออกมา 3 ภาค ตอน Gramnad ออกมา 4 ภาค ตอน Iris ออกมา 3 ภาค ตอน Mana ออกมา 2 ภาค และล่าสุดกับตอน Arland ออกมา 3 ภาคนั่นเอง ซึ่งในส่วนของตอน Arland ได้ถูก CERO จัดเรตใหม่จากเรต A เป็นเรต B และเพิ่มคำว่า Sexual Content ส่วนเวอร์ชั่น vita เป็นการพอร์ตมาจาก Atelier Totori: The Adventurer of Arland แต่เพิ่มฉาก Orthogalaxen และเพิ่มชุด costumes รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆเพื่อให้เกมมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เรื่องราวในเกมเริ่มต้นจากตัวเอก Totooria Helmold (Totori) ที่พยายามตามหาคุณแม่ที่หายตัวไป เธอมีอายุเพียง 13 ปี สูง 146 ซม.เธออาศัยอยู่ในบ้านกับคุณพ่อและพี่สาวที่ชื่อ Cecilia Helmold (Ceci อายุ 18 ปี สูง 156 ซม.) เธอเป็นนักเรียนของ Rorolina Frixell (Rorona) แต่ยังไม่มีประสบการณ์การเล่นแร่แปรธาตุเท่าใดนัก ซึ่งในภาคนี้ Rorona เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงไปแล้ว (8 ปี จากภาค Atelier Rorona: The Alchemist of Arland) ภายในเกมจะได้พบกับตัวละครมากมายทั้งที่เพิ่งปรากฏตัวครั้งแรกในภาคนี้และตัวละครเดิมที่เคยปรากฏตัวมาแล้วในภาคก่อน ระบบในเกมจะแบ่งเป็นวันต่างๆ (ปีที่ 1 ถึงปีที่ 6) ซึ่งจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเหตุการณ์หลักตามเนื้อเรื่อง และเหตุการณ์พิเศษ ที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครด้วยกัน มีการทำเควสต่างๆซึ่งโดยมากจะเกี่ยวข้องกับการเล่นแร่แปรธาตุด้วยวัตถุดิบที่หามาได้ มีระบบการต่อสู้แบบเกม RPG ออกคำสั่งเป็นเทิร์นซึ่งคนที่เคยเล่นเกมภาษามาก่อนน่าจะคุ้นเคยกันดี ด้านกราฟฟิคต้องบอกว่าสวยงามน่ารักตามสไตล์ซีรีย์ Atelier ทั้งภาพในเมืองและวิวทิวทัศน์สถานที่ต่างๆ การออกแบบตัวละครในเกมเรียกว่าอยากหลุดเข้าไปอยู่ในเมืองจริงๆ ตัวละครในเกมเต็มไปด้วยสาวงามหนุ่มหล่อมากมาย อย่างไรก็ตามข้อเสียก็มีอยู่เช่น เวลาโหลดเกมเข้าแม็พใหม่ ตัวละครในฉากโผล่มาไม่ทัน , เสื้อผ้าชุดที่เปลี่ยนแต่ฉากคัทซีนและภาพตัวละครเวลาสนทนาไม่เปลี่ยนชุดตาม , รวมถึงเมืองและสถานที่ต่างๆค่อนข้างเล็ก เดินเล่นไม่นานก็ทัวร์ทั่วฉากแล้ว เป็นต้น ในส่วนของดนตรีก็ต้องบอกว่าท่วงทำนองฟังได้เพลินแบบแนว JRPG แต่จุดเด่นคงเป็นเสียงฟูลวอยส์ของตัวละครแต่ละตัวที่พากย์เสียงได้น่ารัก แทบจะเหมือนนั่งดู Japanese Anime ยิ่งหากสวมหูฟังขณะเล่น คนที่ชอบการ์ตูนแนวนี้คง Fin เลยล่ะ สรุป Atelier Totori Plus เป็นอีกเกมที่คุ้มค่ามากโดยเฉพาะแฟนเดนตายทั้งหลาย ยิ่งได้โหมด Extra เพิ่มเข้ามาก็เรียกได้ว่าแทบอยากจะปลดล็อคทุกถ้วยเพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ดูกันภายหลัง แต่สำหรับคนทั่วไปที่อยากจะลอง Atelier Totori Plus ก็อาจจะผิดหวังสักหน่อย เพราะระบบเกมไม่ได้เน้นลุยดันเจี้ยนซับซ้อนแบบ RPG ทั่วไป การเดินไปเดินมาเพื่อเก็บวัตถุดิบตามเควสและบริหารเวลาในแต่ละวันเพื่อพบเจอเหตุการณ์ต่างๆอาจจะไม่น่าสนุกเท่าใดนัก ยิ่งถ้าใครซื้อแผ่นมาไม่ตรงโซนหรือซื้อแผ่นมือสองมาแล้วอดใช้งานโค้ดด้วย เจอแบบนี้คงแทบจะเขวี้ยงแผ่นทิ้งแน่ๆ (ณ เวลานี้โค้ดที่แถมมาในกล่อง ยังไม่มีขายแยกต่างหากใน PS-Store) รีวิวโดย limp2551

เกมโมเอะมากครับ ชุดนุ่งน้อยห่มน้อยน่ารักจัง เพิ่มพลัง

ไก้ลความจริงแล้วครับตั้งแต่ไปชื้อมากับครูลิ้มวันนั้น ใช้เวลาเล่นไปทั้งหมด 60-70ชั่วโมงใด้ละครับ เกมอะไรยาวจริง กะเล่นให้จบก่อน DMC คงไม่ทันก๊ดองละงานนี้ ปล รีบเล่นเดียวสอบละ 555

กดนอนยาวไปเรื่อยๆก็จบครับ แต่จบแบบ bad ending นะ (ถ้วยเด้ง)