เครดิตทั้งข้อมูลและภาพจากคุณ ชีริว ตามลิงค์นะครับ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12478611/A12478611.html โนบิตะเกิด 7 สิงหาคม พ.ศ. 2507 แต่จะให้วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 48 ปี ก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกต้องไหม ว่าแล้วก็กลับไปอ่านโดราเอม่อนอีกรอบ ก็เจอประวัติโนบิตะและสิ่งน่าสนใจจมากมาย เลยเอามาร้อยเรียงเป็นกระทู้นี้ครับ เนื่องจากต้นฉบับโดราเอม่อนนั้นตีพิมพ์ในนิตยสารที่เหมาะกับเด็กวัยต่างๆตั้งแต่อนุบาลถึง ป.6 และจะเขียนให้รู้สึกว่าโนบิตะนั้นอยู่ชั้นเดียวกับเด็กที่อ่านนิตยสารนั้นๆอยู่ด้วย เช่นตอนที่ลงในนิตยสารเด็ก ป.1 โนบิตะจะนิสัยแบบเด็กๆ การดำเนินเรื่องไม่มีอะไรซับซ้อน ในขณะที่ตอนที่ลงในนิตยสารเด็ก ป.6 โนบิตะจะมีความคิดซับซ้อนขึ้น และหลายๆตอนจะดราม่ากว่ามากๆ แม้วุฒิภาวะของโนบิตะจะเปลี่ยนแปลงตามนิตยสารที่ลงพิมพ์ แต่ข้อมูลในฉบับบิ๊กบุ๊คและในตอนพิเศษจะให้โนบิตะอยู่ ป.4 และมีการระบุอายุโนบิตะว่า \" 10 ขวบ \" เท่านั้น ในฉบับหนังสือการ์ตูนนั้น โนบิตะถูกกำหนดให้เกิดในปี 1964 (พ.ศ. 2507) ช่วงปีโชวะ ซึ่งครั้งแรกที่มีการเฉลยปีเกิดของโนบิตะนี้ คือตอน \" วันที่ผมเกิด \" ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1974 ...นั่นคือสาเหตุให้โนบิตะซึ่งอายุ 10 ขวบ ต้องเกิดในปี 1964 นั่นเอง ในอนิเมฉบับใหม่ จะกำหนดให้โนบิตะอายุ 10 ปีตลอดกาล นั่นคือหากฉายในปี 2010 โนบิตะก็จะเกิดปี 2000 หากฉายในปี 2012 โนบิตะก็จะเกิดปี 2002 และเนื่องจากโดราเอม่อนเป็นการ์ตูนจบในตอน ซึ่งเหตุการณ์ในเรื่องนั้นจะนับเอาปีที่เขียนเป็นปีปัจจุบัน เช่นตอนที่โนบิตะตั้งใจจะเป็นพ่อที่ดีนั้น เขานั่งไทม์แมชชีนไปในอนาคตอีก 25 ปีข้างหน้า พบไดอารี่บนโต๊ะของเซวาชิ เขียนปกว่าปี 2002 นั่นคือโนบิตะยุคปัจจุบันมาจากปี 1977 ไม่ใช่ 1974 สาเหตุเพราะตอนที่ว่านี้ พิมพ์ครั้งแรกในปี 1977 นั่นเอง และการที่ปีหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามปีที่พิมพ์นี้ ทำให้หากนำมาเรียงเป็นไทม์ไลน์ ลำดับเหตุการณ์ก็จะสับสนไม่น้อย ในฉบับที่พิมพ์รอบหลังจากรวมเล่มแล้ว ผู้เขียนต้องการให้โดราเอม่อนอยู่บนจักรวาลเดียวกันทั้งหมด จึงได้ปรับปรุงเนื้อหาบางส่วน และเปลี่ยนจากการบอกปี ค.ศ. เป็นการบอกว่าเหตุการณ์นั้น \" เกิดขึ้นเมื่อกี่ปีที่แล้ว \" หรือนั่งไทม์แมชชีนไปในอนาคต \" กี่ปีข้างหน้า \" แทนการระบุ ค.ศ. ถ้าไม่สนใจว่าปัจจุบันมันปีอะไรกันแน่ เราจะสามารถเรียงเหตุการณ์สำคัญเป็นไทม์ไลน์ออกมาได้ดังนี้ครับ - ปีปัจจุบันโนบิตะอายุ 10 ปี อยู่ ป.4 - โนบิตะหมั้นกับชิซุกะในวันที่ 25 ต.ค. ในอีก 14 ปีข้างหน้า - โนบิตะแต่งงานเมื่อเขาอายุ 25 ปี จากนั้นโนบิตะก็ย้ายไปอยู่คอนโดกับชิซุกะในปีเดียวกัน - โนบิตะมักนั่งไทม์แมชชีนไปอีก 25 ปีข้างหน้า เพื่อพบตัวเองวัย 35 ปี และโนบิสุเกะลูกชายตอนอายุ 10 ขวบ เท่าเขาตอนนี้ ช่วงชีวิตที่ผ่านมานั้น มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเข้ามาในชีวิตของโนบิตะบ้าง เราไปชมกันเลยดีกว่าครับ... (ภาพ: ปีปัจจุบันของแต่ละตอน แตกต่างกันไป ขึ้นกับปีที่เขียนตอนนั้นๆ) ก่อนเริ่มขออินโทรเรื่องราวของพ่อแม่โนบิตะก่อน พ่อของโนบิตะคือ โนบิ โนบิซุเกะ แม่ของโนบิตะคือ โนบิ ทามาโกะ (นามสกุลเดิมคือคาตาโอกะ) ในเรื่องมีตอนที่เล่าเกี่ยวกับชีวิตก่อนทั้งคู่มาพบกันหลายตอน พอจะเอามาเรียงต่อกันได้ดังนี้ครับ 10 มิ.ย. 1945 ขณะถูกพาหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปทำงานหนักที่ชนบทร่วมกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ พ่อโนบิตะได้พบกับเด็กผู้หญิงที่งดงามราวลิลลี่ขาว ...ซึ่งจริงๆก็คือโนบิตะปลอมตัวมานั่นเอง ปีนี้คือปีที่ญี่ปุ่นโดนปรมาณูจนแพ้สงครามครับ 10 ก.ค. 1948 แม่โนบิตะเอาแหวนของคุณยายไปเล่นแต่งงานแล้วเผลอทำหาย เมื่อ 25 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1949) พ่อของโนบิตะเรียนวาดรูปอยู่กับ อ.คาคิฮาร่า ซึ่งต่อมากลายเป็นศิลปินชื่อดัง โนบิตะตั้งใจจะนั่งไทม์แมชชีนไปซื้อภาพตอนอาจารย์ยังไม่ดังในราคาถูกๆ แต่ดันเผลอไปซื้อภาพของพ่อกลับมาซะนี่ 15 ก.พ. เมื่อ 20 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1958) พ่อของโนบิตะปฏิเสธลูกสาวเศรษฐีที่จะช่วยออกเงินค่าเรียนศิลปะ ทำให้เขาไม่ได้แต่งงานเข้าตระกูลคนรวย เรียกว่าเป็นจุดหักเหใหญ่ของชีวิต ซึ่งในตอนนี้หลังลงฉบับรวมเล่ม ได้เขียนเพิ่มเติมว่าหลังโดนเตะออกจากบ้านเศรษฐีแล้ว พ่อโนบิตะได้บังเอิญวิ่งมาชนเอาแม่โนบิตะสมัยเป็นนักเรียน เธอทำตั๋วรถตกทำให้พ่อต้องเอาไปคืน จึงนับได้ว่าวันนี้ เป็นวันที่พ่อกับแม่โนบิตะ พบกันครั้งแรกด้วย 3 พ.ย. เมื่อ 12 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1959) พ่อและแม่โนบิตะขอแต่งงานกันที่สวนสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่รู้ว่าใครขอใครแต่งงาน เพราะโดราเอม่อน เอาหุ่นปลอมตัวไปง้อให้ทั้งคู่คืนดีและขอแต่งงานกันทีละฝ่ายนั่นเอง ถ้าถามว่าตามเวลาในท้องเรื่องพ่อแม่โนบิตะอายุเท่าไหร่ ก็ยังไม่แน่ใจว่ามีตัวเลขที่เป็นทางการหรือไม่ แต่อายุพ่อโนบิตะถูกเปิดเผยตอนที่โนบิตะทำตั๋วรถไฟใต้ดินให้ใช้ ระบุบนตั๋วว่า โนบิ โนบิโซ อายุ 36 ปี (ในตอนแรกๆพ่อของโนบิตะใช้ชื่อโนบิโซ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อโนบิซุเกะในตอนหลัง) ส่วนแม่โนบิตะเคยถูกโดราเอม่อนเอาเครื่องตรวจสอบอายุยิงหนนึง ได้ 38 ปี ในตอนแรกๆการ์ตูนไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดตัวละครมากนัก แม้แต่คุณพ่อที่ถูกกำหนดให้มีน้องชายคนเดียวก็มีสารพัดน้องชายโผล่มาเต็มไปหมด แถมมีน้องสาวโผล่มายืมเงินหนนึงด้วย ซึ่งภายหลังได้ระบุให้คุณอาโนบิโร่เป็นน้องชายเพียงหนึ่งเดียวของพ่อจริงๆ และอายุจริงๆของพ่อไม่น่าจะน้อยกว่าแม่ของโนบิตะ 10 ปีก่อน วันที่ 7 สิงหาคม เมื่อ 10 ปีก่อน (*พิมพ์ครั้งแรกบอกปี 1964) โนบิตะลืมตาดูโลก พ่อได้ตั้งชื่อให้เด็กคนนี้ว่า \" โนบิตะ \" ซึ่งหมายถึงการเติบโตอย่างแข็งแรงและเจริญก้าวหน้าไม่สิ้นสุด ทั้งพ่อและแม่คาดหวังว่าลูกน้อยคนนี้จะต้องเติบโตเป็นคนดี ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ซึ่งโนบิตะในปัจจุบันนั่งไทม์แมชชีนมาฟังความคาดหวังของพ่อแม่แล้วก็มีแรงให้ขยันเพื่อพ่อแม่มากขึ้นอีกนิด สมัยก่อนบ้านของโนบิตะมีกันอยู่ 4 คน คือโนบิตะ พ่อ แม่ และคุณย่า คุณปู่เสียชีวิตก่อนโนบิตะเกิด ส่วนทางครอบครัวคุณแม่นั้น บางครั้งแม่ก็กลับไปเยี่ยมที่บ้านเก่า ปกติย่าจะไปไหนมาไหนกับแม่เสมอ แต่วันคลอดโนบิตะ คุณย่าได้แยกตัวไปบอกกล่าวกับบรรพบุรุษด้วยความยินดี คุณแม่ถึงกับบอกว่า \" คุณย่ายิ้มซะหน้าย่นเลย \" ประโยคแรกที่ทารกโนบิตะพูดคืออะไรใครนึกออกบ้างครับ? ถ้าไม่เคยอ่านต้องเดากันไม่ถูกแน่ๆ... ประโยคนั้นคือ \" ผมอยากกินโคล่าฮะ \" นั่นเป็นเพราะโนบิตะคนปัจจุบันได้ใช้ของวิเศษย้ายวิญญาณตัวเองเข้าไปในตัวเองตอนยังเป็นทารกอยู่ แล้วเขาไม่อยากดื่มนมน่ะซี *7 ปีก่อน โนบิตะเคยนั่งไทม์แมชชีนไปตอนที่ตัวเองอายุ 3 ขวบ เพื่อพบคุณย่าสมัยยังมีชีวิตอยู่ ย่าต้องการเลี้ยงดูโนบิตะตลอดไป แต่ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะย่าแก่มากแล้ว โนบิตะเลยกลับไปสะพายกระเป๋านักเรียนมาให้ดูแล้วบอกว่าตัวเขานี่แหละ คือโนบิตะตอนอยู่ประถมและนั่งไทม์แมชชีนมา ซึ่งย่าก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าโนบิตะคนนี้แหละคือหลานชายของเธอ ตอนที่สุดประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชั่นความยาว 27 นาที ออกฉายในปี 2000 ด้วยครับ โนบิตะเคยนั่งไทม์แมชชีนเพื่อมาพาคุณย่าไปพบพ่อในปัจจุบันด้วย แต่ตอนนี้พลาดไปหน่อยที่บอกว่านั่งไทม์แมชชีนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่โนบิตะในอดีตนั้นโตราวๆ 3-4 ขวบแล้ว และตอนนี้คุณย่าจำได้ว่าโนบิตะเคยมาเยี่ยมหนหนึ่งแล้ว น่าจะเป็น 7 ปีก่อนมากกว่า หนังสือปริศนาแห่งโดราเอม่อนของสถาบันวิจัยโดราเอม่อนเซตากายะ ถึงกับเอาตัวเลขเวลาที่ผิดพลาดนี้ไปตีความว่าจริงๆแล้ว แม่โนบิตะอาจจะมีลูกชายอีกคนหนึ่ง (ซึ่งหนังสือเล่มนี้มันก็เพ้อเจ้อทั้งเล่มอยู่แล้วอะนะ) ตอน 3 ขวบ โนบิตะจำได้ว่าถูกชายคนหนึ่งพาเข้าอุโมงค์ลึกลับไปโผล่ที่แห่งหนึ่ง นั่นคือตัวเขาในปัจจุบันได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไปพาตัวเองตอนสามขวบมาลองเลี้ยง เพราะเขานึกอยากมีน้องชายขึ้นมา แต่สุดท้ายก็สรุปว่าเป็นลูกคนเดียวสบายใจกว่า ความคิดเห็นที่ 4 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน *6 ปีก่อน ในสมัยอนุบาล โนบิตะมีเพื่อนสาวคนแรกชื่อ นนจัง เป็นเด็กผู้หญิงน่ารักข้างบ้านที่อาศัยอยู่กับแม่แค่สองคน โนบิตะถูกพวกไจแอนล้อว่าเล่นกับผู้หญิงและแซวว่าสงสัยจะรักนนจัง แถมท้าให้ไปแกล้งนนจังให้ดู ซึ่งโนบิตะก็ยอมใจดำแกล้งนนจังแล้วขโมยรองเท้ามาข้างนึงเพื่อเข้าเป็นพวกเดียวกับไจแอนท์ เขาไม่รู้ว่านนจังกำลังจะย้ายบ้านไปอเมริกา กว่าจะรู้ตัว บ้านของนนจังก็ไม่มีใครอยู่แล้ว โนบิตะรู้สึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสได้ขอโทษเธอ และเก็บรองเท้าแดงข้างนั้นไว้ในห้องมาตลอด (มีคนบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง \" แฟนฉัน \" ที่สุดโด่งดังเมื่อปี พ.ศ. 2546 พล็อตคล้ายๆโดราเอม่อนตอนนี้เลย) ยังไงก็นับว่าโชคดีที่โดราเอม่อนมีไทม์แมชชีน โนบิตะเลยมีโอกาสกลับไปอำลานนจังและจากกันด้วยดี โนบิตะเข้ามาอยู่ในกลุ่มไจแอนท์ ซูเนโอะ และชิซุกะ ตอนเขาอายุได้ 4 ขวบ สถานที่เล่นประจำคือกองไม้ที่อยู่แถวบ้าน คุณย่าเสียชีวิตตอนที่โนบิตะยังอยู่อนุบาล ตอนนั้นย่าป่วยหนัก คำสอนสุดท้ายของย่าที่สอนให้แก่โนบิตะคือจงทำตัวอย่างตุ๊กตาล้มลุก ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งมันก็ยังสามารถลุกขึ้นได้เสมอ... *3 ปีก่อน โนบิตะขึ้นเรียนชั้น ป.1 ตอนนั้นเขาตื่นเต้นกับการไปโรงเรียนครั้งแรกมาก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่การเรียนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายสำหรับโนบิตะไป *1 ปีก่อน เมื่อ 1 ปีก่อน ตัดต้นพลับที่บ้านทิ้ง *ปัจจุบัน ใช้ชีวิตไปตามเรื่องราว มีสาระบ้าง ไร้สาระบ้าง *อนาคต อีก 3 ปีข้างหน้า โนบิตะตอนอยู่ ม.ต้น มักกลับมาหาโนบิตะคนปัจจุบัน เพื่อเคี่ยวเข็ญให้ตั้งใจเรียน ตัวเขาในอนาคตจะได้ฉลาดๆ แต่ก็มักถูกโนบิตะตอน ม.ปลายลากกลับไป *อนาคต อีก 8 ปีข้างหน้า โนบิตะฟลุ๊คจบ ม.ปลายได้ แต่เอ็นท์ไม่ติด ลูกพลับที่ปลูกไว้ในสวนตอนปัจจุบันแทนต้นเก่า ออกลูกกินได้แล้ว โนบิตะตอน ม.ปลาย ต้องคอยไล่โนบิตะคนปัจจุบันที่นั่งไทม์แมชชีนมาขโมยกินลูกพลับ * อนาคต อีก 9 ปีข้างหน้า ปีนี้โนบิตะเข้ามหาวิทยาลัยได้ เพราะมีคนสละสิทธิ์ที่นึง * อนาคต ไม่ทราบปี โนบิตะและครอบครัวย้ายไปอยู่แมนชั่น ส่วนบ้านปัจจุบันกลายเป็นส้วมสาธารณะ ไม่แน่ใจว่าโดราเอม่อนกลับไปโลกอนาคตตอนไหน แต่โนบิตะตอนโตไม่มีโดราเอม่อนอยู่ด้วยแล้ว *อนาคต อีก 14 ปีข้างหน้า ชิซุกะไปปีนเขาเล่นสกีกับเพื่อนๆ (ชวนโนบิตะไม่ยอมไปเลยต้องไปกับเพื่อนแทน) แต่หมอกลงหนาจนพลัดหลงกับเพื่อนคนอื่นๆ โนบิตะวัย 24 ไข้ขึ้นนอนซมอยู่บนเตียง โนบิตะคนปัจจุบันจึงใช้ผ้าคลุมกาลเวลาทำให้ตัวเองโตขึ้นแล้วนั่งไทม์แมชชีนไปหาชิซุกะ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้แถมยังโชว์ความไม่เอาไหนเข้าไปอีก ชิซุกะติดต่อเรียกคนมาช่วยจนทั้งสองกลับมาได้อย่างปลอดภัย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชิซุกะตัดสินใจอยู่ดูแลโนบิตะ เพราะกลัวว่าหากตัวเองไม่คอยอยู่ช่วยดูแลแล้วโนบิตะจะเป็นอะไรไป โนบิตะปัจจุบันทนความอนาถของตัวเองไม่ได้ โดราเอม่อนเลยบอกว่า \" งั้นก็พยายามเข้มแข็งขึ้นกว่านี้ให้ได้สิ \" โนบิตะและชิซุกะ หมั้นกันในวันที่ 25 ต.ค. ในอนาคตอีก 14 ปีข้างหน้า *อนาคต อีก 15 ปีข้างหน้า โนบิตะแต่งงานกับชิซุกะที่โรงแรม Prince Melon Hotel ชั้น 38 เมื่อเขาอายุได้ 25 ปี แต่ไม่มีการระบุวันที่แต่งงานไว้ โนบิตะจำวันแต่งงานผิดไปหนึ่งวัน เลยมาถึงโรงแรมก่อนกำหนด วันนี้ไจแอนท์ ซูเนโอะ และเดคิซุงิ เพื่อนสมัยเรียนประถมนัดโนบิตะไปเลี้ยงสละโสดด้วย ขณะที่โนบิตะกำลังเฮฮา ทางด้านชิซุกะกลับคิดลังเลใจว่าจะแต่งงานดีไหม เพราะไม่อยากทิ้งพ่อไป เพราะคิดว่าตัวเองยังไม่เคยทำอะไรตอบแทนคุณพ่อเลย แต่พ่อก็บอกกับชิซุกะว่าการที่ชิซุกะเกิดเป้นลูกของพ่อกับแม่และได้มอบความทรงจำมากมายให้กับพวกเขานั่นแหละ คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด \" ของขวัญชิ้นแรกก็คือเรื่องที่หนูเกิดมาเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ ราวตีสามเห็นจะได้... เสียงร้องแรกเกิดของลูกนั้นราวกับเสียงแตรจากสวรรค์ มันเป็นเสียงอันแสนไพเราะที่พ่อกับแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เมื่อออกจากโรงพยาบาล ฟ้าทางทิศตะวันออกก็เริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่เบื้องบนยังเต็มไปด้วยหมู่ดาว เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อได้กำเนิดขึ้นในจักรวาลอันแสนยิ่งใหญ่นี้แล้ว พอคิดแบบนั้นแล้วมันก็ซึ้งใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หลังจากนั้นทุกวันก็เป็นวันที่แสนมีความสุข ความทรงจำของวันเหล่านั้นต่างหากล่ะ คือของขวัญที่วิเศษที่สุดจากลูก แม้จะเหงาแต่ความทรงจำก็จะช่วยทำให้เรารู้สึกอบอุ่น เพราะงั้นลูกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก \" และนี่คือคำพูดที่ประทับใจที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้ครับ ไม่อยากเชื่อว่ามันจะมาจากตัวละครที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวให้เห็นเพียงแค่สองครั้ง อ.ฟูจิโมโตะเองก็มีลูกสาว ผมว่าบางครั้งแกก็เขียนการ์ตูนด้วยความรู้สึกของผู้เป็นพ่อจริงๆน่ะ คุณพ่อบอกกับชิซุกะว่าเลือกคนได้ถูกแล้ว เพราะโนบิตะนั้นเป็นคนที่ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข และเศร้ากับความทุกข์ของผู้อื่น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของนุษย์ เขาเชื่อว่า โนบิตะจะทำให้ลูกสาวสุดที่รักคนนี้มีความสุขได้อย่างแน่นอน ตอนที่สุดแสนประทับใจนี้ถูกทำเป็นแอนิเมชันความยาว 27 นาที ในปี 1999 ชื่อตอน \" คืนก่อนวันแต่งงานของโนบิตะ \" ด้วย จากนั้นโนบิตะก็ย้ายไปอยู่คอนโดกับชิซุกะในปีเดียวกัน อยู่ชั้น 12 ห้อง 68[/img] *อนาคต อีก 25 ปีข้างหน้า โนบิตะมักนั่งไทม์แมชชีนมาพบตัวเองในวัย 35 (ตอนนี้โนบิซุเกะ 10 ขวบ) เพื่อดูตัวเองในอนาคตบ้าง มาบ่นเรื่องโนบิซุเกะบ้าง ฯลฯ โนบิตะตอนนี้ผ่าตัดตาทำให้สายตาปกติ ไม่ต้องใส่แว่นแล้ว เขาอยู่กับชิซุกะและโนบิซุเกะเป็นครอบครัว 3 คน พอเริ่มโตเขาก็เข้าใจหลายๆอย่างที่พ่อแม่ตัวเองทำมากขึ้น เขาเข้มงวดกับโนบิซุเกะ เพราะไม่อยากให้ขี้เกียจแล้วลำบากแบบตัวเองเมื่อก่อน *อนาคต อีก 45 ปีข้างหน้า นี่คือโนบิตะที่แก่ที่สุดเท่าที่ปรากฏตัวในการ์ตูนเรื่องนี้แล้วครับ วันนี้ลูกชายของเขา โนบิซุเกะวัย 30 ปี ได้นั่งกระสวยอวกาศไปฮันนี่มูนที่ดวงจันทร์แล้ว โนบิตะวัย 55 ปี คิดถึงวันคืนเก่าๆ จึงติดต่อโดราเอม่อนในปัจจุบัน ให้พาตัวเขากลับไปในโลกอดีต แล้วสลับร่างกับโนบิตะ เพื่อใช้ชีวิตอันแสนสนุกสนานในวัย 10 ขวบอีกครั้ง แม้จะมีอุปกรณ์วิเศษเกี่ยวกับเวลาหลายอย่าง แต่โนบิตะไม่ค่อยกล้าดูอนาคตของตัวเอง สุดท้ายแล้วอนาคตของโนบิตะก็ถูกสรุปออกมาง่ายๆผ่านคำบอกเล่าของโนบิตะวัย 55 ปีคนนี้ครับ \"นับจากนี้ไปนายจะต้องล้มลุกคลุกคลานอีกหลายหน แต่ทุกครั้งก็จะสามารถยืนหยัดขึ้นมาได้พร้อมความเข้มแข็ง\" ใช้ชีวิตเป็นตุ๊กตาล้มลุกอย่างที่คุณย่าสอนไว้จริงๆด้วย... อันที่จริง ตั้งแต่ตอนแรกของเรื่องนี้จะมีไทม์ไลน์อนาคตของโนบิตะร่ายมาถึงอนาคตที่สุดเลวร้าย ทำให้เซวาชิต้องพาโดราเอม่อนมาช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคต หากโดราเอม่อนไม่มา โนบิตะจะต้องแต่งงานกับไจโกะน้องสาวของไจแอนท์ มีลูก 6 คน อยู่แบบอดๆอยากๆ ไทม์ไลน์ทางเลือกกรณีโดราเอม่อนไม่มาช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตเป็นแบบนี้ครับ: อีก 8 ปีข้างหน้า - สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ที่บ้านต้องพาไปเลี้ยงปลอบใจ อีก 17 ปีข้างหน้า - หางานไม่ได้เลยตั้งบริษัทขึ้นเองกับพ่อ อีก 19 ปีข้างหน้า - แต่งงานกับไจโกะ อีก 22 ปีข้างหน้า - ไฟไหม้บริษัท อีก 24 ปีข้างหน้า - บริษัทล้มละลาย แต่อนาคตของโนบิตะก็เฉลยในตอน \" เจ้าสาวของโนบิตะ \" ที่พิมพ์ตั้งแต่ปี 1972 ว่าเขาจะได้แต่งงานกับชิซุกะ โนบิตะเคยคิดว่าคนไม่ได้เรื่องอย่างตัวเองคงมีอนาคตที่ดีไม่ได้แน่ๆ ว่าแล้วก็ห่วงชิซุกะคนที่ต้องเป็นเจ้าสาวของตัวเองขึ้นมา เลยกินยาที่ทำให้คนรอบข้างรังเกียจ แต่ชิซุกะก็เข้ามาช่วยพาโนบิตะไปล้วงคอเอายาออกมาได้ สรุปว่าโนบิตะไม่สามารถทำให้ชิซุกะเกลียดได้สำเร็จ ถึงจะได้แต่งงานกับชิซุกะ แต่โนบิตะก็มีเป้าหมายในอนาคตอื่นๆที่ต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำตัวให้เข้มแข็งขึ้น เพื่อไม่ให้ชิซุกะมาแต่งงานเพียงเพราะสงสาร หรือขยันมากขึ้น เพื่อไม่ให้ชีวิตดำเนินไปแบบกระท่อนกระแท่นแต่เล็กจนโต โนบิตะถูกอบรมสั่งสอนทั้งโดยโดราเอม่อน พ่อแม่ คุณย่า คุณครู เพื่อนฝูง ลูกหลาน หรือแม้แต่ตัวเองที่มาจากอนาคต คุณย่านั้นใจดี คอยปกป้องโนบิตะทุกครั้ง และทำตามที่โนบิตะขอทุกอย่าง แม้จะดูสปอยล์เด็กไปนิด แต่เวลาที่คุณย่าสอนโนบิตะก็ตั้งใจทำตามอย่างถึงที่สุด เพราะคุณย่าอยู่กับครอบครัวไม่นาน เมื่อมีโอกาสได้นั่งไทม์แมชชีนไปหาโนบิตะจะคิดว่าเขาต้องทำเพื่อหญิงชราที่แสนดีคนนี้เพื่อตอบแทนสิ่งที่คุณย่าเคยทำให้ในวัยเด็ก คุณพ่อนั้นเรียนไม่เก่ง ซุ่มซ่าม และโลเล คล้ายโนบิตะในหลายๆด้าน แต่เขาคือเด็กในยุคสงครามโลกที่ผ่านประสบการณ์อันโชกโชนมา (เช่นเดียวกับผู้แต่งเรื่องนี้และนักเขียนการ์ตูนยุค 60s-70s หลายๆท่าน) ชีวิตของพ่อมีทั้งประสบการณ์เกือบฆ่าตัวตาย การฝึกฝนกับคุณปู่สุดโหด การตัดสินใจทางเลือกชีวิต ความฝันวัยเด็กที่ต้องการเป็นศิลปิน ฯลฯ ทำให้เขามีเรื่องมาเล่ามาสอนลูกหลานมากมาย คำสอนของพ่อมักจะยาวและน่าเบื่อ แต่พ่อก็เคยสั่งสอนเรื่องความยากลำบาก ยาวสองหน้ารวด จนโนบิตะไฟลุกโชติช่วงตัวสั่นด้วยความตื้นตันในคำสอนมาแล้ว คุณแม่เป็นคนที่สั่งสอนโนบิตะบ่อยและดุเดือดมากที่สุด ถึงภาพลักษณ์จะโหดเหมือนนางยักษ์และมีบ้างที่ดุด่าเพราะอารมณ์ไม่ดี แต่ก็เป็นเหตุสำคัญให้หลายครั้งโนบิตะไม่ทำเรื่องไม่ดีเพราะกลัวแม่ดุ แม่เลี้ยงดูโนบิตะวัยทารกอย่างทะนุถนอม แต่ต้องกลายเป็นคนเข้มงวดมากขึ้นหลังจากโนบิตะโตขึ้นแล้วมีพัฒนาการที่แย่ลงเรื่อยๆ การดูแลบ้านและสมาชิกครอบครัวเป็นหน้าที่สำคัญของผู้เป็นแม่ และโนบิ ทามาโกะ ก็ทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ เธอเคยวิ่งตากฝนกลับจากบ้านเกิดเพราะห่วงว่าที่บ้านจะไม่มีข้าวเย็นกิน ตอนที่โนบิตะใช้ของวิเศษเพื่อย้อนวิญญาณตัวเองกลับไปตอนเป็นเด็ก แม่เฝ้าโนบิตะที่อยู่ๆก็นิ่งไปจนล้มป่วยลงซะเอง ตอนที่ถูกปืนทำให้รู้สึกนานยิง หลังจากโนบิตะหายตัวไป 3 ชม. (แม่จะรู้สึกเหมือนนาน 18 ชม.) แม่ถึงกับอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่าให้ลูกชายเป็นอะไรไป ต่อเนื่องจากตอน \" 45 ปีข้างหน้า \" ที่เล่าไว้ด้านบน โนบิตะตอนแก่ได้กลับมาอดีตเพื่อหวนระลึกความทรงจำในวัยเด็กอีกครั้ง เขาได้พบทั้งไจแอนท์ ซูเนโอะ ชิซุกะ แม่และพ่อ สิ่งที่เคยเป็นความจำเจอันแสนน่าเบื่อในปัจจุบันได้กลายเป็นความทรงจำสุดล้ำค่าในอนาคต โนบิตะวัย 55 คนนี้ถึงกับน้ำตาไหลเมื่อได้กลับมาพบแม่ของเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าในอนาคตอีก 45 ปีข้างหน้านั้นพ่อแม่ของโนบิตะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า แม้ตอนเด็กๆจะไม่ค่อยพอใจที่ถูกดุด่าว่ากล่าว แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาแล้วโนบิตะก็รู้ดีว่าที่เขามีทุกวันนี้ได้เป็นเพราะคำสั่งสอนของผู้มีพระคุณเหล่านี้ เขาจึงยินดีอย่างที่สุดที่ตอนนั้นคุณแม่สุดเฮี้ยบผู้นี้ได้สั่งสอนเขา \" คุณแม่ยังสาวอยู่เลย \" \" ช่วยดุผมอีกเถอะครับ! \" เดี๋ยววันที่ 3 กันยายน 2012 จะมีเหตุการณ์ครบรอบสำคัญสุดๆของโดราเอม่อนครับ นึกกันออกหรือเปล่าเอ่ย? ใช่แล้ว! ตามที่เรารู้กันว่าตามเนื้อเรื่องโดราเอม่อนจะถูกสร้างขึ้นมาในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (หรือ 12.9.3 ซึ่งเลข 12-9-3 นี้ก็เป็นเลขประจำตัวของโดราเอม่อนด้วย - สูง 129.3 ซ.ม., หนัก 129.3 กก., รอบอก 129.3 ซ.ม., กำลัง 129.3 แรงม้า, ความเร็วเมื่อเจอหนู 129.3 กม./ชม. ฯลฯ) ดังนั้นในวันที่ 3/9/12 นี้ จึงเป็นวันครบรอบวันเกิดโดราเอม่อน \" ติดลบ 100 ปี \" ครับ! ทางญี่ปุ่นก็นับถอยหลังวันสร้างโดราเอม่อน และเตรียมจัดอีเวนต์ไว้แล้ว ส่วนผมจะขอฉลองวันสำคัญดังกล่าวด้วยกระทู้โดราเอม่อนอีกสักกระทู้ครับ ไว้เดือนหน้าเจอกัน |