FINAL FANTASY X-2 ( Ps2 ผู้ผลิต SquareEnix วางตลาด 2003 ) FINAL FANTASY X-2 เกมส์นี้เป็นภาคหลักภาคแรกของซีรีย์ Final Fantasy ที่มีภาคต่ออกมาเพื่อสานต่อเนื้อเรื่องของภาค Final Fantasy X ให้จบอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเนื้อเรื่องจะเริ่มจาก หลังจากเรากำจัด “ ชิน “ มาแล้ว 2 ปี ยูน่า ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติร่วมกับเพื่อน ๆ ของเค้าที่เกาะบีไซด์ โดยไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มใด ๆ ที่ก่อตั้งมาเพื่อยุคใหม่แห่งโลกสปีร่า แต่วันหนึ่งริคคุได้นำสเฟียร์ซึ่งคิมาริเป็นคนเจอมาให้ยูน่าหน้าดู ภาพที่ถูกบันทึกในสเฟียร์เป็นภาพของชายคนหนึ่งหน้าตาคล้ายกับ “ทีดัส” ถูกกักขังอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ยูน่าจึงตัดสินใจเดินทางจากเกาะบีไซด์ เพื่อค้นหาความจริงจากสเฟียร์..... กลุ่มนักล่าสเฟียร์ เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นมาค้นหาสเฟียร์ตามสถานที่ต่าง ๆ บนสปีร่า ซึ่งการค้นหาสเพียร์ก็คือการ “ ค้นหาความจริงในอดีตของปีร่า “ ทำให้มีความท้าท้ายและได้รับความนิยมจนเกิดเป็นกลุ่มนักล่าสเฟียร์กลุ่มต่าง ๆ ขึ้นมา โดยกลุ่มของยูน่าใช้ชื่อกลุ่มว่า กลุ่มกัสวิงค์ (The Gullwings) ออกเดินทางค้นหาสเฟียร์โดยใช้ “ ยานบินเซลซิอุส” โดยมีผู้นำคือ “บราเธอร์” พี่ชายของริคคุ ( หลาย ๆ คนเข้าใจว่าเป็นยูน่านะคะ แต่จริงแล้วไม่ใช่นะจ๊ะ..) สมาชิกภายในกลุ่มกัสวิงค์ (The Gullwings) ประกอบด้วย 3 สาว ซึ่งเราต้องดำเนินเนื้อเรื่องภายในเกมส์ผ่านทั้ง 3 สาวนี่แหละค่ะ ( ภาคนี้ไม่มีสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมเพิ่มเติมนะจ๊ะ ) คือ ยูน่า (YUNA) ตัวเอกหญิงจากภาค Final Fantasy X ที่สลัดคราบความน่ารักจากผู้อัญเชิญสัตว์อสูร มาสวมชุด Gunner ที่ดูเปรี๊ยวขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ แต่ความน่ารักไม่ได้น้อยลงกว่าเดิมเลยนะจ๊ะ ริคคุ (RIKKU) เด็กสาวผู้มีนิสัยร่าเริงสดใส จากเผ่า อัลเบ็ต เธอเป็นลูกสาวของชิดและมีพี่ชายชื่อบราเธอร์ หากเพื่อน ๆ ยังจำคาแลคเตอร์ของเธอใน Final Fantasy X ได้ ริคคุจะกลัวฟ้าผ่าเอามาก ๆ มาภาคนี้เธอไม่กลัวแล้วนะจ๊ะ แถมยังแต่งตัวได้น่ารักเซ็กซี่กว่าเดิมอีก.. ไพน์ ( PAINE) ปรากฏตัวครั้งแรกในภาคนี้เลยค่ะ เธอเข้าร่วมกลุ่มกับยูน่าเนื่องจากกลุ่มคริมสัน สว็อด กลุ่มเดิมของเธอได้ยุบกลุ่มลง เธอจึงเข้ามาหาความจริงเรื่องนี้โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับกลุ่มของยูน่า เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับการยุบกลุ่มของเธอ เป็นคนเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดค่อยจา สักเท่าไหร่ การดำเนินเนื้อเรื่อง Final Fantasy X -2 จะดำเนินเนื้อเรื่องในลักษณะของการค้นหาเหตุการณ์ต่างสถานที่ต่าง ๆ ทั้ง 15 สถานที่ สามารถเลือกเดินทางไปยังสถานที่ใดก่อนก็ได้อย่างอิสระ มีผลทำให้ค้นพบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกันและส่งผลให้เนื้อเรื่องเกิดการเปลี่ยนแปลงไปได้หลายรูปแบบทีเดียว มีผลต่อความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่องและฉากจบของเกมส์ด้วย เนื้อเรื่องภายในเกมส์แบ่งออกเป็น 5 Chapter โดยจะมีเนื้อหาซ่อนอยู่ในแต่ละ Chapter มากมาย เมื่อผู้เล่นเคลียร์มิชชั่นหลักตามเงื่อนไขของ Chapter นั้น ๆ ก็จะสามารถเข้าสู่ Chapter ต่อไปได้ ในแต่ละ Chapter จะมีเหตุการณ์ในการดำเนินเนื้อเรื่องหลัก ๆ อยู่ 2 อย่างคือเหตุการ์ทั่วไปกับมิชชั่น เหตุการณ์ทั่วไป ก็อย่างเช่นเราไปยังสถานที่ต่าง ๆ ก็จะมีเนื้อเรื่องให้ดูผ่านการบรรยายของตัวครหลักในเกมส์ ส่วนมิชชั่นจะมีเงื่อนไขของการผ่านกำหนดเอาไว้ ซึ่งตัวมิชชั่นนี้มีผลต่อการดำเนินหลัก ๆ ของตัวเกมส์มาก ๆ ระบบการเล่น ภาคนี้นำระบบ Level up กลับมาใช้อีกครั้ง ( ใน Final Fantasy X ใช้การเดินตารางสเฟียร์ในการเพิ่มความสามารถให้กับตัวละคร ) แต่สิ่งที่ช่วยให้ความสามารถต่าง ๆ ของตัวละครในภาคนี้ที่ได้เพิ่มเติมเข้ามาหลัก ๆ เลยมีอยู่ 2 อย่างค่ะ 1.สเฟียร์ชุด ( Dressphere) ความสามารถต่าง ๆ ของตัวละครจะเปลี่ยนไปตามชุดที่ใส่ รวมถึง อเบลิตี้พิเศษต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุดนั้นด้วย ก็เหมือนกับระบบ Job ใน Final Fantasy V นั่นแหละค่ะ ชุดสฟียร์ภายในเกมส์จะมีอยู่ทั้งหมด 17ชุด โดยเราจะได้ชุดต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาจากการเก็บได้ตามการดำเนินเนื้อเรื่องและเคลียร์มิชชั่นต่าง ๆ ภายในเกมส์ 2.แผ่นเพลท ( Garment Grids) เป็นแผ่นสำหรับติดตั้งชุดสเฟียร์ลงไปเพื่อให้ตัวละครได้เปลี่ยนชุดเป็นอาชีพต่าง ๆ ที่ติดตั้งลงบนแผ่นเพลตรวมถึงการใช้อเบลิตี้ต่าง ๆ ที่ติดมากับตัวแผ่นเพลตด้วย แผ่นเพลตแต่ละแผ่นจะมีช่องติดตั้งชุดสเฟียร์ไม่เท่ากันดังนั้นตลอดการเล่นหากมีการปรับเปลี่ยนติดตั้งให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ก็จะทำให้เราได้เปรียบมาก ๆ ค่ะ แผ่นเพลตภายในเกมส์จะมีทั้งหมด 60 แผ่นด้วยกันการได้มาก็เหมือน ๆ กับการได้ชุดสเฟียร์นั่นแหละค่ะ กราฟฟิคภายในเกมส์ ไม่ถึงกับสวยงามมาก ( ความเห็นส่วนตัว Final Fantasy X ยังทำกราฟฟิคสวยกว่าอีก ) ตัวละครต่าง ๆ เก็บรายละเอียดไม่ค่อยดีเท่าที่ควรยังมีเหลี่ยมหรือรอยหยักให้เห็นอยู่เยอะพอสมควร แต่ก็มี CG สวย ๆ ให้ดูอยู่เป็นระยะ สอดแทรกกับความน่ารักของตัวเอกทั้ง 3 สาว มองโดยรวมก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง ระบบเสียงภายในเกมส์ มีทั้งเพลงเก่าจากภาค Final Fantasy X และเพลงที่แต่งขึ้นมาโดยเฉพาะในภาคนี้ เพื่อน ๆ อาจจะคุ้นหูกับเพลงของภาคที่แล้วมากกว่า เพลงใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาไม่ค่อยให้อารมณ์ในการเล่นเท่าภาคเดิมเท่าใดนัก ระบบเสียงพากษ์ตัวละครภายในเกมส์ให้ความเข้าใจในเนื้อเรื่องแก่ผู้เล่นได้เป็นอย่างดี เสียงตัวละครบางตัวฟังแล้วตลกเฮฮาพอสมควรโดยเฉพาะ เสียงพากษ์ของ โทบลี๋ ( ตัวละครคล้ายกับนกเพนกวินที่อาศัยอยู่บริเวณ แม่น้ำมูลโพล ที่พูดเร็วแบบแร๊ฟ ( นักร้องเพลงแร๊บบ้านเราชิดซ้ายเลยนะเนี่ย ) ที่ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่จะออกแนวฮาซะมากกว่า ( อิอิ) ภาพลักษณ์โดยรวมของตัวเกมส์ ระบบต่าง ๆ ภายในเกมส์ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หลักหรือเหตุการณ์ย่อย การเคลียร์มิชชั่นต่าง ๆ มินิเกมส์ ระบบชุดสเฟียร์และระบบแผ่นเพลต ทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินไปกับการค้นหาสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ได้มาซึ๋งความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่อง เป็นสิ่งที่ท้าทายผู้เล่นมาก ๆ ถึงกราฟฟิคและดนตรีประกอบทำออกมาได้ไม่ดีสมยี่ห้อ Final Fantasy เท่าไหร่แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นภาคต่อที่สมบูรณ์แบบของ Final Fantasy X ได้อย่างคุ้มค่าและเป็น Final Fantasy อีกภาคหนึ่งที่ทำออกมาได้ดีและประทับใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ทิ้งท้ายกันซักหน่อย Final Fantasy X-2 นอกจากจะเป็นภาคหลักภาคแรกที่มีการทำออกมาเป็นภาค 2 แล้วยังมีโหมด New Game บวก เป็นภาคแรกด้วยเพื่อให้เพื่อน ๆ ที่เล่นรอบแรกสามารถเข้าไปค้นหารายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ที่ยังไม่เจอให้เนื้อเรื่องของตัวเกมส์สมบูรณ์ขึ้นนะคะ พาหวนคิดถึงเกมส์เก่า ๆ ทียังคงประทับใจโดย จ๊ะเอ๋