หน้าหลัก วิธีสั่งซื้อ เว็บบอร์ด เกี่ยวกับเรา ติดต่อเรา
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป
หน้าหลัก | เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
Username: Password:
  วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ.2568
  คำค้นหา:
รีวิวเกมจากแฟน GM
รีวิวเกม
สาระน่าเรื่องเกม
บทความเกม
Gamemag online รายสิบวัน
Magazine
Screen Shot
Game Update
คลิปเกมจากยูทูป
Game Tube
Emu และ Rom เกม
Emu&rom
Cosplay
Cosplay
Wallpaper
WallPaper
ภาพวาดจากแฟน GM
Art Corner
Gamemag on Facebook
Facebook
                   
สมาชิกทุกท่านโปรดอ่านก่อน*กฎกติกาของบอร์ด*
รวมวิธีโพสภาพ,คลิป,การใส่ลายเซ็น และอื่นๆ
...
Animategroup.com - GAMEMAG - อาหารที่แพงหูทะลุที่สุดในโลก ^^
ผู้ตั้งกระทู้ ข้อความ
KITTIN / Member
ID : M02698

Level : เจ้าชายเกมบอย
Exp. : 7%
จิตพิสัย : 100%
Like : 7
Post : 37
Reply : 274
Sex : ชาย
วันที่สมัคร : 2011-04-27
PM Profile
Topic : อาหารที่แพงหูทะลุที่สุดในโลก ^^
«date: 04 กรกฎาคม 2554 , 00:36:10 »
 แก้ไข  


แซฟฟรอน เป็นเครื่องเทศที่ได้มาจากเกสรตัวเมีย (สีแดงอมส้ม) ของดอกแซฟฟรอน โครคัส ซึ่งแต่ละดอกจะมีเพียง 3 เกสรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ การที่จะผลิตแซฟฟรอนแห้งให้ได้น้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ (0.45 ก.ก.) จะต้องใช้ดอกแซฟฟรอน โครคัส มากถึง 50,000-75,000 ดอก หรือปริมาณมากเท่ากับ 1 สนามฟุตบอลเลยทีเดียว

ดอกโครคัส พบได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก อาทิ ประเทศสเปน กรีซ อิหร่าน อินเดีย โมร็อกโก เป็นต้น แต่ประเทศที่ผลิตเครื่องเทศแซฟฟรอนได้มากที่สุดในโลกก็คือ อิหร่าน ซึ่งคิดเป็นส่วนมากถึง 94 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการผลิตทั่วโลก

ประเทศที่นิยมใช้แซฟฟรอนเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารได้แก่ อิหร่าน และประเทศอาหรับอื่นๆ รวมถึงประเทศในแถบเอเชียกลาง อินเดีย ตุรกี ยุโรป ฯลฯ

ราคาขายส่งและขายปลีกของเครื่องเทศชนิดนี้อยู่ที่ระหว่าง 500-5,000 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งปอนด์ (ราว 17,000-170,000 บาท/0.45 ก.ก) หรือ 1,100-11,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (ราว 37,400 - 374,000 บาท/ก.ก.)

2. ถั่วแพงที่สุดในโลก - แมคคาเดเมีย

ถั่วที่มีราคาแพงที่สุดในโลก คือ ถั่วแมคคาเดเมีย ถั่วชนิดนี้จะให้ผลผลิตต่อเมื่อมีอายุตั้งแต่ 7-10 ปีขึ้นไป ซึ่งการปลูกให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้นจะต้องหมั่นคอยดูแลใส่ปุ๋ย และปลูกในที่ๆ มีฝนตกชุก

ถั่วชนิดนี้เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน โดยมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศออสเตรเลียมากถึง 7 สายพันธุ์ ที่นิว คาเลโดเนีย 1 สายพันธุ์ และ ที่เมืองสุลาเวสี ประเทศอินโดนีเซีย อีก 1 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่มีความสำคัญและมีมูลค่าในเชิงการค้ามากที่สุดมีเพียง 2 สายพันธุ์ คือ Macadamia integrifolia และ Macadamia tetraphylla ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในรัฐนิวเซาธ์ เวลส์ และควีนสแลนด์ ของประเทศออสเตรเลีย

ไร่แมคคาเดเมียที่ปลูกขึ้นเพื่อการค้าเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นในช่วงต้นของยุคปี ค.ศ. 1880 (พ.ศ. 2423) ในรัฐนิวเซาธ์ เวลส์ ของประเทศออสเตรเลีย อีก 2 ปีต่อมาได้มีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์แมคคาเดเมียจากออสเตรเลียไปทดลองปลูกที่ ฮาวาย และเริ่มมีการปลูกแมคคาเดเมียในเชิงการค้าที่นั่นอย่างจริงจังนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) เป็นต้นมา

นอกจาก ออสเตรเลีย และฮาวายแล้ว ยังมีประเทศอื่นๆ ที่ปลูกแมคคาเดเมียเป็นพืชเศรษฐกิจอีก ได้แก่แอฟริกาใต้ บราซิล สหรัฐอเมริกา (แคลิฟอร์เนีย) คอสตา ริก้า อิสราเอล เคนย่า โบลิเวีย นิวซีแลนด์ และมาลาวี โดยมีออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก

สำหรับราคาขายของถั่วชนิดนี้จะอยู่ที่มากกว่า 30 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (มากกว่า 1 พันบาท/ก.ก.)

3. ไข่ปลาคาเวียร์แพงที่สุดในโลก - เบลูก้า คาเวียร์

ไข่ปลาคาเวียร์แพงที่สุดในโลก ไม่ได้มีสีดำอย่างที่หลายท่านคุ้นเคย แต่เป็นชนิดที่มีสีเทาอ่อนๆ ไล่ลงมาจนเกือบขาวตามอายุของปลา ยิ่งปลาอายุมากไข่ก็จะมีสีอ่อนลง และมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ

ไข่ปลาคาเวียร์อัลมาส (ภาษาเปอร์เซี่ยนแปลว่า "เพชร") ที่ได้มาจากปลา "เบลูก้า สเตอเจี้ยน" อายุหนึ่งร้อยปีขึ้นไป ถือเป็นไข่ปลาคาเวียร์ที่หายากที่สุด และมีราคาแพงที่สุด โดยมีราคาสูงถึงเกือบ 25,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (ประมาณ 850,000 บาท/ก.ก.) ในขณะที่ราคาเฉลี่ยของเบลูก้า คาเวียร์ โดยทั่วไปในปัจจุบันจะอยู่ที่ 7,000 - 10,000 เหรียญสหรัฐต่อ 1 ก.ก. (ราว 2.38 -3.4 แสนบาท/ก.ก.)

ปลา "เบลูก้า สเตอเจี้ยน" มีถิ่นอาศัยอยู่ในทะเลแคสเปียน ซึ่งเป็นทะเลปิดที่อยู่ระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป อันเป็นพรมแดนของประเทศรัสเซีย อาเซอร์ไบจาน อิหร่าน เติร์กเมนิสถาน และประเทศคาซัคสถาน บางครั้งอาจพบปลาดังกล่าวอาศัยอยู่ในแถบทะเลดำ นานๆ ครั้งจึงโผล่ให้เห็นบ้างในทะเลอาเดรียติก ปลาชนิดนี้จะถือว่าโตเต็มที่พร้อมให้ผลผลิต (ไข่) เมื่อมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป

4. เห็ดแพงที่สุดในโลก - ทรัฟเฟิลขาว

เห็ดที่มีราคาแพงที่สุดในโลกคือ เห็ดทรัฟเฟิลขาว ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในแถบ Langhe แห่งแคว้นปีเอมอนเต ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ในอดีตคนเก็บเห็ดทรัฟเฟิลจะใช้หมูช่วยดมกลิ่นค้นหา แต่ระยะหลังๆ มักนิยมใช้สุนัขมากกว่า เพราะสุนัขจะไม่กินเห็ดเหมือนหมู

เห็ดชนิดนี้มีราคาขายสูงถึง 1,700 - 3,800 ยูโร ต่อ 1 ก.ก. (ราว 82,000 - 183,502 บาท/ก.ก)

เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เห็ดทรัฟเฟิลสีขาว น้ำหนัก 1.08 กก. จากอิตาลี ถูกนายสแตนลีย์ โฮ มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจคาสิโนในมาเก๊า ประมูลไปในราคาสูงถึง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.8 ล้านบาท แต่สถิติเห็ดทรัฟเฟิลขาวราคาสูงสุดที่มีการบันทึกไว้ คือ 330,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11 ล้านบาท ซึ่งนายสแตนลีย์ โฮ เจ้าเก่า เป็นผู้ชนะประมูลเมื่อปี ค.ศ. 2007

5. มันฝรั่งแพงที่สุดในโลก - La Bonnotte


มันฝรั่งราคาแพงที่สุดในโลก คือ “La Bonnotte” ปลูกได้เฉพาะบนเกาะนีวร์มูทีเยของประเทศ ฝรั่งเศสเท่านั้น แถมปีหนึ่งๆ ยังเก็บเกี่ยวได้เพียง 10 วัน ทั้งยังบอบบางมากเสียจนต้องใช้มือถอน และให้ผลผลิตเพียงปีละ 20,000 ก.ก. ด้วยเหตุนี้มันฝรั่งที่ว่าจึงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 2.3 หมื่นบาทเลยทีเดียว

6. เนื้อแพงที่สุดในโลก - เนื้อที่มาจากวัววากิว (Wagyu) ประเทศญี่ปุ่น

เนื้อแพงที่สุดในโลก คือ เนื้อที่มาจากวัววากิว (Wagyu) ประเทศญี่ปุ่น วัววากิวถือเป็นวัวพื้นเมืองที่มีอยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน ชาวญี่ปุ่นจะเลี้ยงดูวัวเหล่านี้อย่างดีเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการให้หญ้าพันธุ์ดี ธัญพีช ฟาร์มบางแห่งถึงขนาดมีการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้วัว หรือไม่ก็ผสมสาเก หรือเบียร์ ลงไปในอาหาร

เนื้อวัวหลายชนิดที่คนรักเนื้อในบ้านเรารู้จักกันดีอย่างเช่น เนื้อโกเบ และมัตสึซากะ ฯลฯ ก็มาจากวัววากิวเช่นกัน แต่สาเหตุที่เรียกชื่อต่างกันเป็นเพราะว่าเลี้ยงกันคนละเมือง (เนื้อโกเบ มาจากฟาร์มในเมืองโกเบ ส่วนเนื้อมัตสึซากะมาจากฟาร์มในเมือง มัตสึซากะ เป็นต้น)

เนื้อจากวัววากิวมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และไขมันต่ำ รสชาติอร่อย นุ่มลิ้น ราวกับละลายในปาก จึงมีราคาสูงมาก - ที่ยุโรปเนื้อจากวัววากิวน้ำหนักประมาณ 200 กรัม มีราคาขายสูงกว่า 34,000 บาท

7. แซนด์วิชแพงที่สุดในโลก - คลับแซนด์วิช "von Essen Platinum"

นี่คือโฉมหน้าแซนด์วิช "แพงที่สุดในโลก" ฝีมือนายเจมส์ พาร์คินสัน หัวหน้าเชฟของโรงแรมหรู "von Essen" ในเมืองเบิร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ หลังจากสังเกตุส่วนผสมของแซนด์วิชในโรงแรมหรูห้าดาวทั่วโลกที่เขาได้มีโอกาส ไปเยี่ยมเยียน เขาจึงคิดรวบรวมส่วนผสมที่ดีที่สุดของแซนด์วิชในแต่ละโรงแรมมาไว้ในอันเดียว กัน

ด้วยเหตุนี้ “von Essen Platinum Club Sandwich” ของเขาจึงกลายเป็นคลับแซนด์วิชแพงที่สุดในโลก ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบด้วยส่วนผสมหลักคือ เนื้อไก่อย่างดี (พันธุ์ poulet de Bresse ของฝรั่งเศส) แฮม Iberian ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแฮมหายากคุณภาพเยี่ยมจากประเทศสเปน เห็ดทรัฟเฟิลขาวและมะเขือเทศจากประเทศอิตาลี ไข่นกกระทาต้มสุก และขนมปังที่ผลิตจากแป้งชนิดพิเศษ

แซนด์วิช "von Essen Platinum" ของเชฟพาร์คินสัน จำหน่ายในราคาอันละ 100 ปอนด์ หรือกว่า 5.5 พันบาท ถ้าใครอยากลองทานว่าจะเด็ดสักแค่ไหน ก็ไปพิสูจน์ได้ที่ภัตตาคาร "Cliveden’s Waldo" ของโรงแรม "von Essen"

8. พิซซ่าแพงที่สุดในโลก - พิซซ่า Luis XIII



พิซซ่าที่แพงสุดในโลก คือ พิซซ่า "Louis XIII" ฝีมือเชฟหนุ่มชาวอิตาลีที่ชื่อ "เรนาโต้ วิโอล่า"

พิซซ่า "Louis XIII" มีขนาด 8 นิ้ว ก่อนทำต้องใช้เวลาในการเตรียมแป้งเป็นเวลานานถึง 72 ช.ม. ขณะที่ท็อปปิ้งหรือหน้าพิซซ่าล้วนมาจากส่วนผสมคุณภาพเยี่ยม อาทิ ชีส mozzarella di bufala ไข่ปลาคาเวียร์ 3 ชนิด กุ้งล็อบสเตอร์จาก Cilento (ในอิตาลี) และประเทศนอร์เวย์ โรยหน้าด้วยเกลือสีชมพูที่มาจากแม่น้ำ Murray ในประเทศออสเตรเลีย ฯลฯ
พิซซ่าแพงสุดในโลก "Louis XIII" จำหน่ายในราคาอันละ 8,300 ยูโร หรือเกือบ 4 แสนบาท (ราคานี้รวมค่าตัวเชฟและผู้ช่วยอีก 2 คน ที่จะหอบข้าวของและอุปกรณ์ต่างๆ ไปทำพิซซ่าถึงบ้านลูกค้า)

9. ออมเล็ตแพงที่สุดในโลก - ออมเล็ตของภัตตาคาร Le Parker Meridien ในกรุงนิวยอร์ค

"ออมเล็ต" หรือไข่คน แพงที่สุดในโลกหารับประทานได้ที่ภัตตาคาร "Le Parker Meridien" ในกรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา

ที่นั่นเขาขายออมเล็ต (ภาพบน) จานละ 1,000 เหรียญ หรือประมาณ 34,000 บาท ประกอบด้วยส่วนผสมหลัก ได้แก่ ไข่ปลาคาเวียร์ (sevruga) น้ำหนัก 10 ออนซ์ กุ้งล็อบสเตอร์ทั้งตัว และไข่อีก 6 ฟอง เป็นต้น (เขาว่าถ้านำส่วนผสมทั้งหมด มาทำเองที่บ้าน ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ราวๆ 700 เหรียญ หรือประมาณ 23,800 บาท)

10. ขนมหวานแพงที่สุดในโลก - ไอศครีม ซันเด ของร้าน Serendipity 3 ในแมนฮัตตัน



ไอศครีมช็อคโกแลตซันเด ถ้วยนี้ ได้รับการจดบันทึกลงในกินเนสบุ้ค ออฟ เวิล์ด เรคคอร์ด ว่าเป็น "ขนมหวานแพงที่สุดในโลก" มีจำหน่ายที่ร้าน Serendipity 3 ในแมนฮัตตัน กลางกรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ด้วยสนนราคาถ้วยละ 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 850,000 บาท

“Frrrozen Haute Chocolate” คือ ชื่อของช็อคโกแลต ซันเดแพงระยับถ้วยนี้ ส่วนสาเหตุที่มีราคาแพงเนื่องมาจากไอศครีมมีส่วนผสมของโกโก้พันธุ์ดีและหา ยากมากๆ จำนวน 28 ผล (ในจำนวนนี้มีอยู่ 14 ผลที่เป็นโกโก้ชนิดแพงที่สุด) และทองคำ 23 เค ชนิดทานได้ น้ำหนัก 5 กรัม

ไอศครีมดังกล่าวจะถูกบรรจุลงในถ้วยทองคำ ที่มีแผ่นทองคำชนิดทานได้รองอยู่ภายในถ้วย นอกจากนี้บริเวณฐานของถ้วยไอศครีมยังตกแต่งด้วยสร้อยทอง 18 เค พร้อมกับเพชรแท้สีขาวอีก 1 กะรัต

เท่านั้นยังไม่พอ ไอศรีมถ้วยนี้ยังถูกแต่งหน้าด้วยวิปครีม โรยทับอีกชั้นด้วยทองคำ ประดับด้วยช็อคโกแลต "La Madeline au Truffle" จากร้าน Knipschildt Chocolatier ที่ขายในราคาปอนด์ละ 2,500 เหรียญ (85,000 บาท/0.45 กก.)

สำหรับช้อนทองที่เห็นในภาพว่าประดับด้วยเพชรสีขาวและสีช็อคโกแลต ลูกค้าสามารถนำกลับไปดูเล่นที่บ้านได้ ... แต่ถ้วยและสร้อยทองคล้องเพชร 1 กะรัตห้ามเอาไป ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ออกจากร้านแน่นอน


   ip: 110.49.227.228 
...

ผู้ใช้งานขณะนี้มีผู้ออนไลน์ 20 คน บอรด์มีทั้งหมด : 5,551 กระทู้ รวม  : 14,969 คำตอบ เข้าอ่านกระทู้ทั้งหมด : 9,262,792 ครั้ง
ดูตอบกระทู้ล่าสุดบนบอร์ด

0ขาจร, 20สาวก
ผู้ใช้เมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา:
, , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

HBD : jeep ,

 

Copyright 2007 Animate Group Co.,Ltd. All rights reserved.