วิธีดูกราฟราคาเทรดเบื้องต้นนะครับ กราฟบนคือราคาหุ้น ส่วนกราฟล่างจะเป็นปริมาณการซื้อขายครับ อย่างไรก็ตามนักลงทุนคงไม่ได้มองแต่ด้านราคาเพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณางบการเงินย้อนหลัง และผลกำไรขาดทุน รวมถึงสิทธิต่างๆเช่นการปันผล การแจกหุ้นเพิ่ม ฯลฯ ซึ่งผมคงไม่ไปยุ่งตรงส่วนนั้นครับ โดยปกติถ้าหุ้นดี ราคาก็น่าจะสูงตามคุณค่าที่มันควรจะเป็น ในกราฟแรกนี้จะเห็นได้ว่าภาพรวมของหุ้นนินเทนโด้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของมันในช่วงที่เครื่อง DS และ Wii ออกวางจำหน่าย ส่วนเครื่องเกมที่หลายคนมองว่ามันล้มเหลวทั้งนินเทนโด้ 64 และเกมคิ้วบ์ แต่ถ้าดูราคาหุ้นในช่วงเวลานั้น มันก็ไม่ได้อยู่ในจุดต่ำสุดนะครับ กราฟที่สองจะเป็นกราฟหุ้นที่ย้อนหลัง 5 ปี ถ้ามองว่างาน E3 2009 ที่นินเทนโด้พูดถึงอุปกรณ์เสริมเครื่อง wii (เครื่องวัดชีพจร) E3 2010 ที่เปิดตัว 3DS (เครื่องเกมจอสามมิติ) และ E3 2011 เปิดตัว Wii 2 (ชื่อทางการคือวียู) จะเห็นว่าเครื่องต่างๆเหล่านี้ทำได้แค่การคาดการณ์ว่าอาจจะได้รับความนิยม แต่เมื่อสินค้ายังไม่ได้ออกจำหน่ายจนติดตลาด ประกอบกับเครื่อง DS และ Wii เริ่มเข้าสู่จุดอิ่มตัว ทำให้กราฟหุ้นไม่ดึงดูดนักลงทุนเหมือนปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนินเทนโด้ได้กระตุ้นยอดขายด้วยการลดราคาเครื่อง wii พร้อมแถมพวงมาลัยมาริโอ้คาร์ท และออกเครื่อง DSXL (รุ่นสุดท้ายของ DS มีขนาดจอที่ใหญ่มาก 2 จอ) มาทิ้งทวนก่อนเข้าสู่ยุคใหม่ กราฟที่สามเป็นกราฟย้อนหลัง 6 เดือนที่ผ่านมา ในมุมมองของนักลงทุน บริษัทจะต้องแจ้งผลประกอบการต่างๆในช่วง Q1 และ Q2 ให้นักลงทุนทราบ ซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้บริษัทส่วนมากมีราคาหุ้นตกต่ำลงก็เพราะภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา จากกราฟถ้าสังเกตให้ดีความเชื่อมั่นในช่วง Q2 หายไปมาก ทั้งๆที่มีงาน E3 2011 หมายเหตุ ตัวอักษร Q1 และ Q2 หมายถึงช่วงเวลาของแต่ละปี โดยหนึ่งปีแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลา คือ Q1 - Q4 เพราะงั้นอาจมองว่ามันคือทุกๆช่วงเวลา 3 เดือนก็ได้ครับ กราฟสุดท้ายเป็นช่วงเวลาหลังจากที่นินเทนโด้ประกาศว่าจะลดราคาเครื่อง 3DS กรณีนี้ไม่เหมือนการลดราคาเครื่อง Wii ที่ผ่านจุดคุ้มทุนไปนานแล้ว นักลงทุนเข้าใจว่านินเทนโด้คงยอมรับได้กับผลกำไรที่ลดลง (แต่นักลงทุนรับไม่ได้) และถึงแม้ผลกำไรอาจจะติดลบในปี 2011 ในทางบัญชีก็ยังช่วยให้นินเทนโด้นำส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์ในเรื่องการวางแผนภาษีได้ (แต่นักลงทุนอดได้ปันผลเมื่อบริษัทขาดทุน) อย่าลืมว่าทุกครั้งที่มีข่าวร้าย ตลาดมักอ่อนไหวมากกว่าที่มันควรจะเป็น ในมุมมองของนักเล่นเกมอย่างพวกเราที่ไม่มีส่วนได้เสียใดๆกับผลประกอบการของนินเทนโด้ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเล่นเกมอย่างสนุกสนานต่อไป ไม่ว่าจะเลือกเสพซะทุกเครื่อง หรือเลือกเล่นเพียงเครื่องเดียว ก็ไม่มีใครว่าอะไร ขอให้สนุกกับการพักผ่อนด้วยเกมที่คุณเลือก นั่นล่ะครับจุดมุ่งหมายของการเล่นเกม ^^ อ้างอิงข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2554 เวลา 10.00 น. (ประเทศไทย) เขียนโดย limp2551 |