คุยเรื่องเกมมาเยอะแล้ว เรามาคุยเรื่องหนังในดวงใจกันบ้างครับ หนังของผมที่ชอบนั้นมีเยอะจริงๆ เลือกยากและลำบากมาก ผมขอเลือกเรื่องนี้มาเล่าให้ฟัง เพราะัมีความหลังกับมัน เป็นหนังเรื่องแรกๆที่ผมเข้าไปดูในโรงภาพยนต์ (ตอนนั้นค่าตั๋วกี่บาทจำไม่ได้แล้ว) ----------------------------------------------------- ID4 (Independence Day) สงครามวันดับโลก ก่อนหน้่าที่จะมีหนังมนุษย์ต่างดาวบุกโลกที่เต็มไปด้วยสเปเชียลในยุคปัจจุบัน คุณจำได้ไหมว่ามีหนังเรื่องนึงเคยจุดประกายและฉายไอเดียต่อยอดไปอีกมากมาย รวมทั้งเป็นหนังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของดาราดังอย่าง "วิล สมิธ" ภาพยนต์เรื่องนี้เข้าฉายประมา๊ณปี พ.ศ. 2539 ขณะนั้นผมเรียนม.2 หรือ ม. 3ก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน จำได้แต่ว่า มันเป็นหนังเรื่องแรกๆที่ผมเ้้ข้าไปดูในโรงหนัง และยืนกรานกับเพื่อนว่าถ้าไม่ soundtrack กูไม่ดู (โรคจิต) ------------------------------------------------------- (เนื้อหาต่อไปนี้จะสปอยย่อๆ จาก wikipedia) วันที่ 2 กรกฎาคม จู่ๆ ทั่วโลกก็เกิดโกลาหลเมื่อพบว่าสัญญานการสื่อสารถูกรบกวนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือดาวเทียม พร้อมกันนั้นก็มีผู้พบสัญญาณที่เชื่อว่ามาจากจานบินที่ กำลังมุ่งหน้ามาทางโลก ซึ่งสัญญาณนั้นถูกส่งมาจากดวงจันทร์ โดยจากภาพถ่ายดาวเทียมปรากฏให้เห็นยานแม่เอเลี่ยนขนาด 550 กิโลเมตร หรือ 1 ใน 4 ของดวงจันทร์ และยานแม่ได้ส่งยานลูกนับสิบๆ ลำ โดยแต่ละลำก็มีขนาดใหญ่กว่า 15 ไมล์ และกำลังเคลื่อนเข้าสู่เมืองใหญ่ทั่วโลก โดยประธานาธิบดี วิทมอร์ (บิลล์ พูลแมน) และคณะไม่รู้จะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์ ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ เดวิด ลีวินสัน (เจฟฟ์ โกลด์บลุม) อ่านสัญญาณนั้นออกและเชื่อว่ามันเป็นสัญญาณบอกให้โจมตีโลกพร้อมกัน จึงรีบไปที่ทำเนียบขาวพร้อมกับพ่อของเขาเพื่อเตือนประธานาธิบดีก่อนจะสาย เกินไป ขณะที่อีกด้านหนึ่ง ผู้กองสตีเว่น ฮิลเล่อร์ (วิลล์ สมิธ) นักบินผู้ไม่กลัวใครของกองทัพสหรัฐ ถูกเรียกตัวไปประจำหน้าที่โดยไม่ได้อยู่ร่วมฉลองวันชาติพร้อมกับครอบครัว เดวิดพยายามหาทางที่จะปิดระบบเกราะสนามพลังให้ได้ และพบว่าไวรัสคอมพิวเตอร์สามารถปิดเกราะของจานบินได้ชั่วคราว พวกเขาจึงเตรียมการใช้ยานเอเลี่ยนที่ตกลงมาปี 1947 ขึ้นไปอัปโหลดไวรัสบนยานแม่ของเอเลี่ยนและวางระเบิดนิวเคลียร์ภายในยาน ส่วนนักบินที่เหลือให้รวมตัวเพื่อทำลายจานบินขณะที่เกราะยังปิดอยู่ และได้ใช้รหัสมอสเพื่อส่งข้อความไปยังฐานทัพทั่วโลกเพื่อให้โจมตี หลังจากที่แผนการใช้ไวรัสประสบผล ประธานาธิบดีวิทมอร์ได้ขับเครื่องบินรบคู่กับนักบินคนอื่น ร่วมกันโจมตีจานบินและยานเอเลี่ยนเหนือแอเรีย 51 ถึงจานบินจะไร้สนามพลังแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำอะไรจานบินได้มากนัก และจานบินเตรียมพร้อมที่จะยิง แอเรีย 51 เนื่องด้วยเครื่องบินส่วนใหญ่มิสไซล์หมด วิทมอร์จึงสั่งถอยทัพ Russell Casse (Quaid) ซึ่งยังเหลือมิสไซล์อีกลูกหนึ่ง แต่มิสไซล์ขัดลำ เขาจึงใช้วิธีแบบกามิกาเซ่ตรง เข้าไปยังฐานยิงลำแสงทำลายล้างของจานบิน ทำให้จานบินเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่และถูกทำลายในที่สุด ส่วนกองทัพที่เหลืออยู่ทั่วโลกก็รู้จุดอ่อนของจานบิน ขณะเดียวกันผู้กองฮิลเลอร์และเดวิดได้วางระเบิดบนยานแม่ของเอเลี่ยน และทั้งคู่ก็หนีออกมาอย่างปลอดภัย ถือว่าเป็นชัยชนะของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง -------------------------------- หนังเรื่องนี้ถ้าเอามาเทียบเอฟเฟคท์กับตอนนี้ มันคงดูธรรมดาจะล้าสมัยมาก แต่กับตัวผมเองในตอนนั้นที่ยังเป็นด.ช.ปรพล มันสุดยอดและอลังการมากครับ ฉากไคลแมกซ์ที่ยานแม่ลอยมากลางเมือง แล้วยิงลำแสงลงมาทักทา่ยมนุษย์โลก มันทั้งน่าทึ่งและน่าสยดสยองปะปนกันไป นั่งตาลุกวาวและอ้าปากค้่างเพราะไม่เคยเจอหนังแบบนี้มาก่อน หรือจะฉากที่ขับยานพุ่งเข้าชนเพื่อแลกกับเอเลี่ยนก็สุึดยอดเช่นกัน ตอนจบซึ้งประืทับใจในชัยชนะของมนุษย์(แม้จะพยายามชูว่าอเมริกาเป็นกระเอกไปหน่อย) ไอเดียต่้างๆของหนังเรื่องนี้ถูกเอามาล้อเลียนเยอะพอสมควร เช่นเกม Metal Slug ก็เอามาเล่นแบบตรงๆกับมุขยานแม่ส่องลำแสงลงมาเนี่ย ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด นักร้องดังอย่างลำพล ลำพูน ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดที่สาม ก็ใช้ชื่ออัลบั้มว่า อำพลเมืองดี คำนี้สื่อความหมายคำว่า "พลเมือง" หมายถึง "บัตรประชาชขน" (ID Card) ซึ่งคำว่้า ID เป็นคำที่ถูกเอามาพูดถึงมากในขณะที่กระแสของหนังเรื่องนี้กำลังดัง (ภาพปกอัลบั้ม ID Card) ถ้าถามคนรุ่นผม ทุกคนย่อมเคยดู ID4 และชอบ ID4 ทุกวันนี้ช่องทรูก็ยังเอามาฉายวนเวียนอยู่เป็นประจำ(เมื่อวา่นซืนก็เพิ่งเจอ) น้องๆถ้ายังไม่เคยดู ลองหามาดูนะครับ หนังเก่า แต่ความสนุกไม่เก่าเลย...

จิ้มแล้วอ่านโลด ]

ชอบหลายเรื่องมากๆอ่าผม starwars 1-6 lords of the ring 1-3 saving private ryan เอาที่ประทับใจในช่วงเวลานี้ก็ Always 1-2 (always sunset on third street ถนนสายนี้ หัวใจไม่เคยลืม) หนังญี่ปุ่นสุดประทับใจ ดูแล้วอบอุ่นหัวใจมากครับ หนังเนิบๆดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ทรงพลังมากครับ ผมร้องให้พร้อมรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าเลยครับ ร้อให้ทั้งสองภาคด้วย อารมณ์ประมาณแฟนฉันของไทย แต่เรื่องนี้เล่นกับความรู้สึกคนด้วยการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวต่างๆที่อยู่ในใกล้กับหอคอยโตเกียว ซึ่งหนังเรื่องนี้ทั้งสองภาคได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายมากทีญี่ปุ่น ที่ pantip มีแต่คนแนะนำหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ลองไปหาดูกันได้ครับ และเพลงประกอบภาคแรกยังเพราะมากๆครับ

เรื่องที่อั๋นโพส ผมเพิ่งได้มาทั้งสองภาคพอดี งั้นเดี๋ยวจะรีบกลับไปดูเลย

เอ๋จะชอบหนังแนวหักมุมคะ ยิ่งถ้าหักมุมชนิดที่เอ๋ทายผิดนี่เอ๋จะให้คะแนนเต็ม 10 เลยล่ะไม่ใช่เรื่องไหนหรอกคะ saw นั้นเอง ถึงหลัง ๆ มุขจะตื้นไปหน่อยแต่ก็พาเอ๋หลงได้เกือบทุกภาคน่ะคะ..ส่วนอีกเรื่อง ichi the killer คะเนื้อหาเป็นยังไงเคยบอกไปแล้วนะคะ ปล. ขออภัยไม่กล้าเอาตัวอย่างมาให้ดูกลัวโดนพี่พลแบนออกจากบอร์ด

ผมชอบหนังเรื่องยิปมันมากๆ เพลงที่ชอบ ส่วนมากเป็นเพลงเก่าๆ

ของผมต้องเรื่องนี้เลย ประทับใจตั้งแต่อ่านหนังสือ จนกระทั่งมาดูหนังภาค1 จากนั้นมาก้อชอบมาก ดูทุกภาคอ่านทุกภาคจนถึงภาคล่าสุด ไม่อยากสปอย เด๋วไปดูในโรงเองล่ะกันนะครับ รับรองสนุกมาก ............................................................................................................................... อีกเรื่องหนึ่งเปนหนังโรคจิต แต่ดูแล้วชอบมาก หุหุ ยอมรับว่า ตอนดูครั้งแรกยังคิดเลยว่า หนังอะรัยว่ะเนี่ย โรคจิตได้ใจมาก แต่พอดูอีกรอบหนึ่งแต่นั้นแหละครับชอบเลย ยังคิดว่าจะเอาไปทำกะแฟนบ้าง(ล้อเล่นนะครับ) ดูทีรัยชอบชวนแฟนผมดูครับ เพราะเวลาเค้ากลัวก้อจะมากอดผม หุหุ ภาคนี้ผมรอว่าเมื่อรัยจะเข้าเมืองไทยสักที เพราะภาค6 ก้อไม่ยอมเข้าโรง แต่ออกแผ่นมาแทน แต่คิดว่า สงสัยหนังมันสยองเกินไปมั่งครับสำหรับบางคน เลยคิดว่าไม่เอาฉายในเมืองไทย ป.ล. คุณ jaae ชอบดูเรื่องนี้หรอครับเนี่ย ผมพึ่งรู้

โห้ขนาด ผู้หญิง5ปาป น้ำตาลแดงยังฉายได้เลยอะ หนังติดเรทมากกว่า saw อีกมั่ง

จริงๆแล้วชอบดูหนัง ACTION ไม่ต้องเครียดเอามันผ่อนคลาย สะใจ !!! ประหลาดใจเรื่องนี้ (T2) สมัยโน้น คอมกราฟฟิคยังไม่ค่อยเยอะ คือดูเนียนกว่าเรื่องอื่น แล้วก็มันด้วย ก็เลยชอบดูหนัง ACTION เรื่อยมา แต่เรื่องโปรดนี่เลือกไม่ได้จริง ๆ ระหว่างสองเรื่องนี้..(ขอเป็นชอบ 2 เรื่องละกันนะ) http://www.youtube.com/watch?v=6az9wGfeSgM เรื่องแรก(PAN'S) มันดำเนินเรื่องราวระหว่าง Fantacy กับเรื่องจริงไปด้วยกันได้ทั้งที่มันไม่น่าไปด้วยกันได้ สุดท้ายมันมาเจอกันจนได้ ชอบ ๆ.. ส่วนเรืองที่สอง มันก็น่าจะเป็นการ์ตูนธรรมดาแต่ดูไปเรื่อยๆมันไม่ธรรมดา ทั้งสองเรื่องนี้ใครดูมาแล้วมั่ง แล้วรู้สึกไงมั่ง วานบอก

ต๊กกะจาย ลุงเสน็ก นึกว่ามีหนังของลุงเเก ที่ไหนได้ คนเหล็กซะนี่ 555 เนียนๆจัง ของผมเหรอ เกือบทุกเรื่องที่ผลิตจาก สตูดิโอ พิกซ่า ของ วอล์ ดิสนี่ผมคัดมา เเค่ 3 เรื่องนะ เรื่องเเรก ของสตูดิโอนี้เป็นผลงานเปิดตัวในรูปแบบ 3d animation Toy story ที่เรียกเสียงฮือฮา ในยุคนั้น ด้วยภาพที่สร้างจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิคเรื่องเเรกของโลก ที่ทั้งงามเเละเนียน ระดับเทพ (ปรกติหนังสมัยนั้น จะเป็นการ์ตูน 2d) Thanks: ฝากรูป เรื่องราวของเล่นที่ มีตัวเอกคือ นายอำเภอวู๊ดดี้ คนละคนกับที่เป็นพิธีกร ฝีปากกล้านะ เเละ กัปตันบัซ ไลท์เยียร์ เเละเหล่าของเล่น ของแอนดี้ ซึ่งทำออกมา 3 ภาคเเล้ว เเต่ละภาค เรียกรอยยิ้ม เเละคราบน้ำตา ซึมๆ จากผมเเละเหล่าคนดูทั่วโลกมาเเล้ว ยิ่งภาค 3 ทำให้ผม ถึงกับน้ำตาซึมเลย ใครอยากรู้ไปหาดูเองละกัน เรื่องที่ 2 Monster inc เรื่องนี้ก็เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่เเพ้กัน ด้วยการออกเเบบ ตัวละครจากทีม งาน Toy story ที่ผมของบอกว่าทึ่งมากจาก การออกเเบบตัวละครสีฟ้า ที่ละเอียดชนิด ปลูกขนกันเส้นต่อเส้น Thanks: ฝากรูป เรื่องนี้เนื้อเรื่อง จำไม่ค่อยได้ละ รู้เเค่ว่าเป็นบริษัทๆ หนึ่งของพวกสัตว์ประหลาดที่ ต้องออกไปหลอกเด็กเพื่อ กินตับ เอ้ย เพื่อเอาเสียงกรีดร้องของเด็กไปเเปรเปลี่ยนเป็นพลังงาน 555 ชอบเเนวคิด เเต่บริษัทนี้ กำลังประสบปัญหา เสียงกรีดร้องไม่เพียงพออ่ะดิ ไปตามต่อในหนังเองนะ เรื่องที่3 สุดท้าย UP ปู่ซู่ซ่าบ้าพลัง 555 ชอบมากๆเลย ผมว่าเป็นงานศิลปะชิ้นดีๆ ในหนัง3d animation เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการวางโครงสี ของลูกโป่งที่ยกบ้าน องค์ประกอบของภาพ ยันการออกเเบบ โลโกชื่อหนัง บอกได้คำเดียวว่า อาร์ต จริงๆ Thanks: ฝากรูป เรื่องราวการเดินทางของลูกเสือ ที่ต้องการช่วยเหลือ คนเเก่เพื่อเเลกกับ ตราสัญลักษณ์ ลูกเสือว่าด้วย ตราช่วยเหลือผู้สูงอายุ กับคุณปู่ที่ต้องการพจญภัย เพื่อสานความฝันของตนกับภารยาที่ตายไปเเล้ว ในอดีตให้สำเร็จ เนื้อหา ครบเลย สนุก ตื่นเต้น ดรามา เเละประทับใจ ตามเเบบ ฉบับของ ดิสนีย เขาล่ะ ป.ล. ขอเเทรกเล็กๆ สตูดิโอของ พิกซ่า ขึ้นชื่อว่าเป็น สตูดิโอในฝันที่ ใครๆก็อยากไปทำงาน เพราะที่นี่ เขาใส่ใจในเรื่องของอารมณ์ ของทีมงานเขามาก ผมเคยดูสารคดีมา เรียกได้ว่ามี มากกว่าคำว่าอ๊อฟฟิส อ่ะ สระว่ายน้ำ โต๊ะพูล สวนสนุก โรงอาหาร ระดับเทพ โตะพูล ห้องเล่นเกมส์ตู้ ฟิตเนส คาราโอเกะ อาจจะเป็นเพราะที่นี้เขาต้องใช้จิตนาการในการทำงาน จึงต้องทำให้ทีมงานรู้สึกสนุก เเละผ่อนคลาย ละจะได้งานดีๆละมัิ้้ง อิจฉา ทีมงานในพิกซา จริงๆ

Spirit Away ผมยอมรับเลยครับว่าเป็นการ์ตูนขั้นเทพ ที่ไม่รู้ว่าต้องรออีกกี่ปีถึงจะมีเรื่องไหนทำออกมาได้ใกล้เคียงกับมาตรฐานของเรื่องนี้อีก ใครไม่เคยดูสมควรต้องหามาดูให้ได้นะครับ และผมก็ชอบ Pixar เหมือนกัน ค่ายนี้ไม่เคยทำให้คนดูต้องผิดหวัง ภาพสวยเนื้อเีรื่องสนุกไอเดียบรรเจิด

ถ้าดราม่าต้อง forest gump กับ i'm sam และ city of angleด้วยนะเลยดูทีไรบ่อน้ำตาแตกเลย แอคชั่นชอบ conair กับ the fujitive สยองขวัญชอบ scream ภาคแรกมากๆ โรแมนติกชอบ just like heaven กับ same mistake

เอาตามความจริง เป็นคนที่ ชอบดูหนังคนแก่ โดย เฉพาะ อย่างยิ่งหนัง Sci-fi ที่มี ถึง 6 ภาค อย่าง Star wars ซึ่งผมชอบทั้งเนื้อเรื่องและฉากเอฟเฟ็ตที่ดูเป็นของตนเอง มีเอกลักษณ์และทำให้แฟนๆ นั้น ชอบกันระห่ำโหดมันฮาแบบสุดๆ โดย ภาพยนตร์ เรื่องนี้ ทำทุนได้กำไร หลาย ขุดเอาของเก่ามาขายก็ได้เงิน หนังเรื่องนี้มีทุกอย่างครอบคัน ทั้งคล้ายๆกับด้าน มืด และแสงสว่าง และสงครามกลางเมืองที่ไม่เข้าใจกัน ซึ่ง ผมชอบทั้งฉากที่มีความอลังการ แต่เอาตามตรง ยังไงผมก็ยังชอบภาค 4-6 มากที่สุด เพราะ เป็นจุดสุดท้ายที่ทุกอย่างจะไขกระจ่าง แต่ภาค 1-3 ก็สนุกได้อารมณ์เช่นกัน ซึ่งภาค ที่ชอบที่สุดๆๆๆ ก็คือ ภาค 5 ทั้งมันและได้อารมณ์ ลุ้น อยู่ตั้งแต่ต้นจนจบและ อยากดูภาคต่ออย่างไว ดีนะที่เกิดตอนหนังฉายครบแล้ว ไม่งั้นรออีก สองปีตายแน่เลย T^T ตัวละครที่ชอบคือ darth vader

ผมก็เห็นด้วยกับอู๋นะ ว่าสตาร์วอรส์ภาคที่สนุกที่สุดคือภาค V โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องที่พ่อลูกสู้กัน (สปอย) ซึ่งดาร์ทเวเดอร์ได้พ่นลมหายใจฟืดฟาดพร้อมประโยคคลาสสิคที่ว่า "I'm your father" แปลแบบภาษาชาวบ้านว่า "กรูนี่แหละพ่อมรึง" แล้วลุคก็ร้องปากบิดเบี้ยว "Noooooo!!" ช็อตนี้ผมชอบมาก คลาสสิคสุดๆ