ผีสาวในหอพัก

First Post Last Post  
defjam 15 กันยายน 2553 , 06:35:19



พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรทำให้ดิฉันรู้สึกกลัวและขนลุกตลอดเพราะภาพมันติดตาไม่ มีวันลืม ในขณะที่ดิฉันเรียนอยู่ปีสุดท้าย ของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2534 ดิฉันต้องแยกออกมาเช่าหออยู่ตามลำพัง เพราะเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกันและเช่าบ้านรวมกันอยู่นั้น เขาเรียนจบออกไปก่อน คือดิฉันได้หยุดพักการเรียนไว้ตอนปี 1 เทอม 2 เนื่องจากต้องไปเตรียมสอบเอนทรานซ์ใหม่ จึงทำให้เรียนช้าและจบหลังเพื่อน


ดิฉัน เลยมาเช่าหอพักที่อยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัย เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปเรียนและก็ได้มาอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งเป็นหอ พักไม่ใหญ่มาก (ปัจจุบันยังคงเปิดกิจการอยู่) มีห้องพักจำนวน 26 ห้อง ดิฉันได้มาอยู่ห้องที่ 21 เจ้าของหอพักเป็นคริสเตียนและพักอยู่ชั้นล่าง ดิฉันมาอยู่จนคุ้นเคยกับคนในหอพัก ตอนเย็นๆ ก็มักจะเดินออกมาคุยและกินข้าวด้วยกันตรงระเบียงด้านหน้าซึ่งทำเป็นที่นั่ง เล่น


มีวันหนึ่ง ดิฉันนั่งคุยกับเพื่อนอีก 2-3 คน หนึ่งในนั้นชื่อ แวว ซึ่งเป็นคนคุยสนุก คุยได้ทุกเรื่อง แววคุยว่า เขาไม่กลัวผี ไม่เชื่อด้วยว่าในโลกนี้จะมีผี และบอกว่าถ้าโลกนี้มีผีจริง ให้แสดงออกมาให้เห็นด้วย ซึ่งตอนที่พวกเราคุยกันนั้นก็เป็นช่วงหัวค่ำ กำลังโพล้เพล้พอดี


ทันใดนั้นพวกเราก็ต้องตกใจ เพราะประตูหน้าห้องของแววปิดเองเสียงดังลั่น แล้วก็เด้งเปิดออก เหมือนมีใครผลักแรงๆ ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีใครอยู่ และไม่มีลมพัดด้วยทำให้พวกเรากลัวกันมาก และแววที่เป็นเจ้าของห้องเองก็ตกใจและยังพูดว่าเขาไม่น่าลบหลู่เรื่องผีเลย

ตั้งแต่ นั้นมา แววก็กลายเป็นคนเงียบๆ เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ออกมาคุยกับพวกเราเหมือนเมื่อก่อน ส่วนดิฉันซึ่งเป็นคนกลัวผีมากอยู่แล้ว ตั้งแต่เจอเหตุการณ์นั้นถึงกับต้องเปิดไฟนอนทุกคืน อีก 2 วันต่อมา เพื่อนชื่อ ป๋อง ที่พักอยู่ชั้นล่างในหอเดียวกัน (หอพักมี 2 ชั้น) ก็ร้องเสียงดังและวิ่งออกมาจากห้องตอนเช้ามืด ทำให้เราชาวหอพักตกใจตื่นและวิ่งออกมาดู ป๋องบอกว่า มีผู้หญิงสวย ผมยาว ใส่เสื้อแขนกระบอกสีเทา มาปลุกเขาให้ตื่นไปเรียนหนังสือ พอหายตกใจถึงได้วิ่งออกมาจากห้อง ยิ่งได้ฟังป๋องเล่า ทำให้พวกเราชาวหอยิ่งกลัวไปกันใหญ่ พวกที่ชอบออกเที่ยวตอนกลางคืนก็ไม่กล้าออกไปเที่ยวกันแล้ว ส่วนคนที่มีนัดไปติวข้างนอกก็ไม่กล้าจะกลับมาตอนดึกๆแล้ว ก็อาศัยนอนค้างกับเพื่อนไปเลย 2 เดือนต่อมา เจ้าของหอพักก็ขาย กิจการหอพักให้คนอื่นไป โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งๆ ที่เจ้าของหอพักมีความสนิทสนมกับเด็กที่มาเช่าหอพักทุกคน แต่พวกเราก็ยังคงพักที่หอนั้นต่อ เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบกันแล้ว เลยไม่อยากย้ายของ และเจ้าของคนใหม่ก็เข้ามาดูแลกิจการต่อทันที


คืน วันหนึ่ง ดิฉันก็เจอดีจนได้ หลังจากที่หลายๆ คนเขาเจอกันมาหลายคนแล้ว วันนั้นเป็นคืนวันศุกร์ ดิฉันตั้งใจว่า พรุ่งนี้วันเสาร์จะขอตื่นสายสักวัน เพราะเรียนหนักมาทั้งอาทิตย์แล้ว และอาทิตย์นี้ไม่ต้องกลับบ้านต่างจังหวัดด้วย ดิฉันก็เปิดไฟนอนเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา


พอเวลาประมาณตี 3 กับ 15 นาที ดิฉันก็ต้องตกใจตื่น เพราะมีผู้หญิงสวย ผมยาว ใส่เสื้อแขนกระบอกสีเทา มานั่งก้มหน้าอยู่ข้างเตียงดิฉัน
ดิฉัน ตกใจมาก รู้สึกเหมือนตัวเอง ตัวหนักอึ้ง ขยับเขยื้อนตัวก็ไม่ได้ ได้แต่นอน กัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ และพอขยับตัวได้ ก็เลยหยิกแขนตัวเองว่าไม่ได้ฝันไป เหลือบตาไปดูนาฬิกา ก็ยังเป็นเวลาตี 3 กว่าๆ อยู่เลย แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงนั่งอยู่จนดิฉันต้องหลับตา เพราะไม่อยากมองเธอ ดิฉันหลับตาไปสักพักนึง จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่ ทีนี้ดิฉันก็ยิ่งช็อกกว่าเดิมเพราะร่างของเธอค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากพื้นช้าๆ จนอยู่ในท่านั่งพับเพียบ เรียบร้อยดิฉันรีบหลับตา แต่ก็ค่อยๆ หรี่ตาดูว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไป ปรากฏว่าร่างเธอค่อยๆ เลื่อนหายลงสู่พื้นห้อง เธอทำแบบนี้ถึง 3 ครั้ง แล้วก็หายไปสักพักหนึ่ง ดิฉันตั้งสติได้ ก็เลยรีบหยิบสร้อยพระที่อยู่หัวเตียงออกมา แล้วรีบลุกขึ้นนั่งไหว้พระสวดมนต์และแผ่เมตตาให้เธอ เพราะดิฉันคิดว่ายังไงเธอต้องเป็นผีแน่นอน ก็ห้องดิฉันนั้นล็อกแน่นหนา คงจะไม่มีคนเข้ามาได้แน่ๆ จากนั้นดิฉันก็ไม่สามารถจะนอนต่อได้ เพราะกลัวว่าเธอจะมาอีก


ดิฉันนั่งอยู่จนถึงเช้า แล้วก็รีบวิ่งออกมาจากห้องไปเคาะประตูห้องเพื่อนที่อยู่ห้องติดๆ กัน ถามเขาว่าเคยเจอเหมือนที่ดิฉันเจอหรือเปล่า แต่เขาไม่เจอ เขายังถามดิฉันว่าฝันไปหรือเปล่า ดิฉันบอกไม่ได้ฝันยังดูนาฬิการู้เวลาด้วย และยังกัดปากตัวเองจนเป็นแผล หยิกแขนตัวเองจนเจ็บเพื่อให้ แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไปด้วย


พอตอนสาย ดิฉันก็เลยโทรศัพท์ กลับไปบ้าน เล่าให้พ่อกับแม่ฟัง พ่อกับแม่ก็ไปหาร่างทรงให้เขานั่งทางในดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอรู้เรื่องเท่านั้นแหละ พ่อกับแม่ก็ขับรถมารับที่หอพัก และบอกว่าไม่ให้ดิฉันอยู่ที่นี่อีกแล้ว ดิฉันต้องย้ายหอพักด่วนวันนี้เลยเพราะผีผู้หญิงคนนั้นจะขอมาอยู่กับดิฉันที่ ห้องด้วย เพราะเธอไม่มีที่อยู่


แม่เล่าเรื่องของเธอที่ร่างทรงดู ให้ว่าตอนที่เธอเป็นคน เธอถูกข่มขืนและถูกฆ่าตายอยู่บริเวณนี้ ทำให้วิญญาณของเธอยังมาวนเวียนอยู่แถวหอ ไม่ได้ไปผุดไปเกิดเสียที ตอนสร้างหอพักแห่งนี้ เจ้าของหอเดิมที่เป็นคริสเตียน ก็ไม่ได้ทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่ด้วยและที่เธอมาหาดิฉัน ก็เพราะดิฉันจิตไม่แข็งนั่นเอง


เป็นอันว่า ดิฉันต้องย้ายห้องพักในวันนั้นเลย เงินประกันก็ไม่ได้คืน เพราะเราไม่ได้แจ้งออกล่วงหน้า ดิฉันย้ายมาอยู่หอพักกับเพื่อนอีกที่หนึ่ง และยังไงดิฉันก็จะไม่ยอมอยู่คนเดียว เพราะกลัวเจอเรื่องแบบเดิมอีก จากนั้นดิฉันก็ได้ไปทำบุญ ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลให้ผีสาวตนนั้นด้วย โดยร่างทรงได้บอกชื่อผีผู้หญิงตนนั้นมา และย้ำว่า ให้กล่าวด้วยว่าอุทิศส่วนกุศลให้เธอ อย่าได้มารบกวนกันอีกเลย


ตั้งแต่ นั้นมา ดิฉันก็ไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนั้นอีกเลย ส่วนเจ้าของหอพัก พอรู้เรื่องที่ดิฉันเจอ เขาก็เลยทำพิธีเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทางและตั้งศาลเจ้าที่ ศาลพระภูมิขึ้น เพื่อจะได้เป็นที่เคารพสักการะของชาวหอ เพราะคนพักส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ


กระทั่ง ดิฉันเรียนจบ มีงานทำแล้วและได้มีโอกาสได้ไปเจอเจ้าของหอพักคนเดิม ที่เป็นชาวคริสเตียน ดิฉันจึงเล่าเหตุการณ์ที่ดิฉันเจอให้เขาฟัง ซึ่งเขาก็ได้เล่าว่า ที่เขาต้องขายหอพักก็เพราะว่าเขาเจอเหตุการณ์เหมือนกับที่ดิฉันเจอมานั่นเอง


ผี สาวตนนั้นจะมายืนชี้หน้าเขาเกือบทุกคืน เหมือนโกรธแค้นมานาน เขากลัวมาก เลยต้องขายหอพักไป ทั้งๆ ที่ผูกพันกับหอนี้มาก และก็ไม่กล้าเล่า ให้ใครฟังเพราะกลัวว่าจะไม่มีใครมาเช่าหอพัก


ปัจจุบันหอพักแห่ง นี้ ก็ยังมีคนเช่าอยู่เต็ม โดยเฉพาะห้องที่ 21 ซึ่งเป็นห้องที่ดิฉันเคยอยู่เป็นห้องริมสุดไม่ค่อยมีคนเดินผ่านจะสงบเงียบ คนจึงชอบมาอยู่ห้องนี้กันมาก และตอนนี้เจ้าของใหม่เขาก็ขยาย กิจการออกไปอีก โดยซื้อหอพักในบริเวณเดียวกันนี้เพิ่มขึ้น ทำเป็นหอพักขนาดใหญ่ ซึ่งกิจการก็เจริญรุ่งเรืองดี มีนักศึกษามา เช่าพักอยู่ตลอด.

เรื่อง นี้ เป็นเรื่องที่ดิฉันเจอมาจริงๆ ดิฉันเลยเขียนมาเล่าสู่กันฟัง แม้ว่าเหตุการณ์มันจะผ่านมาแล้ว แต่พอนึกถึงทีไร ก็ยังรู้สึกกลัวและขนลุกตลอด เพราะภาพมันติดตา ไม่มีวันลืม