ว่าด้วยเรื่องของ "ปิน" (Gun)

First Post  
Horizon 12 พฤษภาคม 2554 , 04:46:48
วันนี้มาแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง อาวุธจำพวก \\\"ปืน\\\" จากปืนพก ยันอาวุธหนักๆคราวนี้จัดข้อมูลแบบ ระเอียดยิบเลย...

เท่าที่หาได้กับข้อมูลทั้งหมดครับ ปืนปัจจุบันใช้ในการป้องกันตัว ยันไปถึงใช้ในการสงครามต่างๆ

ผมก็เคยลองใช้หรือสัมผัสมาแล้วรู้สึกว่ามันเจ๋งดี ว่างๆก็ลองแวะไปสนามยิงปืนหน่อยนะครับ แต่ลูกกระสุนแพงหน่อย

และการเขียนกระทู้นี้ผมไม่ได้ตั้งใจเพื่อให้บุคคลในที่นี้ไปพกอาวุธ หรือไปซื้อหาอาวุธผิดกฏหมายเพื่อในการกระทำสิ่งไม่ดีต่างๆ

ที่ผมนำมาเสนอนี้ถือว่าน้อยมากๆครับ ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่ได้นำเสนอ ..... ก็ลองดูกันก่อนล่ะกันนะครับ แถมยังขาดปืนลูกซอง

ไปอีกชนิดนะครับ เนี่ยงจากภาพหาง่ายแต่ข้อมูลหายากเช่นกันครับ เลยไม่ได้นำมาลง ถ้าได้เมื่อใหร่จะนำมาอัฟเดท

ในกระทู้นี้เหละครับ

ลองมาดูกันเลย ครับ....


เริ่มจากปืนพก....

ปืนพก HK P30 ขนาด ๙ มม.




ปืนรุ่นนีมีขนาด ๙ มม. ทำงานแบบ Recoil operated weapon ทำงานร่วมกับ Browning locking system and recoil buffer system


ขนาดของตัวปืน v3
ความยาวทั้งตัว 6.99 in.
ความสูงทั้งตัว 5.43 in.
ความกว้า 1.37 in.
ความยาวลำกล้อง 3.86 in.
ระยห่างระหว่างศูนย์หน้าและหลัง 5.85 in.
น้ำหนัก
รวมแมกกาซีน 1.63 lb
เฉพาะแม็กกาซีน 0.20 lb
คุณสมบัติอื่นๆ
ขนาดบรรจุ 15 Cartridges
ระบบลั่นไก ได้ทั้ง Single และ Double

น้ำหนักไก (นิวตัน) * 20 + 4/-2 (SA)
51 +/- 5 (DA)
ระยะเหนี่ยวไก .25 inch (SA)
< .55 inch (DA)
ศูนย์ปืนเป็นแบบ Fixed (Open square notch rear sight with contrast points)

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปืน Cobra Pistol




ปืนพก Cobra ขนาดเล็ก STANDARD DERRINGERS

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Beretta 90two




ปืนรุ่นนี้พัฒนามาจากปืน บาเร็ตต้า รุ่น ๙๒ มีขนาด ๙ มม. แต่น้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย ศูนย์หน้าถอดเปลี่ยนได้ ด้ามจับปรับเปลี่ยนให้มีขนาดต่างๆ ได้ ๓ ขนาด ตัวปืนหนักประมาณ ๒ ปอนด์ ถือว่าเป็นปืนที่มีน้ำหนักมากทีเดียว เหมาะสำหรับเป็นปืนไว้ติดบ้านป้องกันตนเอง หรือใช้เป็นปืนยิงเป้าปืนพก แต่อาจจะหนักไปหน่อยสำหรับการพกพา สิ่งที่ดีสำหรับปืนรุ่นนี้ก็คือ มีรางสำหรับติดอุปกรณ์เสริม และหากไม่ใช้รางนี้เราก็สามารถครอบด้วยปลาสติกได้

น้ำหนัก 32.2 oz.
ความยาวลำกล้อง 4.9\\\"
ความยาวทั้งกระบอก 8.5\\\"
แมกาซีนบรรจุ 17
ระบบการยิง ยิงแบบซิงเกิลแอ็กชั่น และ ยิงแบบดอบเบิลแอกชั่น
ศูนย์ปืน ติดตาย แบบ 3 Dot
ตกแต่ง Matte Black Bruniton
ด้ามจับ Plastic
โครงปืน Alloy

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

FNX 9 mm.




เอฟเอ็นเอ็ก เป็นปืนพกผลิตในสหรัฐฯ ขนาด ๙ มิลลิเมตร ลำกล้องยาว ๔ นิ้ว เกลียวลำกล้องมีขนาด ๑ รอบต่อ ๑๐ นิ้ว ความสูงของปืน ๕.๔๕ นิ้ว กว้าง ๑.๕๕ นิ้ว แมกกาซีนบรรจุได้เต็มที่ ๑๗ นัด สามารถยิงได้ทั้งสิงเกิลและดับเบิลแอ็กชั่น สามารถลดไกได้

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Walther P22




ปืนรุ่นนี้เป็นปืนขนาด .๒๒ แคลิเบอร์ ใช้ลูกปืนขนาด .๒๒ แอลอาร์ ลำกล้องยาว ๓.๔ นิ้ว ราคาอยู่ที่ ๓๗๕ ดอลล่าร์สหรัฐ หรือ ประมาณ ๑๓๐๐๐ บาท ราคาขนาดนี้ถีือว่าไม่แพงจนเกินไป แต่ราคาในเมืองไทยน่าจะอยู่ที่ ประมาณ ๓๘๐๐๐ บาท จุดอ่อนของปืนรุ่นนี้อยู่ที่ศูนย์เป็นพลาสติคซึ่งอาจหลุดหายได้ เฟรมทำจากโพลิเมอร์ทำให้มีน้ำหนักเบา ลำกล้องสามารถถอดเปลี่ยนได้เป็นลำกล้อง ๕ นิ้ว


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Ruger Mk II .22





ลูเกอร์มาร็คทูได้ถูกผลิตมาขายในท้องตลาดตั้งแต่ปี 1982 จนกระทั่งปี 2005 เป็นรุ่นที่พัฒนามาจากรุ่น มาร์ควันทาร์เก็ต ซึ่งผลิตในระหว่างปี 1951 ถึง 1982 ตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมาลูเกอร์ก็ได้ผลิตมาร์คทรี ออกมาแทน ปืนพกสั้นของลูเกอร์ทั้งหมดใช้ลูกปืนแบบ .22 Long Rifle rimfire ความจริงปืนลูเกอร์รุ่นนี้มีสายพันธ์เริ่มต้นจากปืนพก Nambu ของญี่ปุ่นที่กองทัพบกและกองทัพเรือญี่ปุ่นใช้งานในสงครามโลกครั้งที่ ๑ และ ๒ ปืนลูเกอร์มาร์คทูผลิตโดยบริษัท Sturm Ruger & Co. เป็นปืนชนิด Semi automatic มีน้ำหนัก 46 ออนซ์ ซึ่งถือว่าเป็นปืนที่ค่อนข้างหนัก ปืนมีความยาว ๑๑ เศษ ๑ ส่วน ๘ นิ้ว บรรจุได้สิบนัดในแม็กกาซีน

ที่มาภาพปืนพก Nambu จากเว็ปไซต์http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/8/88/Nambupistol2465.jpg

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Kimber Ultra Covert II .45 ACP






Kimber Ultra Covert II .45 ACP ปืนออโตกระบอกนี้น่าจะเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบแนวผจญภัยด้วยโครงปืนอะลูมินัม

สีเขียวทหาร ประกับด้ามลายพรางตัดกับเลื่อนปืนเหล็กรมดำด้านดูสะดุดตา ปืนต้นแบบถูกทดสอบด้วยกระสุนมากกว่า

20,000 นัด ผ่านสบายๆ ด้วยน้ำหนักไม่รวมแม๊ก 7 นัด 25 ออนซ์ ความยาวลำกล้อง 4.75 นิ้ว ทำให้เจ้าของปืน

สามารถพามันไปได้ทุกที่ที่ต้องการ เครื่องศูนย์เป็นแบบ Tritium 3-dot night sight เพิ่มความมั่นใจในการเล็งมาก

ยิ่งขึ้น ไม่นับรวมเลเซอร์ที่ติดแถมมากับประกับ ด้ามปืน ใครที่เป็นสาวก Kimberไม่น่าพลาด


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ปืนพก Glock Model 30 SF




ปืน Glock Model 30 SF เป็นปืนพกสั้นขนาด .45 caliber สัญชาติออสเตรีย ซึ่งพัฒนามาจากปืน Glock Model 21 SF ตัวต่อท้าย SF หมายถึง โครงตัวปืนแบบสั้น หรือ ที่เรียกว่า short frame ดังนั้นจึงเป็นปืนสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างมิดชิด แต่สามารถชักออกมาใช้ยิงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำดังใจนึก แถมยังแรงเสียด้วย จากการทดสอบด้วยลูกปืนยี่ห้อ Federal .45 หัวกระสุนหนัก 230 grain Full metal Jacket Round Nose สามารถสร้างความเร็วต้นได้สูงถึง 762 ฟุตต่อวินาที ยิงเข้าเป้าหมายประเภทยิงหมดแม็กมีการกระจายไม่เกิน 2.5 นิ้วที่ระยะ 50 ฟุต ก็ลองคิดดูแล้วกันว่ามันแม่นยำแค่ไหน แต่หากใช้กระสุน Winchester .45 Auto หัวกระสุนหนัก 230 grain SXT Jacketed Hollow Point (+P) ยิงเข้าเป้าหมายที่ระยะ 50 ฟุต มีอัตราการกระจายไม่เกิน 2.75 นิ้ว ขนาดความยาว ๖.๗๗ นิ้ว สูง ๔.๗๖ นิ้ว เรียกได้ว่าเป็นปืนที่มีขนาดกระทัดรัดมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับปืนในยี่ห้อเดียวกัน ปืนมีความกว้าง ๑.๒๗ นิ้ว ความสูงของลำกล้อง ๑.๒๖ นิ้ว ความยาวของลำกล้อง ๓.๗๘ นิ้ว บรรจุลูกมาตรฐานได้ ๑๐ นัด ต้องใช้แรงกดที่ไก ๒.๕ กก. ระยะกดไก ๐.๕ นิ้ว เกลียวลำกล้อง ๑๕.๗๕ นิ้วต่อรอบ นอกจากนี้ปืนยังสามารถบ่งชี้ให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นได้ว่าขณะนั้นลูกปืนได้อยู่ในรังเพลิงหรือไม่ได้ด้วย


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปืนกลสั้น/ปืนกลเบา





ปืนกล Micro UZI เล็กกะทัดรัดเหมาะสำหรับซ่อนในเสื้อคลุม แต่อานุภาพไม่เล็กตามขนาดนะครับ
พรืดเดียวหมดแมก 30 นัด นอนจมกองเลือดแน่




มาต่อปืนกลต่อครับ หลังจาออกอ่าวออกทะเลไปปืนไรเฟิลซุ่มยิงเสียชิบ วันนี้ขอแนะนำปืนกลมือ Skorpion Vz61 ผลงานของโรงงานปืน CZ เจ้าปืนพก CZ 75 ที่หลายๆท่านใช้กันนั่นละครับ ใช้กระสุนขนาด7.65x17 mm. Browning (.32 ACP) ,9x18 mm. Makarov ,9x17mm Browning (.380 ACP) และ 9x19 mm. Luger ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Blowback มีความจุ 10/20 นัด อัตราการยิง 850 นัด/นาที




ปืนกลมือ Steyr TMP ใช้กระสุนขนาด 9x19 mm. Luger ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Blowback, locked breech, rotating barrel มีความจุ 15/30 นัด อัตราการยิง 800-900 นัด/นาที

ในช่วงที่มีการจัดงานแสดงอาวุธ บริษัท Steyr ก็ได้ส่งปืนกลรุ่นนี้มาแสดงด้วย เผื่อทางกองทัพหรือตำรวจจะพอใจในประสิทธิภาพ แต่ขอโทษครับเจอปืนกลมือของบริษัท H&K รุ่น MP5 เข้าไป ปืนกลมือ TMP ตกรอบไปทันทีเลย





ปืนกล FN P90 เป็นปืนแบบ Bullpup อีกแล้วครับ ใช้กระสุนขนาด 5.7x28 มม. ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Delayed blowback, closed breech มีความจุ 50 นัด อัตราการยิง 900 นัด/นาที ออกแบบโดยบริษัท Fabrique Nationale de Herstal แห่งเบลเยี่ยม





ปืนกลอันลือชื่อของบริษัท IMI แห่งประเทศอิสราเอล ปืนกล UZI ไงครับ แต่มันมี 3 รุ่นคือ รุ่นมาตรฐาน UZI ,Mini UZI และ Micro UZI ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ open-bolt, blowback มีความจุ 10 นัดสำหรับขนาด .22 LR และ .41 AE 16 นัดสำหรับขนาด .45ACP และ 20/32/40 และ 50 นัดสำหรับขนาด 9x19 mm. Parabellum อัตราการยิง 600 นัด/นาที
***ข้างบนรูปปืนกลมือ UZI พร้อมอุปกรณ์




ในรูป ปืน HK33KEA3 นะครับ
K : สั้น มาจากภาษาเยอรมันคำว่า Kurz
E : เป็นโค้ดบอกว่าปืนกระบอกนี้สามารถยิงแบบอัตโนมัติได้




ปืนกล H&K UMP45 ใช้กระสุนขนาด .45 ACP .40 S&W 9x19 mm. Parabellum ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Blowback, closed bolt มีความจุ 25 นัดสำหรับขนาด .45 และ 30 นัดสำหรับ .40 และ 9 มม. อัตราการยิง 600 นัด/นาที






ปืนกล H&K MP5/10 ครับ
จริงๆมันก็คือปืนกล MP5 นั่นละครับ แต่คราวนี้ขอเล่นของแรงหน่อยก็คือใช้กระสุนขนาด 10 mm. AUTO ของบริษัท Norma ประเทศ Sweden โดยมี FBI เป็นต้นคิดแต่ปัจจุบันหายสาบสูญไปจากสารบบอาวุธปืนแล้วครับเนื่องจากรุนแรง เกินไปและทำให้ปืนและกลไกสึกหรอเร็วมากด้วย ทำให้รุ่นที่ใช้กับระสุน 10 mm. AUTO เป็นหมันไป ปัจจุบันก็เลยเอามาใช้กับกระสุน .40 S&W ครับ มีอัตราการยิง 800 นัด/นาที ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Blowback, closed bolt มีความจุ 30 นัดครับ





ปืนกล H&K MP5A3 รุ่นนี้มีการปรับปรุงตรงส่วนพานท้ายจากแบบตายตัวเป็นแบบเลื่อนเข้าออกได้ พร้อมทั้งปรับตรงกระโจมมือให้ติดตั้งไฟฉายไปด้วยเลยไว้ใช้สำหรับการบึกเข้า ไปในที่แคบและมืดครับ ตั้งแต่รุ่น A3 เป็นต้นไปปืนกล H&K MP5 ก็ผลิตสำหรับใช้กับกระสุนขนาด 9x19 mm. Luger อย่างเดียวครับ





ปืนกล H&K MP5 Navy ผลิตและออกแบบมาเพื่อหน่วยซีลและนาวิกโยธินโดยเฉพาะ ทั้งน้ำหนักเบาทั้งอัตราการยิงที่สูงกว่าปกติ ดูๆไปก็คล้ายกับรุ่น A3 แต่ก็มีจุดต่างครับ ตรงที่กระโจมมือจะไม่มีแท่นไฟฉายมาให้ เพราะหน่วยพวกนี้จะเน้นการใช้แว่นอินฟราเรดในการปฏิบัติภารกิจเสียมากกว่า






ส่วนอันนี้ก็คือปืนกล H&K MP5K-PDW นั่นละครับ โดยเอามาซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเอกสารแล้วต่อสายสำหรับกดยิงไปที่ตรงด้านล่างหู หิ้ว เข้าใจทำจริงๆ








มาต่อที่ปืนกล MP5 แบบเก็บเสียงบ้าง ปืนกลรุ่นนี้เรียกว่า H&K MP5SD รูปร่างหน้าตามันก็คือปืนล MP5 ธรรมดานี่ละครับ แต่เอาไปปรับปรุงให้เป็นแบบมีที่เก็บเสียงติดตั้งตายตัวไปเลย เพราะถ้าเอาที่เก็บเสียงแบบติดตั้งภายนอกมาใส่ตัวที่เก็บเสียงจะเก็บเสียง ได้ไม่ดีพอครับ






ปืนกล H&K MP5K-PDW ครับ (PDW : Personal Defense Weapon) เป็นรุ่นน้องเล็กแต่รัวที่สุดในรุ่น MP5 ใช้กระสุน ขนาด 9x19 mm. Parabellum อัตราการยิง 900 นัด/นาทีครับ


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปืนกลระดับกลาง/ปืนกล-ไรเฟิลจู่โจม





ต่อมาผมขอขึ้นเรื่องปืนไรเฟิลจู่โจม (Assault Rifle) ของ H&K บ้างครับ อันแรกเลยปืน H&K G3 เป็นปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นเก๋า ใช้กระสุนขนาด 7.62x51 mm. NATO (.308 Winchester) ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Roller-delayed blowback ความจุ 20 นัด เป็นปืนยอดนิยมของหลายระเทศเลยโดยเฉพาะพวกประเทศตะวันตก
***G : Gewehr (เกอเวร์)= Gun ในภาษาอังกฤษครับ







ต่อมารุ่นน้องของปืน H&K G3 ก็คือปืน H&K 33 ครับ ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 mm. NATO (.223 Remington) ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Roller-delayed blowback ความจุ 20/25/30/40 นัด อัตราการยิง 750 นัด/นาที ส่วนของรุ่น G3 คือ 600 นัด/นาที
***ไม่รู้กองทัพไทยถูกใจอะไร ถึงได้ขอซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเองเสียงั้น ชอบมีปัญหาขัดลำกล้องตอนยิงจริงๆ ไม่เหมือนของแท้รุ่นแรกจากเยอรมันเลยให้ตายสิครับ




ต่อมาน้องรักของผม ปืน H&K G36 ครับ ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 mm. NATO (.223 Remington) ใช้ระบบ Gas-operated, Rotating bolt อัตราการยิง 750 นัด/นาที ความจุ 30 นัดสำหรับแมกกาซีนมาตรฐาน และ 100 นัดสำหรับแมกกาซีนแบบ C-Mag drum magazine






ปืน H&K G36C ครับ รุ่นนี้กองทัพไทยก็มีใช้กับเขานะเออ โดยเฉพาะหน่วยรบพิเศษได้เห็นแน่ครับ
C : Compact เป็นปืนที่ออกแบบมาสำหรับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มีขนาดสั้นกว่ารุ่นมาตรฐานครับ







ปืน H&K G36K รุ่นนี้สามารถพับพานท้ายได้ด้วยครับ






คราวนี้ผมจะไปต่อที่ปืนกลแล้วนะครับ ประเดิมกันที่ปืนกล H&K 21E ก่อน ใช้สายกระสุนขนาด 7.62x51 mm. NATO (.308 Winchester) ในการยิง ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Roller-delayed blowback อัตราการยิง 850 นัด/นาทีครับ






ปืนไรเฟิลจู่โจม Steyr AUG ของบริษัท Steyr ประเทศออสเตรียครับ ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 mm. NATO (.223 Remington) และ 9x19 mm. Luger สำหรับรุ่น AUG SMG ใช้ระบบ Gas-operated, Rotating bolt อัตราการยิง 650 นัด/นาที ความจุ 30 นัดสำหรับขนาด 5.56 มม. และ 42 นัดสำหรับ 9 มม.






ปืนไรเฟิลจู่โจม Enfield L85 ของกองทัพสหราชอาณาจักร(Great Britain)หรือกองทัพอังกฤษครับ ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 mm. NATO (.223 Remington) ใช้ระบบ Gas-operated, Rotating bolt อัตราการยิง 650 นัด/นาที ความจุ 30 นัด

ถ้าดูในข่าวเกี่ยวกับประเทศอิรักในช่อง CNN จะเห็นทหารของอังกฤษใช้ปืนกระบอกนี้ครับ เออลืมไปสำหรับปืน Steyr AUG เป็นปืนประจำกายของทหารออสเตรียนะครับ








ต่อมาก็ปืนไรเฟิลจู่โจม FAMAS ของกองทัพฝรั่งเศส ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 mm. NATO (.223 Remington) ใช้ระบบ Blowback อัตราการยิง 950 นัด/นาที ความจุ 25/30 นัด

ปืนไรเฟิลจู่โจมใน 3 กระบอกบนนี้ จะสังเกตได้ว่ามีการย้ายตำแหน่งของแมกกาซีนปืนมาอยู่ด้านหลังใกล้พานท้ายปืน ส่วนด้ามปืนกับชุดลั่นไกจะย้ายไปอยู่ด้านหน้า เพื่อเป็นการลดความยาวของตัวปืนลงครับ เราเรียกปืนลักษณะนี้ว่า Bullpup







คราวนี้ขอมาปืนประจำของผมหน่อย ปืน M16 ไงครับ เอาประเดิมเลย ปืน M16A1 ครับ พัฒนาต่อมากจากปืน AR-15 ของบริษัทอามาไลต์ (Armalite) โดยบริษัทโคลต์ (Colt Firearms ,USA) และฟาบริก นาซิอองนาล (Fabrique Nationale ,Belgium) ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 mm. NATO (.223 Remington) ใช้ระบบ Gas-operated, Rotating bolt อัตราการยิง 750 นัด/นาทีสำหรับรุ่น A1 และ 900 นัด/นาทีสำหรับรุ่น A2 ความจุ 20/30 นัดสำหรับแมกกาซีนมาตรฐาน และ 100 นัดสำหรับแมกกาซีนแบบ Drum
***รูปแรก ปืน M16 รุ่นแรกผลิตออกมาในปี 1965 ใช้ปลอกพรางแสงแบบ Duckbill ซึ่งเป็นเพราะยังออกแบบโดยใช้ปืน AR-15 เป็นหลัก






รูปแรก ปืน M16A1 ผลิตออกมาในปี 1967 ใช้ปลอกพรางแสงแบบ Bird cage รุ่นนี้นำมาประจำการในกองทัพบกสหรัฐฯ แทนที่ปืน M14A1 ส่วนปืน M16 จะประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ




ปืน M16A1 ติดปืนยิงลูกระเบิด M203 ครับ





ปืน M16A2 ต้องบอกก่อนนะครับว่ารุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับกับกระสุนแบบใหม่คือ M855 หรือ SS109 ซึ่งมาแทนที่กระสุนแบบ M193 ของเดิม และแก้ไขข้อผิดพลาดบางอย่างของรุ่น A1 ด้วย สำหรับรุ่น A2 จะมี 3 โหมดคือ Safe > Semi > Burst ซึ่งในรุ่น A4 ก็จะเป็นแบบนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนรุ่น A1 และ A3 จะเป็นแบบ Safe > Semi > Auto ครับ






ปืน M16A3





ปืน M16A4





ด้ามหูหิ้ว (Flat Top) ของปืน M16 รุ่น A3 และ A4 สามารถถอดออกเพื่อติดตั้ง Accessories ต่างๆได้ครับ







ยังไม่หมดครับ ปืนของ IMI แห่งอิสราเอลมีอีกเยอะ มาต่อกันที่ปืนไรเฟิลจู่โจมกาลิล (Galil Assault Rifle) อันลือชื่อของกองทัพอิสราเอล ที่แม้แต่แขกอาหรับยังขอยกนิ้วให้ในเรื่องความทนทาน+ความแม่นยำเลย

ปืน Galil เป็นการนำสุดยอดปืนไรเฟิลจู่โจม 3 อย่างมารวมกันคือ ระบบปฏิบัติการแบบ Gas-operated, Rotating bolt ได้มาจากปืน M16 ส่วนศูนย์เล็งได้แบบมาจากปืน H&K G3 และโครงปืนและระบบกลไกได้แบบอย่างมาจากปืน AK-47 มีความจุ 25 นัดสำหรับขนาด 7.62x51 mm. NATO และ 35 นัดสำหรับขนาด 5.56x45 mm. NATO อัตราการยิง 650 นัด/นาทีครับ เป็นปืนที่สามารถถอดเปลี่ยนลำกล้องโดยไม่ต้องดัดแปลงโครงปืนเพื่อให้ใช้ กระสุนอีกขนาดได้ครับ

Comment : ผมว่าปืนกาลิลนี่คือสุดยอดของปืนไรเฟิลจู่โจมแล้วครับ รองลงมาจากปืนอาก้า ผมว่ากองทัพไทยน่าจะขอซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเองน่าจะคุ้มค่ากว่าปืน HK33 เสียอีก



-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ปืนสในเปอร์ หรือ ปืนไรเฟิล (Sniper)




ผมจะมาต่อกันที่ปืนไรเฟิลซุ่มยิง (Sniper Rifle) กันบ้าง วันนี้ขอเริ่มของทางค่าย H&K แห่งเยอรมันก่อนนะครับ ปืนไรเฟิลซุ่มยิง H&K PSG-1 อันลือชื่อนั่นเอง เป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษทั่วโลกชอบใช้กัน เนื่องจากความสะดวกในการยิงซ้ำและความแม่นยำที่สูงมากในระดับ 1 MoA (MoA : Minute of Angle เป็นอัตราส่วนในการวัดความแม่นยำของปืนไรเฟิลครับ โดยเทียบจากระยะยิง 100 หลาเป็นหลัก อย่างของปืน PSG-1 นั้น 1 MoA ก็คือในการทดสอบยิงที่ระยะ 100 หลาทำกลุ่มกระสุนได้ 1 นิ้ว หรือที่ 200 หลาทำกลุ่มกระสุนได้ 2 นิ้วเป็นต้นไป ) แต่ราคาค่าตัวของแพงสมคุณภาพเลย กระบอกละ 12,000 US $ ครับ

ปืนไรเฟิลซุ่มยิง H&K PSG-1 ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Roller-delayed blowback เหมือนปืนไรเฟิลอื่นๆของค่าย H&K แต่ยิงอัตโนมัติไม่ได้นะครับ ยิงได้แต่แบบกึ่งอัตโนมัติ ใช้กระสุนขนาด .308 Winhester หรือ 7.62x51 mm. NATO ความจุ 5 นัดและ 20 นัดครับ






กระบอกต่อมา มันก็คือลูกหลานของปืน H&K PSG-1 กับปืน H&K G3 นั่นก็คือปืน H&K MSG-90 ครับ ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Roller-delayed blowback ใช้กระสุนขนาด .308 Winhester หรือ 7.62x51 mm. NATO ความจุ 5/20 นัดครับ





ปืน Walther WA 2000 เป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิงแบบ Bullpup ใช้กระสุนขนาด 7.62 x 51 mm. NATO ,.300 Winchester Magnum และ 7.5 x 55mm Swiss ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ semi-automatic, gas blowback ความจุ 6 นัดครับ






ปืน SVD Dragunov ใช้กระสุนขนาด .30 Rusian หรือ 7.62x54 mm. R (R : Rimmed กระสุนไรเฟิลแบบมีจานท้ายกระสุนยื่นออกมา) ใชระบบปฏิบัติการแบบ Gas operated, short stroke, rotating bolt ยิงได้แต่แบบ semi-automatic ความจุ 5/10 นัด ความแม่นยำ 2 MOA






หลังจากเล่นปืน SVD Dragunov ของกองทัพรัสเซียมาแล้ว เราจะมาเล่นปืนไรเฟิลซุ่มยิงของกองทัพอังกฤษบ้างนะครับ ผมขอแนะนำปืนไรเฟิลซุ่มยิง AW Covert (AW : Arctic Warfare) หรือ L96A1 นั่นละครับ ใช้กระสุนขนาด .308 Winhester (7.62x51 mm. NATO) ,.338 Lapua Magnum (8.60x70 mm.), .300 Winchester Magnum และ 7 mm. Remington Magnum ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Bolt-action ความจุ 10 นัด ความแม่นยำ 0.5 MOA ครับ






ปืนไรเฟิลซุ่มยิง SIG SG550 ของกองทัพสวิสเซอร์แลนด์ครับ ใช้กระสุนขนาด 5.56x45 mm. NATO (.223 Remington) ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Gas operated, rotating bolt ความจุ 5/20/30 นัด






ปืนไรเฟิลซุ่มยิง M21 ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ดัดแปลงมาจากปืนไรเฟิลจู่โจม M14 เพื่อใช้ในภารกิจซุ่มยิงในสงครามเวียดนาม ใช้กระสุนขนาด .308 Winhester (7.62x51 mm. NATO) ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Gas-operated, rotating bolt ยิงได้แต่แบบกึ่งอัตโนมัติ ความจุ 20 นัด





ต่อมาขอเล่นของแรงกันหน่อย ปืนไรเฟิลซุ่มยิง Barrett M82 หรือชื่อเล่นคือ \\\"Light Fifty\\\" นิยมนำมาใช้ในภารกิจซุ่มยิงขบวนรถหรือบุคคลสำคัญ ที่ชอบนั่งรถหุ้มเกราะหรือเฮลิคอปเตอร์ ใช้กระสุนขนาด .50 BMG (BMG : Browning Machine Gun) หรือขนาด 12.7×99 mm. NATO ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ Short Recoil, Semi-Automatic ความจุ 10 นัด ความแม่นยำ 1.5-2 MOA







ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Barrett Firearms สหรัฐอเมริกาเป็นปืนซุ่มยิงที่ประจำอยู่

ในหลายหน่วยงานทางทหารทั่วโลกและ เข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามหลายครั้งแล้ว


มันเป็นปืนซุ่มยิงที่มีระบบกลไกกึ่งอัตโนมัติ มีรังเพลิงขนาดใหญ่ที่ใช้กับ

ลูกกระสุนความเร็วสูงขนาด 50 มิลลิเมตร ที่มีอำนาจการทำลายสูงมากที่สุด

ในกลุ่มปืนซุ่มยิง ด้วยประสิทธิภาพการยิงที่แม่นยำที่ระยะ 1,500 เมตร รวมทั้งสถิติ

การยิงที่ระยะ 2,500 เมตร กระสุนที่มีพลังงานสูงมีประสิทธิภาพมากเกินพอที่จะยิง

เพื่อหยุดยั้งการ เคลื่อนของเป้าหมายที่มีการหุ้มเกราะ สามารถปฎิบัติการต่อเป้าหมาย

ที่สำคัญ เช่น หอควบคุมเรดาห์ รถบรรทุก รถสายพานลำเลียงพล หรืออากาศยานที่บิน

ในระดับต่ำ กล่าวกันว่าแม้กระสุนของมันจะกระทบเป้าอย่างจังไปแล้วก็ตามก็ไม่อาจ

ได้ยิน เสียงปืนเนื่องจากการยิงมาจากระยะที่ไกลกว่าปืนไรเฟิลซุ่มยิงทุกชนิดที่มี


ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปืนยิงระเบิด






\\\'Airburst XM25 , ปืนยิงลูกระเบิดที่มีประสิทธิภาพสูงการออกแบบปืนยาวจะยิง 25 มม. ระเบิด ระเบิดเหล่านี้สามารถกำหนดให้ระเบิดกลางอากาศหลังจากทียิงออกไปแล้ว




ขอบเขตและไฟอินฟราเรดกับการควบคุมระบบไฟที่ แบบไร้สายส่งผ่านช่วงที่แน่นอนของที่ใช้ในการหลอมรวมของรอบ .... ที่ 25mm ก่อนยิง . ดังนั้นทหารสามารถมุ่ง XM25 ไปที่ผนังปกปิดซุ่มยิง หรือปรับระยะทางโดย (+/-) 3 เมตรสูงกว่าเป้าหมาย เมื่อใช้แฟลช, รอบจะระเบิดเหนือตำแหน่งของศัตรู

ระบบกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาโดย Heckler & Koch และ Alliant Techsystems (ATK) การได้มากำหนดเป้าหมายการควบคุมไฟ / ได้รับการพัฒนาโดย L - 3 IOS Brashear

SPECIFICATIONS

-- ขนาด : Low ความเร็ว - 25 x 40 มม. ลูกระเบิดมือ
-- Range : 500 เมตร (1,640 ฟุต) จุด, พื้นที่ 700 เมตร (2,296 ฟุต)
-- การทำงาน : Gas ดำเนินการกึ่งอัตโนมัติ
น้ำหนัก System -- : 14 ปอนด์ (6.35 กก. )
-- สายตากับความร้อน 4x ซูม
-- สายตาดู 2x แสงโดยตรง
-- Ballistic คอมพิวเตอร์
-- เข็มทิศดิจิตอล
-- Laser rangefinder
-- ตัวตั้งสายชนวนกระสุน
-- น้ำหนักเบาวัสดุคอมโพสิต












---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


เอ็ม79 (M79) ปืนยิงระเบิดที่ใช้ในการสงคราม












ปืนเวอร์ชั่น : M79 บริษัท : COLT ประเทศ : USA
กระสุน : 40MM
ระบบปฏิบัติการ : BREAK OPEN
บรรจุกระสุน : 1 นัด
ระยะหวังผล : 150-350 เมตร
น้ำหนัก : 2.7 Kg - 3.0 Kg
ฟังก์ชัน : กล้อง ZOOM ระยะกลางถึงไกล , ศูนย์เลเซอร์ , ไฟฉาย

ประวัติ

ปืนยิงระเบิด M79 เป็นอาวุธสงครามที่เคยใช้ในการทำสงครามเวียดนามมาก่อน
เเล้วถูกพัฒนามาจากสงครามเวียดนามด้วย ผู้ออกแบบ Springfield Armory โรงงานผลิต Colt สัญชาติอเมริกา

จำนวนการผลิต มากกว่า 350,000 เเล้ว (เฉพาะกองทัพอเมริกา)

M79 เป็นอาวุธได้รับความนิยมกับพวกทหารเเละกองทัพต่างๆ ซึ่งไว้ใช้สนับสนุนกับยานพาหนะพวกรถถังโดยเชพาะ มีน้ำหนักที่คล่องตัวดีไม่หนักเกินไป ระดับปานกลาง ระยะหวังผล 150 เมตร ระยะยิงไกลสุด 350 เมตร บรรจุกระสุน 1 นัด วิธีการใส่กระสุน คือ จะต้องหักลำปากกระบอกปืนลงก่อน รูปแบบการหักลำคล้ายลูกซองแฝดน่ะคับ เเล้วค่อยใส่กระสุน 40 MM เข้าไปในปากกระบอกด้านหลังปืนที่เราหักลำน่ะคับ ซึ่งจะมีรูให้ใส่ข้างหลังปากกระบอกปืนน่ะ มีความเร็วในการยิงประมาณ 10 กว่าฟุต/วินาทีได้มั้ง กว่าจะถึงเป้าหมายน่ะ

ปืน M79 ใช้กระสุนหลายเเบบมากเดี๋ยวจะเเนะนำที่รู้จักเเล้วน่าสนใจเเล้วกัน มีดังนี้

GRENADE : เป็นกระสุนระเบิดธรรมดาซึ่งมีอานุภาพในการทำลายล้างสูงมาก มีรัศมีการทำลาย 5 เมตร

RIOT : เป็นกระสุนส่องเเสงบอกตำเเหน่งเป้าหมายเเละตัวของเรา เหมือนเป็นพลุส่งสัญญาณยังใงยังงั้น เเต่ถ้าเป้าหมายโดนกระสุนชนิดนี้ยิง จะเกิดอาการตาพล่าชั่วคราว คล้ายๆระบิดเเสงนี้เอง

NAPALM : อาวุธเคมีที่มีอำนาจทำลายรุนแรงที่สุด คือ ระเบิดนาปาล์ม เป็นระเบิดเพลิง มีรัศมีการเผาผลาญ 5 เมตร เป็นระเบิดความร้อน นำมาใช้รุนแรงในเวียตนาม เรียกว่าอยู่ในรูในเลี้ยวก็ไหม้หมด อุณหภูมิโดยรอบจะสูงมากถึง 1000 - 2000 องศาเซลเซียส ซึ่งมีอานุภาพในการเผาผลาญเเละลุกไหม้สูงมากๆ แผลไฟไหม้ที่ผิวหนังจะทำลายเนื้อเยื่อ จนถึงกระดูก จะแผ่ คาร์บอนมอน็อกไซด์ ออกไปโดยรอบ เป็นพิษไปถึงบรรยากาศชั้นบน ถ้าเทียบกับ ระเบิดอื่นที่มีผลทั้ง blast damage, fire damage, radiation damage และอื่น ๆ อย่างปรมาณู นาปาล์มจะมุ่งเรื่องไฟและความร้อน นาปาล์มเหมาะกับข้าศึกที่รวมอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน ทั้งในที่โล่ง บังเกอร์ เปลวไฟที่เเตกกระจายออกไปมีสภาพเป็นวุ้นลูกไฟ มันจึงชอนไชเข้าไปได้ตามซอกหลืบต่างๆ ผลเสียหายที่ตามมา คือ เกิดการย่างสดต่อสิ่งมีชีวิตเเละรวมถึงอาวุธยุทธโธปกรณ์ทั้งหลาย นาปาล์มจึงเหมาะสำหรับหย่อนใส่ข้าศึกใน ซอกหลืบ บังเกอร์ บริเวณชง่อนเขา เป็นต้น

CHEMICAL : เป็นกระสุนเคมี พวกระเบิดเเก๊สหรือก๊าซ ระเบิดเชื้อโรค สารพิษ กัมมันตภาพรังสี เเต่กระสุนเคมีส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นเเก๊สโดยส่วนใหญ่น่ะ กระสุนเเก๊สพิษมีหลายชนิด

BUCKSHOT : เป็นกระสุนลูกปรายเหมือนกระสุนลูกซอง BUCKSHOT เเต่ความเเตกต่างของมันคือ มันจะบรรจุลูกปรายเหล็กหรือลูกปรายตะกั่วมากขึ้น 2 เท่า เนื่องจากใช้กระสุนขนาด 40 MM จึงบรรจุลูกปรายได้มากกว่า 12 MM พลังทำลายจึงเลยสูงมากขึ้น 2 เท่า ซึ่งเเรงกว่ากระสุนลูกซองน่ะ ระยะหวังผลเเค่ 50 - 70 เมตร เท่านั้น

SMOKE : เป็นกระสุนควันรัศมีประมาณ 5 เมตรได้ ซึ่งจะมี 3 สีให้ใช้ คือ สีเขียว เเดง เหลือง ใช้สำหรับอำพลางหนี ป้องกันตัวจากการถูกข้าศึกโจมตีเป็นกลุ่ม เเล้วยังใช้บอกตำเเหน่งที่อยู่ของตัวเราได้ด้วยน่ะ

CLUSTER : เป็นกระสุนระเบิดดาวกระจายหรือกระสุนระเบิดลูกปราย เมื่อยิงลูกกระสุนพุ่งออกมา ซึ่งถูกยิงให้ควงสว่านเหมือนกระสุนปืน เมื่อได้ระดับที่พอเหมาะ เปลือกของระเบิดจะเเยกตัวออกมาประมาณ 5 -6 ลูกได้ ลูกปรายจากลูกภายในจะถูกเหวี่ยงออกมาด้วยเเรงหนีศูนย์ สามารถทำลายเป้าหมายในวงกว้างได้

H.E : เป็นกระสุนระเบิดฮีเลี่ยม หรือระเบิดเเรงสูง HIGH EXPLOSIVE มีพลังทำลายล้างสูงมากถึง 6 เมตรได้ อำนาจในการทำลายล้างจะสูงกว่าระเบิด GRENADE อีกน่ะ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปืน Raketenpanzerbuchse(Panzerchrek)







เมื่อเยอรมันสามารถยึดปืนบาซูก้าจากอเมริกาได้ในศึกที่ตูนีเซีย ในปี 1943 วิศวกรของเยอรมันก็วิเคราะห์และลอกแบบปืนบาซูก้า โดยทันที ในไม่ช้าเยอรมันก็มีปืนต่อสู้รถถังก็คือRaketenpanzerbuchse 43 มันมีชื่อเล่นๆว่าPanzerchrekโดยจะยิงจรวดขนาด3.46นิ้วและมีระยะ หวังผลกว่า 160 หลา จากนั้นมันก็เป็นฝันร้ายของเหล่าผู้บังคับรถถังฝ่ายพันธมิตรจนต้องมีการเสริมเกราะเพื่อที่จะรับมือกับมัน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

. ปืน Panzerfaust








อาวุธทุกฝ่ายนาซีใช้ต่อต้นรถถังโดยการยิงลูกระเบิดใส่รถถังหรือยานหุ้มเกราะมีอำนาจในการทำลายสูงแต่ไม่เหมาะกับการยิงใส่บุคคล และสามารถยิงได้แค่ครั้งเดียวแต่ปืนนี้ก็เป็นต้นแบบให้ปืนต่อสู้รถถังแบบ RPG-2 หรือ RPG-7

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ประมวลผลรูปปืนชนิดต่างๆ



















































สำหรับคราวหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น \\\"โปรดติดตามตอนต่อไปนะครับ\\\"