Resident Evil Operation Raccoon City มาให้ได้เล่นกันซะทีกับ Resident Evil ฉบับยิงแหลก จากหลาย ๆ เสียงที่ได้ลองสำผัสกับเกมส์นี้ไปค่อนข้างจะได้รับคำชมไปทางลบซะส่วนใหญ่ ส่วนตัวก็สอยมาครอบครองเป็นที่เรียบร้อยหลังจากได้เล่นไปพอสมควร ก็จะมาบ่นให้เพื่อน ๆ ฟังหน่อยว่าตัวเกมส์มันเป็นเหมือนกับกระแสตอบรับที่ออกมาจริงหรือเปล่า ว่าแล้วก็เปิดกล่องกันเลยดีกว่า ปกหน้า – ปกหลัง ได้มาปุ๊ปเห็นปกเป็น Biohazard Operation Raccoon City ตกใจเหมือนกันว่าเค้าส่งแผ่นเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นมาให้หรือเปล่าเนี่ย รายละเอียดคร่าว ๆ ของตัวเกมส์ที่ระบุบนกล่องส่วนใหญ่จะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่พอดูตรงมุมซ้ายของกล่องมีระบุไว้ว่า English Version เอ๊อ ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะต้องมานั่งฟังภาษาญี่ปุ่นซะละ เปิดกล่อง แกะซีสออกเปิดออกมาดู ภายในกล่องจะมีแผ่นเกมส์ คู่มือ โค๊ดดาวน์โหลดที่แถมมาให้ อืมปกเป็น Biohazard Operation Raccoon City แต่ทั้งคู่มือ แผ่นเกมส์และโค๊ดดาวน์โหลดระบุชื่อชัดเจนเลยว่าเป็น Resident Evil Operation Raccoon City ( เข้าใจเอาเองว่าแผ่นโซนเอเชีย Ver. English จะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมด ) คู่มือก็จะแนะนำผู้เล่นในส่วนของวิธีเล่นกับโหมดต่าง ๆ รวมถึงเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเป็นกระสัย ส่วนโค๊ดดาวน์โหลดที่แถมมา เป็นสีของชุดตัวละครที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้แค่ตัวละ 1 สี ( ไม่ค่อยมีประโยชน์เลยเนอะ ) ชมรายละเอียดภายในกล่องเกมส์เรียบร้อยทีนี้ก็มาว่ากันถึงตัวเกมส์มั่งล่ะ Gameplay Resident Evil Operation Raccoon City โดยรวมภาคนี้ต่างจาก Resident Evil ที่ออกมาก่อนหน้านั้นโดยสิ้นเชิงทีเดียว ตัวเกมส์เน้นการเล่นแบบ Co-op เป็นหลักเลย ไม่ต้องอะไรมากลุย ยิงแหลกมันอย่างเดียวเลย ศัตรูก็จะมีทั้งบรรดาเหล่าซอมบี้และทหารฝ่ายตรงข้าม ตัวเกมส์จะระบุจุดหมายที่เราต้องไปถึงแต่ละจุดในแผนที่เมื่อไปถึงก็จะมีเป้าหมายต่อไประบุขึ้นมาต่อเป็นแบบนี้ตลอดเกมส์การเล่นจนกว่าจะจบฉากและจบเกมส์ในที่สุด ตลอดเกมส์การเล่นจะมีการติดเชื้อด้วยหากโดยซอมบี้โจมตีหากรักษาไม่ทันตัวผู้เล่นก็จะกลายเป็นซอมบี้ทันที หากไม่มียารักษาอาการเราสามารถยิงเพื่อนที่ติดเชื้อทิ้งก่อนได้แล้วค่อยชุปชีวิตใหม่ได้ ปริศนาต่าง ๆ ก็ไม่ต้องไปถามหามันละยิงมันลูกเดียว ซึ่งบอกตรง ๆ เกมส์นี้หากลุยคนเดียวเพียว ๆ จะไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ( ตายปุ๊บ Gameover ทันที ) แต่ถ้าหากเล่นแบบ Co-op ถ้าเราตายเราสามารถรอเพื่อน ๆ มาชุบชีวิตแล้วลุยต่อได้ การเล่นแบบ Co-op สามารถเล่นได้พร้อมกันสูงสุด 4 คน และถ้าตายหมดทั้งกลุ่มถึงจะ Gameover นะจ๊ะ ส่วนประตูที่จะเปิดต่อไปในพื้นที่ใหม่ต้องรอจำนวนสมาชิกมากันครบก่อนถึงจะเปิดประตูได้ หลังจากจบแต่ละฉากก็จะมีการสรุปคะแนนออกมาเป็นระดับ Rank ต่าง ๆ ถ้าได้ Rank ดี ๆ เราก็จะได้ค่า XP ที่สูงขึ้น ซึ่งเราจะใช้ค่า XP นี่แหละไปปลดล็อคสกิลความสามารถของแต่ละตัวรวมถึงปลดล็อคปืนใหม่ ๆ ที่ดีขึ้น ( มั้ง ) มาลุยให้สนุกยิ่งขึ้น ( รึเปล่าหว่า) โหมดการเล่นจะมีอยู่ 2 โหมดด้วยกัน คือ Campaign กับ Versus 1.Campaign ก็คือโหมดเนื้อเรื่องหลักที่เราต้องทำภารกิจต่าง ๆ ที่เกมส์ระบุเอาไว้ ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรมาก ลุยแล้วก็ยิง ไปให้ถึงจุดหมายแล้วก็ผ่านฉากต่อไป 2.Versus เป็นโหมดเล่นแบบ Online จะมีโหมดย่อยอยู่อีก 4 โหมดคือ Team Attack , Biohazard , Heroes และ Survivor ซึ่งแต่ละโหมดเงื่อนไขการเล่นก็จะคล้าย ๆ กันคือ ยิงแหลก ทำลายฝ่ายตรงข้าม แย่งชิง G-virus และเอาชีวิตรอดให้นานที่สุด อีกโหมดนึงต้องซื้อเป็น DLC เอาคือโหมด Nemesis ราคาอยู่ที่ 320 point โหมดนี้ก็แย่งกันควบคุมเจ้า Nemesis เพื่อให้มันไปทำลายฝ่ายตรงข้าม โหมดนี้พอเข้าท่าขึ้นมาหน่อย ( มิน่าดอดแยกเอาไปขายเป็น DLC ) เมื่อจบฉากก็จะมีการสรุปคะแนนเหมือนกับโหมด Campaign เพื่อเอาค่า XP ที่ได้ไปแลกปืนกับสกิลของแต่ละตัว การควบคุมต่าง ๆ ภาคนี้การควบคุมจะคล้าย ๆ กับเกมส์ยิงทั่ว ๆ ไป แต่การควบคุมบางอย่างกลับทำมาได้อย่างขัดอารมณ์ทีเดียวโดยเฉพาะการหลบเข้าที่กำบังที่ไม่มีปุ่มเฉพาะให้กดเหมือนเกมส์อื่น ๆ แต่จะให้เราวิ่งเข้าจุดกำบังเพื่อกำบังเอง และหลายครั้งที่ตัวละครไม่ยอมหลบจนต้องตกเป็นเป้าให้ฝ่ายตรงข้ามสอยร่วงอยู่เป็นประจำ ( เฮ้อ ) การวิ่งทำโดยกดแกนอนาล็อคซ้ายลงไปแล้วดันปุ่มทิศทางไปด้านหน้า ก็ดูขัด ๆ ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก กราฟฟิคภายในเกมส์ ทำออกมาไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ตัวเกมส์เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ค่อยดีนัก มีเหลี่ยมมีบั๊กให้เห็นเยอะมาก จุดสังเกตต่าง ๆ ที่ระบุในเกมส์บางจุดมองแทบไม่ออกเลยว่าให้ไปทางไหน บางทีก็อาศัยเดาสุ่ม ๆ เอา ตัวละครออกแบบมาแบบง่าย ๆ ไม่ค่อยพิถีพิถันอะไรมาก จะว่าไปภาคเก่า ๆ บางภาคยังทำกราฟฟิคออกมาได้ดีกว่านี้เยอะเลยนะ ดนตรีและเสียงประกอบ ดนตรีประกอบทำออกมาได้ค่อนข้าง OK อยู่ให้อารมณ์ร่วมกับเกมส์เพลที่ดูขัด ๆ ให้พอได้ลุ้นขึ้นมาหน่อย ส่วนเอฟเฟคต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้พอกล่อมแกล้มไม่ถึงกับดีมาก ข้อดีอีกอย่างตัวเกมส์เลือกได้หลายภาษานะ แต่อย่างเรา ๆ ท่าน ๆ คงเลือกภาษา English ในการเล่นอยู่แล้วล่ะ จุดเด่นของตัวเกมส์ 1.เป็นเกมส์ที่เน้นการเล่น Co-op ที่สนุกในระดับนึง 2.ดนตรีประกอบใช้ได้ จุดด้อยของตัวเกมส์ 1.Gameplay ไม่ค่อยไหลลื่น การบังคับค่อนข้างจะขัดใจผู้เล่นเอามาก ๆ 2.เล่นโหมด Versus แล้วเกมส์ค้างบ่อย 3.กราฟฟิคดูธรรมดาเกินไป สรุป เกมส์นี้จะเน้นในการเล่น Co-op Online เป็นหลักหากเพื่อน ๆ จะลองหามาไว้ดูก็ถือว่า Ok พอใช้ได้ถึงจะทำออกมาไม่ดีเท่าเกมส์อื่น ๆ ในชื่อระดับบิ๊กเนมเหมือนกัน ก็ถือซะว่าเอามาเล่นพอเพลิน ๆ ละกัน ( พยามทำให้เพลินนะ ) จะได้ไม่ต้องเสียยี่ห้อ Resident Evil เพื่อน ๆ บางคนอาจจะเล่นแล้วสนุกก็ได้นะแต่เราเฉย ๆ อ่ะรอลุ้น Resident Evil 6 อีกทีละกัน ทิ้งท้ายก่อนจาก หากเพื่อน ๆ ต้องการปืนดี ๆ คงต้องซื้อเป็น DLC แพ๊คอาวุธปืนเอาล่ะนะ บอกตรง ๆ ปืนที่เอาค่า XP ไปแลกมานี่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้มากเท่าไหร่ ยิ่งถ้าโหมด Versus ต่อให้เพื่อน ๆ เลเวลสูง ๆ แต่มีแค่ปืนกลต๊อกต๋อย เจอผู้เล่นระดับเลเวลต่ำ ๆ แต่มีปืนแรง ๆ ซัดใส่ทีสองทีก็จอดละเน๊ออออ....เฮ้อเวงจริง ๆ ( ของดี ๆ เอาไปขายเป็น DLC ซะงั้น เฮ้อ..) คะแนนโดยรวมที่ให้ 4.5/10 รีวิวโดย : jaae

ผิดคาดมากกับภาคนี้

อย่างที่เจ๊เอ๋ และใครหลายๆคน รวมทั้งผมเอง คิดตรงกันว่า การก้มหลับเข้าที่กำบังของเกมนี้ทำมาได้แย่มาก คือเราต้องแถไปชนสิ่งต้องการจะก้มหลบ บางทีมันไม่ก้ม ก็ยืนแถมันอยู่แบบนั้นแหละ เล่นคนเดียวละเหี่ยใจมากครับ เพิ่มพลัง

ต๊ายแล้ว ขนาดเจ้าแม่ RE ยังกดคะแนนซะเกือบเลียดพื้น รีวิวได้ถึงจริงๆสมกับเป็นเจ้าแม่ RE เลยนะคับ ปล.แอบเห็นลายผ้าปูที่นอนเหมือนๆกันเลยนะกั๊บ

ผมก็กำลังจะรีวิว หลังจากเล่นจบไปแล้วรู้สึกว่า มันเหมือนเกมทหารยิงๆ มากกว่าตัวละครหลักก็หน้าแปลกๆ เดี๋ยวจะรีวิว (แบบระบาย)

เน้นขาย DLC ตัวละครไม่น่าประทับใจ กราฟฟิคงั้นๆ ตัวเกมส์สั้นมาก เพราะเน้นออนไลน์ ผิดหวังมากๆกับภาคนี้ ถือว่าเเก้ขัดระหว่างรอ re6 ละกันครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ เรื่องที่ผมไม่ชอบคือ มันเน้นขาย DLC เป็นหลัก ไม่ชื้อ DLC เเล้วเล่นกากยิ่งไม่อยากชื้อเข้าไปใหญ่จะรอดูภาค 6 ละกัน ปล.จัดของ XBOX360 มาซะละอดยิงกันเลย

มันมีเล่นสองคนแบบแบ่งจอไหมครับอยากรู้มากมาย ขอบคุณล่วงหน้า