ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป
หน้าหลัก | เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Username: Password:
  วันพฤหัสที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2567
  คำค้นหา:
รีวิวเกมจากแฟน GM
รีวิวเกม
สาระน่าเรื่องเกม
บทความเกม
Gamemag online รายสิบวัน
Magazine
Screen Shot
Game Update
คลิปเกมจากยูทูป
Game Tube
Emu และ Rom เกม
Emu&rom
Cosplay
Cosplay
Wallpaper
WallPaper
ภาพวาดจากแฟน GM
Art Corner
Gamemag on Facebook
Facebook
                   
สมาชิกทุกท่านโปรดอ่านก่อน*กฎกติกาของบอร์ด*
รวมวิธีโพสภาพ,คลิป,การใส่ลายเซ็น และอื่นๆ
 l<   <<   >>   >l 
Animategroup.com - GAMEMAG - Review Movie: "อันธพาล" นักเลงน่าเคารพกว่าคนมีอำนาจใช้ในทางชั่ว ๆ
ผู้ตั้งกระทู้ ข้อความ
RakGames / VIP
ID : V02254

Level : เตตริสแม่ค้า
Exp. : 52%
จิตพิสัย : 100%
Like : 11
Post : 25
Reply : 31
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2010-12-02
PM Profile
Topic : Review Movie: "อันธพาล" นักเลงน่าเคารพกว่าคนมีอำนาจใช้ในทางชั่ว ๆ
«date: 31 ตุลาคม 2555 , 09:43:24 »
 แก้ไข  



บทความจากเว็บไซต์:http://Filmfixs.com/index.php?option=com_content&view=article&id=185:-by-anuraksk&am

ก่อนอื่นต้องขอฝากเว็บไซต์ของคนรักหนังเปิดตัวใหม่ด้วยนะครับhttp://www.Filmfixs.com

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวเลยว่า ข้าพเจ้าถือเป็นแฟนหนัง 2499 อันธพาลครองเมือง ผลงานการกำกับของอา นนทรีย์ นิมิบุตร หนึ่งในหนังไทยน้ำดีไม่กี่เรื่องที่ข้าพเจ้าหยิบมาดูแล้วดูอีก ทั้งดูด้วยตา ทั้งฟังด้วยหูเวลานั่งทำงาน ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนบทพูดในหนังซึมแฉลบขี้หูกลั้วกระเฉาะออกมาเป็นโกโก้ครั้น มีคิดเล่น ๆ อยู่บ่อยครั้ง ถ้าเอาบทพูดในหนังมาไล่เขียนลงแผ่นกระดาษน่าจะถูกกว่า 80% ด้วยกระมัง...



ด้วยความชอบหนังแนวมาเฟียเป็นการส่วนตัวมาตั้งแต่เด็ก มันคือผลพลอยได้ความบันเทิงแบบซาดิสต์จากวิดีโอที่ป๋าเช่ามาให้คนในบ้านดูกันม้วนแล้วม้วนเล่า จำได้ว่ากว่า 60% ที่ป๋าเช่ามาเป็นหนังมาเฟียฮ่องกง ส่งผลให้พันธุกรรมคนชอบหนังมาเฟียของป๋าซึมเข้ากระแสเลือดคนลูกอย่างไม่รู้ตัว จนในที่สุดก็แปรสภาพเป็นสัญลักษณ์บั่นทอนความเครียดของคนในบ้านหลังนี้ ของอนุรักษ์คนนี้...



ความชอบ ความรัก ในหนังมาเฟีย ถ้าเกิดได้ชอบ ได้รักแล้ว มันติดตัวเราไปจนตาย หนังมาเฟียจัดเป็นหนึ่งในหนังที่ดูดเงินข้าพเจ้าให้ซื้อตั๋วเข้าโรงหนังได้มากที่สุดครับ ไม่ว่าจะเป็นมาเฟียไอ้กัน ฮ่องกง รวมไปถึงหนังมาเฟียไทยน้ำดีที่ออกโรงไปได้สักพักแล้วอย่าง อันธพาล ผลงานของผู้กำกับไฟแรง ก้องเกียรติ โขมศิริ หนังบอกเล่าเรื่องราวของ จ๊อด [น้อยวงพรู] และ แดง [เต๋า สมชาย] นักเลงคู่หูที่ต่างก็เคารพกันและกัน ทั้งคู่เริ่มต้นจากการเป็นแค่อันธพาลหางแถวสู่แถวหน้าในช่วงเวลาสั้น ๆ จ๊อด สร้างชื่อขึ้นมาด้วยการฆ่า เฮียเซ้ง [พงษ์พัฒน์] จากการดวลมีด จากนั้นมาแก๊งค์ สี่คิงส์ ซึ่งมีอิทธิพลย่านเยาวราชหลังจากที่ประมุขของแก๊งค์อย่าง ก๋ง เสียไปความวุ่นวายก็ตามมามากมาย การแย่งชิงอำนาจระหว่างหัวหน้า โดยผ่านการเล่าเรื่องสลับกันระหว่าง จ๊อด แดง และเปี๊ยก [กฤษฎา]



ผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ เนรมิตรให้หนัง “อันธพาล” เป็นหนังมาเฟียไทยที่ดูลุ่มลึกกว่าหนังมาเฟียไทยเรื่องอื่น ๆ เรื่องของการสะท้อนให้เห็นภาพความเป็นปุถุชนเดินดินเด่นชัดของนักเลง เฉลยคำตอบ วัฏจักรวงจรอุบาทย์ เหตุใด? ทำไม? พราะอะไร? พวกเขาจึงต้องมาเดินบนถนนเส้นนี้ ผ่านการเล่าเรื่องในช่วงครึ่งแรกที่ กระฉับ รวดเร็ว ใช้เทคนิคการนำเสนอกึ่ง Flash Back สลับภาพไปมาบอกเล่าถึงมิตรภาพที่เชื่อมโยงกันแน่นแฟ้นช่วงเปิดระหว่าง จ๊อด กับ แดง ทำไม จ๊อด ที่อายุมากกว่าถึงได้นับถือ แดง เป็นลูกพี่ อีกทั้งทุก ๆ การตัดสินใจของ แดง ยังส่งผลถึงอนาคตเส้นทางชีวิตของ จ๊อด แม้เขาจะไม่เต็มใจนักแต่เขาก็ต้องเลือกเพราะด้วยความรักและเคารพในตัว แดง



หนังเปิดเรื่องแบบใช้เทคนิคกึ่ง Flash Back ผสมกับเป็นการแนะนำตัวละคร จ๊อด กึ่งเชิดชูถึงนิยามความหมาย คำว่า “นักเลงไทย“ ต้องมีสัมมาคาระวะ ถ่อมตน รักเพื่อน รักครอบครัว ใจดี มีคุณธรรม แต่ถ้ายามใดต้องสู้ก็ต้องตายกันไปข้าง ผู้กำกับ ก้องเกียรติ เหมือนต้องการสร้างภาพขนานให้ถึงความต่างและศักดิ์ศรีระหว่าง “กุ๊ย“ กับ “นักเลง“ ขณะเดียวกันตัวผู้กำกับยังใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบสารคดีเอาคนยุคสมัยนั้น มาบรรยายเหตุการณ์เด่น ๆ ประกอบพร้อมภาพข่าวมีแทรกให้เห็นเป็นระยะ ๆ ช่วยปรุงแต่งให้หนังเป็นภาพยนตร์มาเฟียแอ็คชั่นกึ่งสารคดีบทเรียนทางประวัติศาสตร์นักเลงไทยในยุคร๊อคแอนด์โรล เสมือนเป็นตัวแทนคำตอบของคำถามมากมายของคนสมัยนี้ซักถึงโลกนักเลงสมัยนั้น ทั้งเรื่องวัฒนธรรมมัดมือดวลมีด, นิสัยใจคอนักเลงดัง ปุ๊ ระเบิดขวด - แดงไบเลย์ - ดำ เอสโซ่ - จ๊อด, เหตุการณ์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปราบนักเลงทั่วพระนคร มาเฟียตำรวจเข้ามาแทนที่นักเลง



ถ้าเปรียบแบบให้เห็นภาพก็ต้องบอกว่า ผู้กำกับ ก้อง เกียรติ โขมศิริ ทำหนังอันธพาลออกมาได้เถื่อนดิบคล้ายนักเลงข้างถนนแบบ Goodfellas บวกกับลีลาการตัดต่อภาพทำได้กระชับเร้าอารมณ์แบบ Pulp Fiction การเล่าเรื่องช่วงครึ่งแรกโดยรวมของหนังทำออกมาได้สนุก เข้มข้น กลมกล่อม แม้หนังจะมีตัวละครอยู่เยอะ แต่ผู้กำกับ ก้องเกียรติ ก็สามารถตอกย้ำและสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครในหนังให้มีจุดเด่น โดยยังคงรักษาโมเมมตัมพล็อตหลักของหนัง ถึงประเด็นวงจรอุบาทย์วงการนักเลงไทยที่แบ่งได้หลัก ๆ เป็น 4 ซีเควนท์ สร้างชื่อ – แจ้งเกิด – มีอำนาจ – ตายเยี่ยงหมา/หาทางหลุดพ้น ขณะที่ตัวหนังยังเป็นเสมือนทอระโข่งป่าวประกาศให้สังคมรับรู้ถึงความชั่วของ ตำรวจ ดู ๆ ไปไม่ต่างอะไรกับอันธพาล



ตัวหนังมีความ Real ในวัฏจักรวงจรอุบาทย์นักเลงรวมไปถึงผู้มีอิทธิพลในยุคสมัยนั้น โดยมีอำนาจมาเป็นเครื่องมือผลัดเปลี่ยนวงจรบัดซบนี้ จาก “นักเลง“ สู่ “ยุคตำรวจมาเฟีย“ ช่วงรุ่งโรจน์คาบต่อกัน หนังเหมือนกำลังตั้งคำถามปริมาณจริยธรรมถึงกลุ่มคนมีอำนาจในสังคม ถ้าจริยธรรมจิตใจคนเรามันสูง การซ่องโจร เก็บส่วย คอรัปชั่น วงจรบัดซบเหล่านี้คงไม่วงเวียนให้เห็นในสังคม อย่างที่ข้าพเจ้าว่ามาแหล่ะครับ ผู้กำกับ ก้องเกียรติ เนรมิตรหนังเสมือนเป็นทอระโข่งป่าวประกาศให้คนรับรู้ถึงความชั่วเฉพาะกับกลุ่มคนที่มีอำนาจ ไม่ใช่แค่กับนักเลง แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มคนมีสีมีเก้าอี้หน้าไหว้หลักหลอกอีกมากมาย อำนาจมีไว้ตักตวงท้ายที่สุดแล้วตายไปใช่สงบศพสวยอย่างที่คิด



แต่กับการเล่าเรื่องที่สนุก กลมกล่อม ช่วงครึ่งแรกผ่านตัวละครของ จ๊อด พอหนังดำเนินถึงจุดดราม่าช่วงท้าย ๆ ความดราม่าที่คนดูสมควรได้รับกลับรู้สึกไม่สุด จะว่าไปด้วยเนื้อหารายละเอียดยิบย่อยที่มีอยู่มากของ จ๊อด แม้ช่วงแรกหนังจะปูและเล่าออกมาได้สนุก แต่พอเมื่อมาถึงจุดปะทุ ดราม่า ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องการสำนึกผิดของ จ๊อด หลังเพิ่งออกจากคุก ภาพฝังตาที่เกิดจากการฆ่าคน ตัวหนังยังทำให้คนดูรู้สึกไม่สุดกับความเครียดสะสม ดราม่า ที่ จ๊อด กำลังเผชิญอยู่ ครั้นพอมาถึงซีเควนท์ส่งไม้ผลัดให้ เปี๊ยก เป็นบทนำต่อ เรื่องราวการสำนึกของ จ๊อด เลยยังไม่เคลียร์ ค้างคาในสายตาคนดูแต่ก็ต้องมากลายเป็นโครงเรื่องรองช่วงครึ่งหลังแทน



ขณะที่การนำเสนอรูปแบบภาพต่างมุมมองคนสองคนระหว่าง จ๊อด กับ เปี๊ยก คลื่นลูกใหม่เตรียมโถมทับคลื่นลูกเก่า, ความบาดหมางของ เปี๊ยก กับ ธง [สาครินทร์] โครงเรื่องหลักอย่าง เปี๊ยก ช่วงครึ่งหลังกลับต้องมาถูกประเด็นเรื่องชู้รักบดบังรัศมีให้ประเด็นที่สมควรชูเด่นกว่าอย่าง วงจรนักเลง, เพื่อนรักบาดหมาง ดูดร๊อปลงไป เช่นเดียวกับ โครงเรื่องรองของ จ๊อด การสำนึกผิด ภาพที่ฝังตา หนังยังคงเปิดช่องว่างให้ จ๊อด สะสางปมในใจ แต่สุดท้ายก็เป็นการเล่าเรื่องแบบพยายาม... ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ พยายามปิดปมแบบเคลียร์ไม่สุด ไม่ว่าจะเป็นฉากดวลปืนกับกำนันโต้ง หรือกับฉากไม่กล้าเด็ดหัวน้าหำหลังรู้ว่าเป็นสาย จนเมื่อหนังดำเนินมาถึงฉากจบพยายามดึงอารมณ์คนดูพีคขีดสุดก็ต้องเอวังแป๊กตกม้าตาย



ภาพรวมตัวหนัง "อันธพาล" จัดเป็นหนังมาเฟียไทยน้ำดีอีกเรื่องที่มีส่วนคล้าย Goodfellas ผสมกับการตัดต่อที่โดดเด่นแบบ Pulp Fiction แม้จะมีส่วนด้อยด้านการเล่าเรื่องช่วงครึ่งหลังทำได้ไม่เสถียรมีน้ำหนักเท่ากับช่วงครึ่งแรก แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าเมื่อเทศกาลแจกรางวัลสุพรรณหงส์มาถึง หนังไทยเรื่องนี้ถือเป็นตัวเต็งนอนมาอย่างน้อย ๆ 3 สาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม [น้อย วงพรู] และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม [บุญส่ง นาคภู่] ขณะที่องค์ประกอบด้านศิลป์ ฉาก กำกับศิลป์ คอสตูม การตัดต่อภาพ บรรยากาศโทนดิบสไตล์หนังมาเฟียยุคร็อคแอนด์โรล หนังทำออกได้ดีมาก ๆ ไม่ด้อยไปกว่าหนังมาเฟียรุ่นพี่ 2499 อันธพาลครองเมือง ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้เลยครับ...


คะแนนหนังรวม: 7/10




เล่นเกม ดูหนัง บ้าบอสไตล์คนอารมณ์เพี้ยน...
   ip: 171.97.30.127 
PON/ Admin
ID : S00300

Level : นักเล่นเกม3G
Exp. : -75%
จิตพิสัย : 100%
Like : ความดีท่วมหัว
Post : 804
Reply : 5428
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2008-11-04
PM Profile
Re: Review Movie: "อันธพาล" นักเลงน่าเคารพกว่าคนมีอำนาจใช้ในทางชั่ว ๆ
«Reply # 1 on: 31 ตุลาคม 2555 , 13:18:58 »
แก้ไข

ผมว่าเค้าคัดตัวนักแสดงได้ดีมากเลยนะ โดยเฉพาะพี่เต๋านี่ใช่เลย


จิ้มแล้วอ่านโลด
]
 l<   <<   >>   >l 

ผู้ใช้งานขณะนี้มีผู้ออนไลน์ 21 คน บอรด์มีทั้งหมด : 8,439 กระทู้ รวม  : 31,011 คำตอบ เข้าอ่านกระทู้ทั้งหมด : 15,120,741 ครั้ง
ดูตอบกระทู้ล่าสุดบนบอร์ด

0ขาจร, 21สาวก
ผู้ใช้เมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา:
, , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

HBD : no member

 

Copyright 2007 Animate Group Co.,Ltd. All rights reserved.