ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง The Amazing Spider-Man (2012) กับ Spider-Man: Edge of Time (2011) ที่ลงให้กับ 3ds ด้วยกันทั้งคู่ เท่าที่ผมอ่านรีวิวต่างประเทศหลายสำนักให้คะแนน The Amazing Spider-Man สูงกว่าภาคเดิม Spider-Man: Edge of Time แทบทั้งนั้น อย่างไรก็ตามแม้ผมจะมีโอกาสได้เล่นเดโม่ของ The Amazing Spider-Man มาก่อน และรู้สึกประทับใจในเกมเพลย์ของมัน แต่ผมก็ไม่มีความคิดจะซื้อเกมนี้มาเล่นเลย ให้ตายเหอะ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างที่รู้กันว่าชาว 3ds โซน us และโซน asia มีเกมที่น่าสนใจเกมหนึ่งนั่นคือไฟนอลแฟนตาซี (โซน jp ออกนานแล้ว) เพราะงั้นผมจึงหาโอกาสไปเดินสะพานเหล็กเพื่อหาเกมดังมาเสพดู น่าเสียดายที่ตลาดเกมในสัปดาห์ที่ผ่านมาสินค้ายังไม่เข้ามา ผมก็เลยไม่มีเกมอะไรจะมารีวิวให้เพื่อนๆเลยครับ หลังจากเดินวนในสะพานเหล็กอยู่หลายรอบก็ได้มาพบกับ The Amazing Spider-Man ในรูปแบบของกล่องมันเงา (แต่ไม่มีปก 3D นะ) ประกอบกับร้านเฮียตี๋ (สะพาน 3) บอกราคาผมมาที่ 1100 บ. โดยที่ผมไม่ต้องต่อรอง ก็เลยเอาว่ะ ลองเอามาเล่นเพลินๆช่วงที่แฮนด์เฮลด์ขาดแคลนเกม (ผมซื้อเกมนี้มาพร้อมกับ MJ ของวีต้า เพราะอีกฝั่งก็ไม่มีเกมเล่นเช่นกัน) น่าเสียดายที่ผมยังไม่ได้ดูหนัง The Amazing Spider-Man เนื่องจากงานสอนพิเศษยุ่งมาก ผมก็เลยไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องของเกมมันจะสปอยหรือไม่ เพราะงั้นจึงขอไม่เล่าเนื้อเรื่องเกมก็แล้วกันนะครับ (กลัวว่ามันจะสปอยเนื้อเรื่องในหนัง) อย่างที่ผมออกตัวไว้ก่อนว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ The Amazing Spider-Man มาเลย เพราะงั้นความคาดหวังต่างๆในเกมจึงไม่มี อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอ (และอาจจะคิดไปเอง) ว่าเกมแนวยอดมนุษย์ฮีโร่ที่นำมาลง 3ds มันเป็นแพลตฟอร์มห่วยๆ มันกาก ดูไม่ค่อยน่าเล่น เพราะงั้นเกมแนวนี้ผมจึงหลีกเลี่ยงไม่เคยซื้อมาเลย (ผมมีเกม 3ds ราวๆ 60 กว่าเกม แต่ผมเพิ่งจะมีแนวนี้เป็นเกมแรก) เพราะไม่ได้คาดหวังก็ลองเล่นดูเพลินๆ อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นยังไง ? ทันทีที่เปิดเกม The Amazing Spider-Man ผมก็แปลกใจที่ภาพที่แสดงไม่เป็น 3d ทั้ง Marvel , columbia picture , activision แถมยังมีมูฟวี่เหมือนสารคดีโฆษณาของ oscorp อีก แรกๆผมก็งงว่ามันจะโฆษณาทำไม พอเล่นเกมถึงได้รู้ว่า oscorp เป็นบริษัทสมมติในหนัง The Amazing Spider-Man ตรงนี้ก็นับว่าไอเดียดีเลยครับ ถือเป็นเซอร์ไพร์ซเล็กๆสำหรับผมที่ไม่ได้ดูหนังมาก่อน เมื่อเข้าสู้ตัวเกมภาพก็กลับมาเป็นแบบสามมิติเหมือนเกมอื่นๆ มีเซฟให้เลือกเล่นได้ 3 ไฟล์ สามารถก็อปเซฟและลบเซฟได้ มีความยากให้เลือกเล่น 3 ระดับ ในหน้าเมนูจะมีหัวข้อให้เลือก 4 หัวข้อ คือ Start Game (เกมหลัก) , Setting (ตั้งค่า) , Extras (ปลดล็อคแต่ละอันเมื่อเล่นเกมผ่าน) และ Vigilante (มินิเกม สามารถใช้เหรียญสตรีทพาสเล่นได้) เนื้อเรื่องในเกมเริ่มต้นที่ Peter Parker (ตัวเอก Spider-Man) แอบเข้ามาเยี่ยมชมห้องแลป oscorp ในเกมเป็นมูฟวี่ 3D ที่สามารถหันหน้าไปมาได้ จุดนี้นับเป็นครั้งแรกที่ผมเจอลูกเล่นแบบนี้ใน 3ds (ปกติจะพบได้ทั่วไปในเกมแนว FPS ของคอนโซล) ถ้าถามว่ากราฟฟิคมันเป็นอย่างไรก็ตอบได้เลยว่าสวยเวลาดูแบบ 3D แต่ก็เป็นภาพแบบธรรมดามากๆในแง่ของคุณภาพกราฟฟิค หลังจากเกริ่นนำอยู่นานพอควร จากนั้นผู้เล่นก็จะได้บู๊กับศัตรู สลับกับการแก้พัซเซิล (ง่ายๆ) เพื่อหาทางไปต่อในด่านต่อไป จุดที่ต้องชมเชยก็คือรายละเอียดในการต่อสู้ การกดปุ่มคอมโบควบคู่ไปกับการทัชสกรีน ซึ่งมีลูกเล่นการโจมตีที่ดีจนน่าทึ่ง (ผมไม่คิดว่าจะได้พบเจอในแนวเกมประเภทนี้) ระบบเกมยังสามารถนำไอเทมที่เก็บได้มาพัฒนาพลังให้กับ Spider-Man ได้ มีการใช้สตรีทพาสเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงลูกเล่นกล้องถ่ายรูป (ในเกม) ที่นำมาใช้เพื่อผ่านปริศนา เป็นเกมที่บู๊แอคชั่นเพื่อหาทางผ่านไปที่ต่างๆครับ อย่างไรก็ตามจุดเสียก็คงจะเป็นมุมมองแบบ Spider-Man นี่ละครับทีบางครั้งผาดโผนจนพาลมึนงง The Amazing Spider-Man เป็นเกมที่ผมเล่นมันรวดเดียวจนจบ (โดยพยายามเลี้ยงแบตให้พอ แบตหมดผมก็ปิดฝาสลีปโหมดชาร์จ สักพักก็เล่นต่อหรือสลับไปเล่นวีต้าแทนเพื่อรอแบตเต็ม) ใช้เวลาเล่นยามค่ำคืนวันหยุดได้สบายๆ ผมว่าเกมนี้มันเหมาะกับเด็กโตถึงผู้ใหญ่วัยทำงานนะ ถ้าต้องการเกมเพลย์ที่ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มทั่วไป ตัวเกมไม่ยากจนเกินไป ก็จัด The Amazing Spider-Man มาลองได้เลยครับ (หรือจะลองจากเดโม่ดูก่อนก็ได้ครับ) รีวิวโดย limp2551

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ครูลิ้มมีเกม 3ds 60 เกมแล้วหรือเนี่ย เยอะมากๆ ขอยกให้เป็นเจ้าพ่อสามมิติของบอร์ดเราเลย อิอิ เพิ่มพลัง