เดือนพฤษภาคม 2555 นี้ น่าจะเป็นอีกเดือนที่วีต้าขาดแคลนเกมให้เลือกอย่างสุดๆ เท่าที่ดูรายชื่อเกมที่น่าสนใจในช่วงต้นเดือนนี้ ก็คงมีแค่เกม Mortal Kombat เกมเดียวเท่านั้น เอาน่ะ อย่างน้อยมันก็เป็นเกมที่ดีเกมหนึ่งแม้จะเป็นเกมเก่าที่พอร์ตมาจาก ps3 ก็ตาม (Mortal Kombat 9 ปี 2011) แต่ด้วยเฟรมเรตที่ระดับ 60 FPS พร้อมทั้งมีตัวละครจาก dlc ให้ครบไม่ต้องโหลดเพิ่ม และมี kratos จากซีรีย์ก็อดออฟวอร์ให้ใช้ด้วย (ตัวละครเริ่มต้น 32 ตัว) สำหรับท่านที่ไม่เคยเล่น Mortal Kombat มาก่อน ผมก็ขอเล่าความเป็นมาสักหน่อยนะครับ เดิมทีเกม Mortal Kombat ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1992 ในแบบเกมต่อสู้อาเขต เน้นภาพที่สมจริงและฉากต่อสู้ที่รุนแรง แต่เกมเมอร์ชาวไทยมาเริ่มรู้จักในช่วง Mortal Kombat 2 (1993) เพราะสามารถเล่นบนเครื่อง SNES (เครื่องซุปเปอร์แฟมิคอมโซน us) และภายหลังสามารถใช้หัวโปรเล่นก็อปได้ ทำให้เกมเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้รับความนิยมในเมืองไทย (ตลาดเกมต่อสู้นิยม สตรีทไฟเตอร์ 2) หลังจากนั้น Mortal Kombat ก็ล้มลุกคลุกคลานลองผิดลองถูกมาอยู่นาน จนกระทั้ง Mortal Kombat 9 (2011) ที่ดูเหมือนจะเดินมาถูกทางมากๆแล้ว เพราะตัวเกมได้รับความนิยมพอสมควร แถมคะแนนรีวิวจากสำนักต่างๆก็ออกมาดีเสียด้วย ในเวอร์ชั่นวีต้า (2012) นอกจากมีตัวละครเริ่มต้น 32 ตัวแล้ว โหมดต่างๆก็มีการเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้ลูกเล่นทัชสกรีน (ทัชหน้าจอ) และมีการใช้จับความเคลื่อนไหว (เอียงเครื่อง) แต่ลูกเล่นอย่างทัชแพดถูกตัดทิ้งไป (ทัชหลังเครื่อง) โดยมีโหมดหลักอยู่ 8 โหมดคือ Fight เป็นโหมดต่อสู้และมินิเกม โดยมีโหมดย่อยคือ Ladder เป็นโหมดต่อสู้แบบสตรีทไฟเตอร์ , Tag Ladder เป็นโหมดต่อสู้แบบแทคทีม ใช้อนาล็อคขวาเพื่อเปลี่ยนตัว ส่วนโหมดที่เหลือเหมือนมินิเกมให้เล่นเพลินๆ เช่น Test your Balance (เองเครื่อง) , Test your Slice (ทัชจอเหมือนเกมฟรุทนินจาในสมาร์ทโฟน) , Test your Luck (สล็อตแมชชีนแล้วเอาผลที่ได้มากำหนดความได้เปรียบเสียเปรียบ) , Test your Might (รัวปุ่มซอยยิก) , Test your Sight (มองดีๆ แล้วหาให้เจอ) , Test your Strike (รัวปุ่มซอยยิกอีกที) Story Mode โหมดที่น่าเล่นที่สุดของเกม ควรเล่นโหมดนี้ก่อนเพราะจะได้ดูอนิเมชั่นแบบ HD ได้รู้เรื่องราวของตัวละครในภาคนี้ แถมยังได้ลองใช้ตัวละครต่างๆตามที่เกมกำหนด ข้อเสียของโหมดนี้คือไม่สามารถกดข้ามเื้นื้อเรื่องได้ Challenge Tower โหมดที่เป็นจุดขายของวีต้าเลยล่ะครับ มีมิชชั่นให้ปลดล็อคกว่า 150 เงื่อนไข ใครอยากรู้ว่าถ้า Mortal Kombat ไม่สู้กันเลือดสาด แล้วมันจะทำอย่างอื่นได้ไหม ต้องลองเล่นดูครับ (ถ้าไม่เล่นโหมดนี้จะปลดล็อคบางโหมดไม่ได้นะ) Bonus Challenge Tower โหมดต่อสู้ที่มีเงื่อนไขการผ่านต่างๆนานา คล้ายๆโหมด Challenge Tower Training โหมดนี้สำหรับมือใหม่เลยครับ ใครที่ไม่ถนัดแนวเกมต่อสู้ ควรเข้ามาเรียนรู้ระบบก่อนเล่นจริง สามารถให้เกมมันสอนเล่น หรือสอนใช้ท่าโหดๆอย่าง Fatality ก็ได้ครับ (Tutorial , Fatality Tutorial) หรืออยากจะฝึกสู้แบบเดี่ยวหรือแบบแทคทีมก็ทำได้เช่นกัน (Practice , Tag Team Practice) Versus โหมดต่อสู้กับเพื่อนทั้งแบบออนไลน์ (wifi) และแบบโลคอล (adhoc) เลือกได้ว่าจะสู้แบบคนเดียว หรือสู้แบบแทคทีม Extras ดูแกลลอรี่ ฟังเพลง เครดิตผู้ทำ ฯลฯ Options ปรับแต่งปุ่มและค่าต่างๆในเกม ถ้าให้วิจารณ์ระบบการเล่นของ Mortal Kombat ผมคิดว่ามันใกล้เคียงกับ Street Fighter มากๆ แต่ใช้ปุ่มน้อยกว่า (ต่อย 2 ปุ่ม เตะ 2 ปุ่ม ปุ่ม L ใช้ทุ่ม ปุ่ม R ใช้ป้องกัน กด L R พร้อมกันเพื่อเพิ่มพลังท่า ถ้าเต็มจะใช้ท่า x-ray) กดปุ่มได้ง่ายกว่าเพราะไม่ต้องควงอนาล็อค (แต่บางท่าก็กดยาก here เพราะต้องกดอนาล็อคขวาพร้อมกดปุ่ม สามเหลี่ยม สี่เหลียม วงกลม กากบาท c แบบเร็วๆ) ถ้าเทียบกับ Dead or Alive การกดปุ่มซ้ำเดิมๆแล้วกลายเป็นคอมโบสวยๆจะคล้ายกัน แต่ต่างกันตรงสาวๆใน Dead or Alive ชวนชมดีแท้ (สาวพริตตี้) ผิดกับสาวๆใน Mortal Kombat ที่แม้จะใส่ชุดเว้าเพียงใดก็ไม่น่าดูเลยจริงๆ (สาวอั๊คลี่) ถ้าเทียบกับ BlazBlue จังหวะการกดปุ่มคอมโบของ BlazBlue จะเร็วกว่า แต่ตีมของเกมเรียกได้ว่าต่างกันสุดขั้ว ฝ่ายหนึ่งเป็นอนิเมะเจแปนจ๋า ส่วน Mortal Kombat เป็นโหดดิบเถื่อน ดีไซน์แนวฝรั่งจ๋า นั่นเอง อย่างไรก็ตามแม้เกมนี้จะทำออกมาได้ดีมากเกมหนึ่ง (ไม่นับข้อเสียที่ซ้ำกับคอนโซล) แต่ท่ารุ่นแรงต่างๆมันก็ดูเหมือนจะไม่สมจริงเช่น ท่า x-ray กระดูกหักกันเห็นๆ แต่ก็ยังลุกขึ้นมาสู้ต่อได้สบาย รวมถึงการเข้าโหมดต่างๆและการเริ่มการต่อสู้ทุกครั้งจะต้องรอโหลด ถ้าทำเป็นลืมๆข้อเสียพวกนี้แล้วเสพความสนุกของเกมต่อสู้ โดยรวมเกมนี้มันก็โอเคล่ะครับ (ส่วนโซน us ก็ไม่มีกระดาษใดๆให้นอกจากแผ่นเกม 1 แผ่น ถ้ามองเกมใหม่ที่ออกมาช่วงนี้ ดูเหมือนเกมวีต้าจะเป็นแบบนี้ทุกเกมแล้วนะ) ปล.ผมเห็นเฮียโล้น kratos แล้วโคตรอยากเล่นก็อดออฟวอร์ของวีต้ามากๆเลยครับ หวังว่าโซนี่คงไม่ทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกรอคอยกันนานนักนะ รีวิวโดย limp2551 (ใครมี vita ก็แอดผมได้นะครับ ^^)