เมื่อ facebook ถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายชีวิต ...

First Post Last Post  
jackassman 02 มิถุนายน 2553 , 00:25:43



ความขัดแย้งทาง ด้านความคิดในสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นปัญหาสำคัญ เมื่อมีการนำข้อมูลของฝ่ายที่เห็นต่างมาปลอมแปลงให้ร้ายจนเกิดความเดือดร้อน หนึ่งในผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคือนักศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งมีผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลส่วนตัวในอินเทอร์เน็ตไปสร้างเฟซบุ๊กหมิ่นสถาบัน

นับ พันข้อความส่งมาต่อว่า กว่าร้อยสายโทรมาด่าทอและข่มขู่ ทำให้ นส.กมลชนก ยิ้มพิมพ์ใจ หรือ น้องไอซ์ นิสิตปีสาม มศว.ต้องเครียดจัด หวาดระแวง จนหวาดกลัวเสียงโทรศัพท์

หญิงสาวคนนี้ทำธุรกิจออนไลน์ขายคอนแทค เลนส์ เพื่อหารายได้แบ่งเบาทางบ้าน แต่พลันเมื่อภาพและที่อยู่ของเธอไปปรากฏบนเฟซบุ็ค ซึ่งโพสท์ข้อความหมิ่นสถาบัน ก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป

เธอเชื่อ ว่าเป็นผลมาจากการที่เธอไปโพสท์ข้อความ ต่อต้านการหมิ่นสถาบัน จนฝ่ายที่คิดต่างเห็นเข้าก็เกิดความโกรธแค้น นำไปสู่การใช้วิธีการสกปรก กลั่นแกล้งให้เธอกลายเป็นคนหมิ่นสถาบันไปเสียเอง

น้อง ไอซ์ เปิดใจระบายความรู้สึกที่ต้องตกเป็นเหยื่อของความโกรธแค้นอย่างไร้เหตุผลว่า \"คนที่ทำเขายังมีจิตใจเป็นคนอยู่หรือเปล่า จะให้เด็กมหาวิทยาลัยคนหนึ่้งเสื่อมเสียทั้งชื่อเสียง เสื่อมเสียไปถึงสถาบันเลยเหรอ...สุดยอดมาก\"

เธอยอมรับว่าเหตุการณ์ ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นกับเธอ รุนแรงเกินกว่าที่ชีวิตจะรับได้ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการร้องไห้ \"ร้องไห้ค่ะ ร้องมาก วันแรกๆ ที่โดนเครียดมาก เฮ้ย! ทำไมชื่อเรา ข้อมูลส่วนตัวเรา ทุกอย่าง ทำไมมันถูกไปโพสท์เป็นข้อความ ซึ่งที่จริงมันคงไม่มีใครกล้าทำขนาดนี้หรอกค่ะ ลงทั้งชื่อจริงนามสกุลจริง\"

เธอ เพียงแค่ฝากบอกคนที่กำลังตัดสินเธอจากเฟซบุคหรือตัดสินว่าเธอเป็นคนผิดไป แล้วนั้นให้ทราบว่า เธอไม่ได้คิดและกระทำอย่างที่ถูกกล่าวหา

ผู้หลง เชื่อข้อความในเฟซบุ็คโดยสร้างขึ้น เพื่อใส่ร้าย ได้โทรศัพท์ไปต่อว่ายังสถานศึกษามากมาย จนถึงขั้นเสนอให้ไล่ออก กระทั่งมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เธอโดนกลั่นแกล้ง

\"เหตุการณ์นี้มี ทั้งคนที่โกรธ เช่น โทรศัพท์เข้ามาที่สถาบัน ตำหนิๆ แล้วก็วางสายไป บางคนพูดจารุนแรงถึงขั้นว่าให้ไล่เขาออกไปเลยก็มี บางคนที่มีเหตุผลหน่อยก็จะลำดับให้เราฟังว่าทราบมาจากแหล่งไหน อย่างเช่น ฟอร์เวิร์ดเมล์ เขาก็อยากให้ทางมหาวิทยาลัยช่วยตรวจสอบก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็อยากให้ทางมหาวิทยาลัยชี้แจงว่าจะพิจารณาบทลงโทษนิสิต รายนี้อย่างไร

พ.ต.อ. ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดี DSI ซึ่งรับผิดชอบคดีหมิ่นสถาบันทั้งหมด ยอมรับว่า เป็นสิ่งที่ยากมากจนเกือบจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการเข้ากลุ่มสังคมออนไลน์ เช่น ไฮไฟว์, เฟซบุ๊ค หรือทวิตเตอร์ เพราะอาจมีผู้คัดลอกข้อมูลไปแอบอ้าง หรือปลอมแปลงให้เกิดความเสียหาย

ดังนั้น ผู้ที่เสพข้อมูลต้องมีสติ มีวิจารณญาณในทันที และต้องไม่ส่งต่อข้อความที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย เพราะตามกฏหมายคอมพิวเตอร์ พศ.2550 ระบุชัดเจนว่า ผู้ส่งต่อข้อความ มีโทษเทียบเท่ากับผู้โพสท์ข้อความ คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตลอดระยะเวลาสี่ปีมา นี้ มีกระทู้และเว็บบอร์ดเข้าข่ายการหมิ่นสถาบันนับพันกระทู้ มีการแจ้งความดำเนินคดีทั่วประเทศแล้วกว่า 200 คดี ผู้ทำผิดหลายคดีเป็นบุคคลๆ เดียวกัน ผู้ คิดใช้วิธีนี้จึงอาจจะยังไม่ทราบว่า บทลงโทษของคดีนั้นรุนแรงถึงขั้นคูณอัตราโทษเท่ากับจำนวนครั้งที่โพสท์ข้อ ความ

คดีหมิ่นสถาบันถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายคนอื่นได้ง่ายมาก ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้


เครดิต จาก Sanook

ผมยังเข้าไปเล่นได้ไม่กี่ทีก็เบื่อแล้วครับ ไม่เห็นจะมีอะไร

ถ้าจะให้มีประโยชน์ ก็ใช้โปรแกรม จีวิบเบอร์ไปเลย ทีเดียว ดูดข้อมูลข่าวสารที่ Hotๆ มาอ่านเลย ไม่ต้องไปติดตามคนนู้นคนนี้ให้เสียเวลา

แต่ไอ้โปรแกรมตัวนี้มันดันไป อยู่เฉพาะระบบของ Linux ระบบเดียวเนี้ยะสิ