[นิยายเขียนเองฮับ] ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief ...

First Post Last Post  
chanecrood 06 กันยายน 2553 , 13:23:47
................chanecrood Production............พยายามร่วมมือกับ.............บอร์ดเกมแม็ก..........ภูมิใจยัดเยียดเสนอ..........
................นิยายแฟนตาซี(รึเปล่าน่ะ )............ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave)

*หมายเหตุ*ทุกอย่างภายในนิยายเรื่องนี้ถูกแต่งขึ้นตามความคิดของผู้เขียนเองทั้งตัวบุคคล สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ และถ้ามีตัวบุคคล สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆไปตรงกับความเป็นจริงผู้เขียนจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น (อาวเฮ้ย ไหงเป็นงั้นอ่ะ)


...............ความเชื่อและกล้าหาญ (Belief and Brave)..................

...............ความเชื่อ(Belief)เป็นจุดเริ่มต้นให้กับในหลายๆสิ่งโดยส่งผ่านไปทางความกล้าหาญ(Brave) กล้าที่จะทำทุกสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้และพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้เป็นจริงตามความเชื่อนั้น...............

...............Chapter 1 บทแห่งการท้าทาย
................ณ ดินแดนที่ถูกเรียกว่า โซเดีย ตลอดเวลาหลายร้อยปีเหล่าอาณาจักรต่างๆพากันรบพุ่งเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง บางอาณาจักรล้มสลายถูกดูดกลืนหายไปบางอาณาจักรเติบโตยิ่งใหญ่จนวันเวลาผ่านมาถึงปีโซเดียที่ 550 ทั้งดินแดนหลงเหลือเพียง 3 อาณาจักรใหญ่ คือ อควอเรียส , ซาจิทาเรียส และ แอเรียส ทั้ง 3 อาณาจักรมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไปโดยอาณาจักรซาจิทาเรียสจะเด่นเรื่องกองกำลังทหารพลธนูและอุดมไปด้วยสรรพยากรต่างๆ อาณาจักรแอเรียสจะเด่นเรื่องกองทหารติดอาวุธและเต็มไปด้วยยอดฝีมือในเชิงอาวุธอยู่มากมาย ส่วนอาณาจักรอควอเรียสจะเด่นเรื่องศาสตร์ของเวทมนตร์และวิทยาการณ์ความรู้ ด้วยความแตกต่างนี้ทำให้การสู้รบยังคงดำเนินอยู่จนมาถึงปีโซเดียที่ 570 ราชาแอ็คเซียลแห่งอาณาจักรอควอเรียสก็ได้ทำการรวบรวมดินแดนของโซเดียให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จด้วยพลังเวทมนตร์ของเหล่ามหาเวททั้ง 4 ของอาณาจักร......แต่ความสำเร็จนั้นอยู่กับราชาแอ็คเซียลได้ไม่นานนักเขาจะถูกลอบสังหารลงทำให้อำนาจทั้งหมดตกไปอยู่ที่เจ้าหญิงองค์น้อยที่ชื่อว่า เอลิเซีย แต่ด้วยอายุเพียง 8 ปีทุกอย่างมันหนักเกินกว่าเจ้าหญิงองค์น้อยจะรับภาระไหวอำนาจจึงถูกส่งมายังอุปราช โดมิเนท อดีตมหาเศรษฐีของอาณาจักรที่คอยให้การสนับสนุนราชาแอ็คเซียนในการรวบรวมดินแดนมาโดยตลอดจนได้รับการไว้วางใจและได้รับการแต่งตั้งเป็นอุปราชในที่สุด โดมิเนทที่ครองอำนาจสูงสุดเอาไว้ย่อมเล็งเห็นถึงคำครหาที่จะตามมาจึงจัดตั้งระบบสภาสูงมาบริหารอำนาจที่มีโดยผ่านตัวแทนทั้ง 5 ประกอบด้วยบุคคล 5 ฝ่าย คือ ฝ่ายราชสำนัก , ฝ่ายของเหล่ามหาเวท , ฝ่ายของกองทัพ , ฝ่ายของนักปราชญ์และฝ่ายของประชาชนทั่วไป ทุกเรื่องจะต้องผ่านการตัดสินใจจากสภาสูงแห่งนี้จึงเป็นยอมรับให้แก่ทุกฝ่ายแต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงภาพรูปสวยหรูที่ถูกฉาบเอาไว้บังหน้าเท่านั้นเอง
.................เมื่อโซเดียถูกรวบรวมเป็นหนึ่งเหมือนกับว่ายุคสงครามนั้นได้จบลงเพียงเท่านั้นแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเหล่าอาณาจักรที่ล้มสลายไปได้รวมตัวเป็นกองกำลังต่อต้านอาณาจักรอควอเรียสที่นำโดยผู้สืบทอดแห่งซาจิทาเรียสและแอเรียสเป็นแกนนำ ดังนั้นสงครามในดินแดนโซเดียก็ยังคงดำเนินต่อไป.....

.................ปีโซเดียที่ 580 บริเวณตอนใต้ของดินแดนซึ่งเป็นอดีตพื้นที่ของอาณาจักรซาจิทาเรียส กองทัพของอควอเรียสกำลังเปิดศึกกับกองกำลังต่อต้านเพื่อยึดพื้นที่คืนแต่ในศึกครั้งนี้จะหนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้ง กองทัพที่นำโดย บาสเทีย 1 ในแม่ทัพใหญ่แห่งอควอเรียสกำลังถูกกองกำลังต่อต้านรุกไล่อย่างหนักแต่ท่ามกลางการรุกไล่ก็ยังมีทหารหนุ่มคนหนึ่งอายุราว 20 เศษยืนหยัดต่อสู้ด้วยฝีมือดาบอย่างไม่เป็นรองและระหว่างที่กำลังต่อสู้อยู่นั้นทหารหนุ่มก็หันไปเห็นบาสเทียที่ได้รับบาดเจ็บกำลังล่าถอยออกมาโดยมีทหารอีก 3 คนคอยคุ้มกันอยู่แต่ว่าไม่นานนัก.....
................ ฉึก ! ฉึก! ฉึก!
ทหารคุ้มกันทั้ง 3 ก็ถูกลูกธนูที่พุ่งแหวกอากาศมาด้วยความเร็วสูงโจมตีเข้าใส่จนร่างของทหารทั้ง 3 ลอยลิ้วออกไปส่วนบาสเทียล้มลงกระแทกพื้นอย่างจังทำให้กองกำลังต่อต้านที่อยู่โดยรอบเห็นเข้าจึงต่างหันอาวุธพุ่งเข้าใส่บาสเทียทันที ทหารหนุ่มเห็นท่าไม่ดีจึงยอมละทิ้งตำแหน่งกระโดดพุ่งตัวออกไปช่วยบาสเทียในทันทีเช่นกัน ทหารหนุ่มคนนั้นกระโดดลงมายืนอยู่ตรงหน้าของบาสเทียจากนั้นก็หมุนตัวพร้อมกับฟาดดาบไปโดยรอบ
.................ตึง!
พลังดาบกระแทกใส่กองกำลังต่อต้านที่อยู่โดยรอบจนกระเด็นกระดอนออกไปทั้งหมด...แต่หลังจากนั้นไม่นานบาสเทียก็พูดขึ้นมาทันทีว่า
“ ระวัง !”
มีลูกธนูกำลังพุ่งตรงมาที่ทหารหนุ่มอย่างรวดเร็ว
................ตึง! เพล้ง!
ทหารหนุ่มยกดาบขึ้นมาป้องกันได้ทันเวลาพอดีแต่พลังของลูกธนูก็ทำให้เขาต้องกระเด็นหลังไปแถมดาบที่ใช้ก้หักคามืออีกด้วย บาสเทียหยิบดาบประจำกายโยนไปให้กับทหารหนุ่มคนนั้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ ใช่นี่ทหาร ! ระวังตัวด้วยลูกธนูนั้นคงเป็นฝีมือของ อัทเมน ทายาทแห่งซาจิทาเรียสแน่ ”
ยังไม่ทันขาดคำก็มีลูกธนูพุ่งตรงเข้ามาอีก 3 ดอกจาก 3 ทิศทางทั้งซ้ายขวาและด้านหน้า ทหารหนุ่มรีบคว้าจับดาบเอาไว้และฟาดดาบสกัดลูกธนูที่พุ่งเข้ามาทันที
................ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
แม้จะสกัดลูกธนูเอาไว้ได้แต่ลูกธนูยังคงมีพลังเหลือมากพอที่จะทำร้ายผู้คนที่อยู่โดยรอบ ทหารหนุ่มเริ่มตระหนักแล้วว่าอีกฝ่ายต้องเป็นมือธนูชั้นเยี่ยมจึงตั้งท่าพร้อมสู้เต็มที่ส่วนอีกฝ่ายอัทเมนเองก็เริ่มสัมผัสถึงความท้าทายที่อีกฝ่ายส่งออกมาเช่นกันและด้วยอายุที่ใกล้เคียงกันทำให้ทั้ง 2 ต่างก็อยากพิสูจน์พลังฝีมือของตัวเองแม้จะอยู่ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือด
อัทเมนรวบรวมสมาธิจับจ้องไปที่ทหารหนุ่มคนนั้นจนมองเห็นอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแม้จะอยู่ห่างไกลกันก็ตามจากนั้นก็เริ่มระดมยิงธนูเข้าใส่ทันที ลูกธนูนับสิบถูกระดมยิงเข้าใส่ทหารหนุ่มเพียงเป้าหมายเดียวลูกธนูพุ่งผ่านช่องว่างระหว่างกองกำลังของทั้ง 2 ฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันได้อย่างเหลือเชื่อ ทหารหนุ่มเองก็ก้าวไปหน้าพร้อมกับฟาดดาบเข้าสกัดลูกธนูที่ยิงเข้ามาได้ทั้งหมดอย่างไม่เกรงกลัวและครั้งนี้ลูกธนูทั้งหมดถูกสกัดให้พุ่งลงดินทั้งหมดเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายคนอื่นๆที่กำลังสู้รบกันอยู่.....ระลอกแรกผ่านไปอัทเมนกระโดดขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับเล็งธนูมาที่ทหารหนุ่มแล้วยิงออกไปอย่างรวดเร็ว
...............ฟิ้ว!
ครั้งนี้แม้ว่าอัทเมนจะยิงมาเพียงแค่ลูกเดียวแต่ลูกธนูก็พุ่งมาเร็วและแรงจนแหวกอากาศโดยรอบมาเป็นทาง ทหารหนุ่มปักหลักจับดาบสองมือยกดาบขึ้นเหนือหัวแล้วกระโดดพุ่งตัวพร้อมกับฟาดดาบเข้าใส่ลูกธนูของอัทเมนที่พุ่งเข้ามาจนเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
..............ตึง!
หลังการปะทะลูกธนูของอัทเมนแหลกสลายไปส่วนทหารหนุ่มนั้นกระเด็นถอยหลังออกไปไกลกว่าจะหยุดตัวเองได้ก็ต้องใช้ดาบปักพื้นเพื่อหยุดตัวเองเอาไว้ อัทเมนกำลังง้างธนูเพื่อยิงซ้ำแต่ระหว่างนั้นกลับมีเสียงของสมาชิกของกองกำลังต่อต้านตะโกนขึ้นมาว่า
“ พวกมหาเวทมันมาแล้วพวกเราถอยเร็ว ”
และยังไม่ทันขาดคำก็ปรากฏยักษ์หินตนหนึ่งขึ้นมาที่กลางบริเวณสู้รบแล้วทำการโจมตีเข้าใส่กองกำลังต่อต้านทันทีจนแตกกระเจิง แต่นอกจากกองกำลังต่อต้านแล้วเหล่าทหารของอควอเรียสที่อยู่ใกล้ก็พลอยโดนโจมตีเข้าไปด้วยเช่นกันทำให้
ทหารหนุ่มรู้สึกข้องใจอย่างมากจึงคิดจะเข้าไปหายักษ์หินตนนั้นแต่บาสเทียก็พูดห้ามขึ้นมาว่า
“ ไม่ต้องไปหรอก มันเป็นพวกเดียวกับเรา ”
ทหารหนุ่มจึงหันไปประคองให้บาสเทียลุกขึ้นยืนแล้วบาสเทียจึงพูดถามขึ้นมาว่า
“ เจ้ามาใหม่ใช่ไหม ? ชื่ออะไรล่ะ ? ”
ทหารหนุ่มตอบกลับไปในทันทีว่า
“ ครับ ข้าชื่อ เบรฟ ”
บาสเทียจ้องมองมาที่เบรฟแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ เบรฟอย่างนั้นเหรอ ก็เหมาะกับเจ้าดี ”
จากนั้นบาสเทียก็จ้องมองไปที่ยักษ์หินตนนั้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ เตรียมตัวกลับกันเถอะการต่อสู้มันจบลงแล้ว ”
..............ยักษ์หินคือเวทอสูรรับใช้ของเหล่ามหาเวทและด้วยพลังเวทมันร้ายกาจนี้เองจึงทำให้อาณาอควอเรียสสามารถรวบรวมดินแดนของโซเดียให้เป็นหนึ่งได้สำเร็จ ว่ากันว่าถ้าเหล่ามหาเวททั้ง 4 แห่งอควอเรียสลงสนามรบพร้อมกันจะไม่มีสิ่งใดต่อต้านได้จึงทำให้ฐานะของเหล่ามหาเวทกับผู้ใช้เวทมนตร์ถูกยกระดับเป็นชนชั้นสูงของอาราจักรอควอเรียส

..............อัทเมนต้องจำใจนำกำลังล่าถอยออกไปละทิ้งพื้นที่เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นแต่ก่อนจากจากไปอันเมนยังคงจับจ้องมาที่เบรฟ.....

...............กองทัพของอควอเรียสกลับมายังลิบราที่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักร ลิบราเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนและประชาชนมากมายสภาพบ้านเรืองถูกจัดวางอย่างเป็นระบบและวิทยาการณ์การที่ก้าวหน้ากว่าทุกเมืองในดินแดนโซเดียซึ่งก็มาจากเหล่านักปราชญ์ที่เป็นเสาหลักอีกหนึ่งของอาราจักรอควอเรียส เหล่าทหารที่ผ่านการสู้รบถูกส่งกลับมายังเขตที่พักซึ่งเหล่ากองทัพทหารจะไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษอะไรมากนักเท่ากับเหล่ามหาเวทและเหล่านักปราชญ์การเป็นอยู่จึงแทบไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป เมื่อมาถึงที่พักเหล่าที่เหนื่อยล้าต่างล้มตัวลงนอนกันทั่วบริเวณและพร้อมกับคำพูดที่บ่นอุบ
ทหารคนหนึ่งทรุดตัวนั่งลงแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ เหนื่อยแทบขาดใจเลยว่ะ เป็นพวกมหาเวทนี่ก็ดีไปแปดอย่างมาช้าจบศึกก็รีบกลับก่อนแล้วแบบนี้ทำไมไม่มาให้ไวๆว่ะ ”
ทหารอีกคนที่อยู่ใกล้ๆเอ่ยปากพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า
“ ถ้าวันพรุ่งนี้มีการคัดตัวจอมเวทเจ้าจะเหนื่อยยิ่งกว่านี้ ”
เบรฟที่ยืนอยู่ใกล้เกิดสงสัยจึงพูดถามขึ้นมาว่า
“ การคัดตัวจอมเวทเกี่ยวอะไรกับทหารอย่างพวกเราด้วย ”
ทหารคนนั้นจึงพูดกลับไปทันทีว่า
“ เจ้าคงมาใหม่ซินะถึงยังไม่รู้อะไร ทหารอย่างพวกเราก็แค่หนูทดลองยาให้กับพวกจอมเวทเท่านั้น ”
ทหารคนที่เอ่ยปากพูดคนแรกล้มตัวลงนอนกับพื้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ ไม่ต้องห่วงไปหรอกน้องใหม่เดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้เอง ”
พอพูดยังไม่ทันขาดคำก็มีคนถือเอกสารเดินเข้ามาแล้วก็ประกาศขึ้นมาว่า
“ ขอให้หน่วยทหารที่นี่ส่งคนไปร่วมการคัดตัวจอมเวทในวันพรุ่งนี้จำนวน 10 คน นี่เป็นคำสั่งจากสภาสูงโปรด
ปฏิบัติตามด้วย ”
หลังจากอ่านประกาศเสร็จคนเดินเอกสารก็เดินจากไป ทหารคนที่เพิ่มเอ่ยปากพูดไปลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหน้าตาที่เบื่อหน่ายเต็มทีแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอ บ้าเอ๊ย ”
เหล่าทหารต่างเมินหน้าหนีบางก็ก้มหน้าลงด้วยความสิ้นหวัง เบรฟยังคงสงสัยกับสิ่งที่กำลังขึ้นจนบาสเทียที่ได้รับการปฐม พยายามเสร็จเดินเข้าเหล่าทหารทั้งหมดจึงพากันลุกขึ้นยืนเพื่อทำการเคารพ บาสเทียมองหาทหารที่ได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุดเพื่อเลือกไปร่วมการคัดตัวจอมเวทที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้และบาสเทียก็จำใจต้องเลือกออกมาทั้งหมด 10 คนและ 1 ในนั้นก็มีเบรฟร่วมอยู่ด้วย หลังจากเลือกเสร็จบาสเทียก็เดินออกไปด้วยความละอายที่ต้องส่งลูกน้องออกไปเจอกับเรื่องเลวร้ายเบรฟรีบเดินตามออกไปเพื่อหวังจะถามว่าการคัดตัวจอมเวทมันคืออะไรกันแน่แต่กลับเห็นบาสเทียเดินไปที่กำแพงแล้วใช้มือไปที่กำแพงอยู่หลายครั้งจากนั้นก็หันมาพูดกับเบรฟว่า
“ คนที่มาใหม่อย่างเจ้าคงสงสัยซินะว่าจะเจออะไรในวันพรุ่งนี้ ”
เบรฟพยักหน้าตอบรับบาสเทียจึงเดินเข้ามาตบที่ไหล่ของเบรฟแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
“ ข้ามันเป็นแม่ทัพไม่ได้เรื่องแค่จะปกป้องลูกน้องที่ร่วมรบยังทำไม่ได้ ข้าขอฝากชีวิตของทุกไว้กับเจ้าได้ไหม ? ”
ถึงเบรฟยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่เขากลับพยักหน้าตอบรับโดยไม่ลังเล บาสเทียตบไหล่เบรฟแล้วก็เดินจากไป เบรฟยืนมองบาสเทียผู้ซึ่งเป็นแม่ทัพเดินจากไปและตั้งคำถามในใจว่าอะไรถึงทำให้แม่ทัพอย่างบาสเทียกับเหล่าทหารรู้สึกสิ้นหวังได้ขนาดนี้แม้แต่ตอนต่อสู้และจะเพลี่ยงพล้ำให้แก่กองกำลังต่อต้านเขายังไม่สิ้นหวังได้ขนาดนี้
วันรุ่งขึ้นเบรฟและเพื่อนทหารอีก 9 คนถูกพาตัวมายังลานประลองของเมืองซึ่งเป็นสถานที่จัดการคัดตัวจอมเวทนั่นเอง ทุกคนก้าวเดินลงไปยังลานประลองด้วยความสิ้นหวังส่วนด้านบนของลานประลองก็มีสักขีพยานคนสำคัญ 1 ใน 4 มหาเวทที่มีชื่อว่า เออเน็สท์ และองค์หญิง เอลิเซีย ที่เติบโตเป็นสาวสวยสมวัย 18 ปีก็ร่วมชมอยู่ด้วย
เมื่อทุกอย่างมากันครบเรียบร้อยการคัดตัวจึงเริ่มขึ้นมีจอมเวททั้งหมด 5 คนปรากฏตัวต่อเหล่าทหารทั้ง 10 ในลานประลองและไม่ทันบอกกล่าวอะไรก็ทำการโจมตีใส่เหล่าทหารทันทีด้วยเวทมนตร์พื้นฐานขั้นที่ 1 การคัดตัวจอมเวทแท้จริงแล้วก็คือการเลื่อนขั้นให้กับพวกจอมเวทฝึกหัดโดยใช้เหล่าทหารเป็นตัวทดสอบหรือหนูทดลองนั้นเอง หลายครั้งมีทหารที่ร่วมคัดตัวต้องล้มตายและบาดเจ็บโดยที่พวกจอมเวทไม่มีความผิดใดๆแต่ถ้าทหารคนใดทำร้ายพวกจอมเวทที่ร่วมคัดตัวจะมีความผิดจึงเป็นต้นเหตุของความสิ้นหวังกับเหล่าทหารที่ร่วมคัดตัวส่วนเหล่าจอมเวทกลับไม่รู้สึกผิดและสนุกกับการทำแบบนี้เรื่อยมาจนเป็นเหมือนกับการเล่นสนุกเสียมากกว่า
ทหารจาก 10 คนถูกโจมตีจนล้มลงไปเหลือเพียงครึ่งเดียวเบรฟยังคงยืนหยัดอยู่ได้แต่อีก 4 คนที่เหลือเริ่มไม่ไหวเพราะเอาแต่ป้องกันแถมร่างกายยังบอบช้ำจากการต่อสู้ เบรฟจึงเริ่มทำการตอบโต้พุ่งตัวออกไปฟาดดาบทำลายเวทมนตร์ที่เหล่าจอมเวทโจมตีเข้ามาทั้งหมดแล้วหันไปพูดกับเพื่อนทหารว่า
“ สู้ซิ ถ้าไม่สู้พวกเราจบแน่ ”
เพื่อนทหารที่เหลือยังคงลังเลที่จะตอบโต้แต่เมื่อเบรฟหันหน้าเข้าต่อสู้จึงตั้งท่าเข้าร่วมต่อสู้เช่นกัน เวทมนตร์ขั้นที่ 1 ของเหล่าจอมเวทฝึกหัดเริ่มไม่ได้ผลถูกเบรฟและเพื่อนทหารทำลายทิ้งบาสเทียที่มานั่งชมอยู่ด้วยก็แค่ดีใจอยู่ลึกๆ เมื่อเวทมนตร์ขั้นที่ 1 ไม่ได้ผลเหล่าจอมเวทฝึกหัดจึงหันไปรวมตัวกันยืนตำแหน่งเป็นดาวห้าแฉกพร้อมกับร่ายเวทมนตร์บางอย่างและเพียงไม่นานนักก็ปรากฏวงแหวนเวทธาตุไฟกับน้ำแข็งขึ้นในลานประลองพร้อมกับการมาของสัตว์เวทมนตร์ สิงโตธาตุไฟที่มีเปลวไฟอยู่รอบแผงคอกับเสือธาตุน้ำแข็งที่มีไอเย็นปกคลุมทั่วร่าง
บาสเทียเห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า
“ นี่มันผิดกฎนี่นา การคัดตัวจอมเวทจะใช้เพียงแค่เวทมนตร์ขั้นที่ 1 ไม่ใช่เหรอ ”
แต่เออเน็สท์ 1 ใน 4 มหาเวทก็พูดแย้งขึ้นมาว่า
“ แค่เวทรับใช้ขั้นที่ 1 มันขั้นที่ 1 เหมือนกันไม่ถือว่าผิดกฎ ”
ด้วยฐานะของเออเน็สท์คำพูดของเขาย่อมมีน้ำหนักมากกว่าถึงแม้คำพูดนั้นมันจะดูไร้เหตุผลยังไงก็ตามเพราะเวทมนตร์ปกติกับเวทรับใช้ระดับขั้นมันต่างมากถึงจะขั้นที่ 1 เท่ากันก็ตาม บาสเทียได้แต่กัดฟันนิ่งเงียบด้วยความเจ็บใจที่ต้องเห็นลูกน้องของตัวเองเผชิญอันตรายดดยที่เขาช่วยอะไรไม่ได้
สัตว์รับใช้เริ่มบุกเข้าโจมตีเข้าใส่เหล่าทหารอีกครั้งโดยเริ่มจากทหารทั้ง 4 ทีเริ่มอ่อนล้าและเพียงไม่นานทหารทั้ง 4 ก็ถูกจัดการจนล้มลงไปทั้งหมดเหลือเพียงเบรฟอยู่คนเดียวเท่านั้น สัตว์รับใช้ทั้ง 2 เดินไปรอบๆตัวของเบรฟรอเพียงคำสั่งจากเหล่าจอมเวทฝึกที่ผนึกกำลังควบคุมมันอยู่และดูเหมือนเหล่าจอมเวทฝึกหัดจะจงใจให้เหลือเบรฟไว้เป็นคนสุดท้ายเพราะเบรฟเป็นทหารเพียงไม่กี่คนที่กล้าตอบโต้พวกเขาจึงคิดสั่งสอนให้รู้สำนึก......... โปรดติดตามตอนต่อไป(ตัดจบเป็นการ์ตูนรายสัปดาห์เลยทีเดียว )

รบกวนเหล่าสมาชิกที่หลวมตัวเข้ามาอ่านให้คำติชมหรือแนะนำกันด้วยนะคับ ผมอยากเขียนนิยายเรื่องนี้ให้กับสมาชิกเกมแม็กทุกคนนะคับเลยอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม

............ติดตามตอนที่ 2 ได้ที่โพสต์ใหม่ด้านล่างนะคับ.............

เขียนโดย chanecrood ( 99 ราตรี)