(รีวิว) Hatsune Miku: Project Diva f

First Post Last Post  
limp2551 18 กันยายน 2555 , 12:23:00




หลังจากงาน E3 2012 สถานการณ์วงการเกมแฮนด์เฮลด์เรียกได้ว่าต้องวางกลยุทธ์กันช็อตต่อช็อตเพื่อลุยไตรมาสสุดท้ายของปี 2012 โดยเฉพาะทางฝั่ง 3ds (นินเทนโด้) เพื่อสยบ vita (โซนี่) ที่ยังมีอาการลูกผีลูกคน และแล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อนก็คือ นินเทนโด้มาเหนือเมฆด้วยการปิดข่าวตลอดงาน E3 2012 แต่ต่อมาได้ประกาศว่าจะวางจำหน่าย 3DSLL (โซน jp) พร้อมเกม New Super Mario Bros. 2 ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2012 ส่วนโซนอื่นๆจะวางขาย 3dsXL ระหว่างวันที่ 17 – 19 สิงหาคม 2012 เท่ากับว่ากลยุทธ์ของฝั่งนินเทนโด้ต้องการท้าชนกับ Hatsune Miku: Project Diva f ที่กำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 30 สิงหาคม 2012 อย่างไม่ต้องสงสัยกันเลยทีเดียว






แต่แล้ว .. น้องมิกุก็ไม่ทำให้แฟนบอยวีต้าผิดหวังครับ เพราะสัปดาห์มาริโอ้แอนด์ 3ds จอยักษ์ เครื่องวีต้าทำยอดขายได้เพียง 10880 เครื่องแต่พอ Hatsune Miku: Project Diva f วางจำหน่ายในสัปดาห์ต่อมา ยอดขายสัปดาห์นั้น วีต้ามียอดขายนำมาเป็นอันดับ 1 ขายเครื่องวีต้าไปได้มากถึง 50,070 เครื่อง แต่ว่าสัปดาห์ล่าสุดนี้ (ขณะรีวิว) ก็กลับสู่ภาวะปกติที่ 14,106 เครื่อง





เซ้ ... ก่า ... (เสียงที่แฟนมิกุคุ้นเคยกันดี)

Hatsune Miku: Project Diva f เป็นเกมแนว Music Game ใช้เสียงร้องแบบ Vocaloids ระบบเกมเพลย์แบบกดปุ่มเหมือนเวอร์ชั่น psp แต่เพิ่มลูกเล่นการทัชหน้าจอเข้ามาด้วย (ใช้ทัชหลังแทนได้) สารภาพเลยครับว่าตอนผมลองเดโม่ครั้งแรก (เกมยังไม่ออกขาย ณ ตอนนั้น) ผมงงกับไอคอนรูปดาวตั้งนาน ไม่คิดว่าจะใช้มุกถูหน้าจอ (Scratch) ทำให้ผมนึกถึงเกม Michael Jackson The Experience HD (vita) ขึ้นมาเลย อย่างไรก็ตามด้วยภาษาในเพลงที่ผมฟังไม่เข้าใจ แต่เล่นเพราะภาพสวยน่ารักดี ทำให้ผมนึกถึงอีกเกมหนึ่งที่ผมมีคือ Dream Club ZERO (vita) ที่มีโหมดดนตรีให้เล่นเวลาคาราโอเกะกับสาวๆ ผมคิดว่าสาวกน้องมิกุมีอยู่มากในหมู่เกมเมอร์ชาวไทย เพราะงั้นหากถามความเห็นใครก็ตาม ผลลัพธ์อาจเป็นมองแง่บวกมากมาย คนที่เชียร์ก็เชียร์ขาดใจ แต่คนที่ไม่ชอบแนวเกมเพลย์แบบนี้ ก็อาจจะลังเลก็ได้ ราคาเกมนี้แรงมากในไทย แม้ว่าราคาปัจจุบันจะเริ่มลงมาแล้วก็ตาม สะพานเหล็กขายโซน 2 ราคา 1900 บ. และโซน 3 ราคา 1800 บ. (ราคาล่าสุด 10 – 16 กันยายน 2012) ผมคิดว่าก่อนซื้อควรโหลดเดโม่ Hatsune Miku: Project Diva f มาลองเล่นดูก่อน ถ้าชอบค่อยหาซื้อมาเล่นน่า ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อจะดีกว่านะครับ เกมแท้ไม่ใช่ราคาถูกๆ






Hatsune Miku: Project Diva f มีเพลงให้ปลดล็อครวม 36 เพลง โดยแบ่งเป็นเพลงหลัก 32 เพลง และเพลงในโหมด AR อีก 4 เพลง ถ้าเล่นแบบเดิมๆ มันก็คือเกมแนวดนตรีที่เน้นทำคะแนน และแลกซื้อชุดแต่งตัว สำหรับภาคนี้มีโหมดเพิ่มเข้ามา เช่น AR Mode เอามาใช้ถ่ายรูปและใช้งานคู่กับแผ่นภาพ AR ที่แถมมาในกล่องเกม โหมด Diva Room สำหรับตกแต่งห้องและเล่นกับตัวละครในเกม โหมด Edit ไว้ปรับแต่ง PV และแชร์ผ่านระบบไวไฟ รวมถึงการใช้งานร่วมกับเพลง mp3 ในเม็ม อย่างไรก็ตามปัญหาของเกมแนว Music Game ที่ผมคิดว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร ก็คือเรื่องความดังสุดของเสียง แม้ว่าผมจะเข้าไปปรับเสียงให้ดังที่สุด (โหมด setting) และใส่หูฟังขณะเล่นแล้วก็ตาม ผมก็ยังคิดว่าเสียงมันเบาไปนะ (ลองนึกถึงชมคอนเสิร์ตที่เสียงเบาไป รายละเอียดของเสียงจึงไม่ครบถ้วน) เท่าที่ผมสังเกตจากเกมวีต้าที่ผมมี 30 กว่าเกม ณ ตอนนี้ ส่วนมากเสียงจะเบานะ แม้จะผมเปิดเสียงดังสุดและใส่หูฟังคุณภาพดีแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตามมิกุเวอร์ชั่น vita มีรายละเอียดของเสียงเพลงที่มากกว่า psp อยู่พอสมควรเลยทีเดียว (จากที่ผมลองเกม 70 กว่าเกมที่ผมมี เครื่อง 3ds ก็มีปัญหาเสียงเบาเหมือนกันในเกมปีแรก 2011 ที่วางจำหน่าย แต่ปีต่อมาปัญหานี้น้อยลงมากแล้ว)






Hatsune Miku: Project Diva f ผมเน้นเล่นที่โหมดหลักปลดล็อคเพลงและทำแต้ม ระดับความยากในการกดปุ่มให้ทัน เริ่มต้นจะเลือกได้แค่ Easy กับ Normal แต่เมื่อเล่นผ่านเพลงนั้นจะมีระดับ Hard และต่อด้วย Extreme ความยากของเกมเรียกได้ว่า กดกันมือพันกันเป็นพัลวันเลยทีเดียว เมื่อเล่นผ่านเพลงหนึ่งก็จะปลดล็อคเพลงต่อไปจนครบ และหากตอนกดเล่นไม่ทันได้ดู PV ก็สามารถย้อนกลับมาดูได้เรื่อยๆ (แต่ต้องเล่นผ่านเพลงนั้นก่อนนะ) รวมถึงสามารถนำชุดที่ซื้อและโมเดลตัวละครอื่นๆ มาแทนตัวละครใน pv เดิมได้อีกด้วย ในส่วนของเกมเพลย์หากผู้เล่นกดปุ่มไม่ทันเสียงเพลงจะขาดหายไป เพราะงั้นถ้าผู้เล่นเปิดเสียงดังโดยไม่ใส่หูฟัง คนรอบข้างอาจนึกว่าแผ่นมันสะดุดก็เป็นไปได้ (ฮา) อีกจุดหนึ่งที่แม้จะเป็นรายละเอียดเพียงเล็กน้อย แต่ผมว่ามันเป็นไอเดียที่ดีนะ ก็คือระหว่างรอโหลดเกมจะมีภาพให้ดูเพลินๆ (เหมือน psp) ซึ่งภาพพวกนี้ใน Hatsune Miku: Project Diva f มีมากถึง 155 ภาพ และสามารถเก็บสะสมทุกภาพเอาไว้ดูภายหลังได้อีกด้วย






ขอพูดถึงระบบ AR สักหน่อยนะครับ เครื่องวีต้า jp ที่ผมซื้อมามันไม่มี AR card มาให้ (เครื่องวีต้า us มีมาให้ในชุด) ทำให้เกมดาวน์โหลดฟรีที่แจกใน ps store ไม่ได้รับความสนใจจากผมเลย เมื่อเทียบกับทางฝั่ง 3ds ที่มี AR card มาให้ครบชุดในกล่อง ผมคิดว่าจะไม่ได้ลองระบบนี้ของวีต้าซะแล้ว (ฝั่ง 3ds ผมได้ลองครั้งแรกจากเดโม่ Bravely Default ปี 2011 และได้ใช้งานเต็มๆในเกม Spirit Camera) จนกระทั่งเกม Hatsune Miku: Project Diva f แถมระบบ AR มาให้ด้วย โดยเป็นแผ่นพับสีสวยงามขนาด (Handbill) กว้าง 12.4 ซม.ยาว 16.2 ซม. เมื่อเล่นกับระบบ AR ในเกมจะได้เจอน้องมิกุมาร้องเพลงสดๆตรงหน้าให้ด้วย เสียดายที่วีต้าไม่มีระบบ 3D ไม่งั้นคงสุดยอดแน่ๆเลยล่ะครับ นอกจากนี้ในเกมยังมีระบบถ่ายรูปกับตัวละครด้วย หลายคนอาจจะสงสัยว่าถ้าทำทะลึงตึงตังขึ้นมาจะได้ไหม คำตอบคือทั้งโหมดถ่ายรูปและโหมด AR ทำไม่ได้ครับ แต่จากที่ผมลองพยายามก็มีแพลมๆออกมาบ้าง แต่ไม่มีถ้วยเด้งเหมือนเกม Lollipop Chainsaw (ps3) นะครับ






สรุป Hatsune Miku: Project Diva f เป็นเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ที่สุด ณ ตอนนี้สำหรับสาวกมิกุ แต่สำหรับคนทั่วไป (ผมด้วย) การต้องซื้อเกมราคาเฉียดสองพัน จากเดิมที่คุ้นเคยกับการโหลดฟรีใน psp เรียกได้ว่าไม่ชินเอาเลยล่ะครับ สำหรับใครที่มี ps3 ด้านสว่าง (ps 3 ext.hdd 2 TB ของผมยัง cfw 3.55 อยู่เลย 555) ก็อย่าลืมใช้สิทธิเข้าไปโหลด App Project Diva Dreamy Theater เอาไว้ใช้บน ps3 นะครับ


รีวิวโดย limp2551